‘ศรีสุวรรณ’ร้องนายกฯสอบ‘ผู้บริหารสนามมวยลุมพินี’ละเลยหน้าที่ ปล่อยแพร่เชื้อ‘โควิด’
27 มีนาคม 2563 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า ตนได้ส่งหนังสือร้องเรียนไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน 2534 ประกอบ ม.9 วรรคสอง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม 2551 เพื่อตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนและลงโทษทางจริยธรรมและวินัย ผู้บริหารสนามมวยลุมพินีที่ฝ่าฝืนคำสั่งหรือนโยบายเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่กระจายชองเชื้อโควิด-19
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการประชุมของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีข้อสั่งการในการกำหนดมาตรการระยะเร่งด่วนสำหรับการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ใน “มาตรการป้องกันโรคและสุขภาพ” ว่า ให้ส่วนราชการและหน่วยงานอื่นของรัฐ ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการภาคเอกชน ให้หลีกเลี่ยง หรือเลื่อนการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของประชาชนจำนวนมาก และอาจมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค โดยไม่จำเป็น ซึ่งข้อสั่งการดังกล่าว ถือว่าเป็นคำสั่งหรือนโยบายเร่งด่วนที่ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม จะต้องน้องรับนำมายึดถือปฏิบัติโดยพลัน ตามสายงานการบังคับบัญชา ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
นายศรีสุวรณ อ้างว่า แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้บริหารสนามมวยลุมพินีไม่ได้มีการน้อมรับดำเนินการให้เป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีตามข้อสั่งการข้างต้นแต่อย่างใด โดยปรากฏเป็นการทั่วไปว่าได้มีโปรโมเตอร์มวยได้จัดให้มีการชกมวยไทยขึ้นในวันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2563 ที่สนามมวยลุมพินี รามอินทรา โดยมีคู่มวยมาทำการขึ้นชกทั้งสิ้น 11 คู่ หลังจากที่การชกมวยศึกใหญ่ดังกล่าวผ่านพ้นไป ปรากฏว่ามีการติดเชื้อโควิด-19 กันอย่างแพร่หลายและได้กลายเป็นไฟลามทุ่ม ทำให้มีการแพร่กระจายของเชื้อไปในวงกว้าง ทั้งดารานักแสดง , พิธีกรชื่อดัง รวมถึงนักวิจารณ์มวย และคนอื่นๆ ในวงการมวยก็ติดเชื้อไปกว่า 52 คนและไม่มีทีท่าจะสิ้นสุด
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่า กองทัพบกในฐานะเจ้าของสถานที่ คือ สนามมวยลุมพินี โดยมี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้บังคับบัญชาและในฐานะประธานคณะกรรมการสนามมวยลุมพินี และ พล.ต.ราชิต อรุณรังษี เจ้ากรมสวัสดิการกองทัพบก ซึ่งเป็นนายสนามมวยลุมพินี ย่อหย่อนต่อการปฏิบัติหน้าที่อย่างร้ายแรง สมควรที่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะได้ใช้อำนาจตาม ม.11 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน 2534 ประกอบ ม.9 วรรคสอง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม 2551 เพื่อตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนและลงโทษ การกระทำที่ย่อหย่อนต่อการปฏิบัติตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี จนเป็นเหตุให้เกิดการแพร่กระจายชองเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปในวงกว้าง ทำให้ประเทศชาติ ประชาชนเกิดความเสี่ยง และสูญเสียเงินงบประมาณแผ่นดินไปในการป้องกันและรักษาประชาชนเป็นจำนวนมากในขณะนี้ด้ว
นอกจากนั้น ขอให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวน เพื่อพิจารณาลงโทษทางวินัย อันเนื่องมาจากการฝ่าฝืนค่านิยมหลักของมาตรฐานจริยธรรม(ข้อ 5.5, ข้อ 5.6, ข้อ 5.9, ข้อ 5.10, ข้อ 5.12 และข้อ 5.14) ใน “ระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยประมวลจริยธรรม 2551” อย่างร้ายแรงอีกด้วย ซึ่งตามระเบียบข้อ 7 ระบุไว้ชัดเจนว่า “การฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามค่านิยมหลักของมาตรฐานจริยธรรมในระเบียบนี้ ถือเป็น การกระทำผิดวินัย จักต้องรับโทษหรือรับทัณฑ์ตามกฎหมายว่าด้วยวินัยทหาร หรือแบบธรรมเนียมของข้าราชการกระทรวงกลาโหมประเภทนั้นๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี