กมธ.ปราบโกงชี้กักตุนหน้ากากโยงจนท.รัฐ จับพิรุธแค่ 3 วันส่งไปตปท.เพิ่ม 44 % แฉมีผลประโยชน์ในตลาดมืดหลายพันล้าน
วันที่ 4 เมษายน 2563 นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการกักตุนหน้ากากอนามัยว่า ในวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมาธิการชุดที่ 2 ที่มีตนเป็นประธานได้สรุปข้อมูลเบื้องต้นเรื่องการกักตุนหน้ากากอนามัย ภายหลังจากที่เชิญหน่วยงานต่าง ๆ มาให้ข้อมูลอาทิ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กรมศุลกากร และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เหลือเพียงข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ที่ยังไม่ได้มาให้ข้อมูลต่อคณะอนุกมธ.
"เบื้องต้นพอจะสรุปข้อมูลได้ว่า มีเหตุอันควรสงสัยได้ว่า มีกระบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย อาจเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐ หลังจากนี้อนุกมธ.จะนำข้อมูลที่ได้ไปหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อเชื่อมโยงไปถึงตัวบุคคลว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง"นายธีรัชชัย กล่าว
นายธีรัจชัย กล่าวว่า ข้อมูลน่าสงสัยที่อนุกมธ.ตรวจสอบพบเบื้องต้นคือ 1.การส่งออกหน้ากากอนามัยไปต่าง ประเทศที่ในช่วงวันที่ 1-3ก.พ.2563 พบว่า มีตัวเลขการส่งออกมากกว่าปกติถึง 44% ถือว่าผิดปกติ อาจเชื่อมโยงไปถึงประกาศของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2563 ที่ห้ามส่งออกหน้ากากอนามัยเกิน 500 ชิ้น จึงเป็นไปได้หรือไม่ที่บริษัทผู้ผลิตต่างๆรู้ข้อมูลล่วงหน้าว่า ในวันที่ 4 ก.พ.จะมีออกประกาศดังกล่าว จึงเร่งส่งออกหน้ากากอนามัยไปต่างประเทศ และอาจเชื่อมโยงไปก่อนหน้านี้ที่คนในรัฐบาลระบุว่า มีสต๊อกหน้า กากอนามัย 200 ล้านชิ้น แต่ขณะนี้ไม่รู้ว่าหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น หายไปไหน ซึ่งต่อมาอธิบดีกรมการค้าภายในปฏิเสธว่า มีกำลังการผลิตเพียงแค่ 1.2 แสนชิ้นต่อวัน และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ก็ระบุว่า จำนวน 200 ล้านชิ้นเป็นเพียงแค่วัตถุดิบ ดังนั้นข้อมูลที่หน่วยงานรัฐพูดไม่ตรงกัน
นายธีรัจชัย กล่าวว่า 2.อนุกมธ.สงสัยว่า จำนวนการผลิตหน้ากากอนามัยของบริษัทต่างๆ น่าจะมีกำลังการผลิตมากกว่า 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน เห็นได้จากจำนวนมิเตอร์ค่าไฟฟ้าของโรงงานผลิตหน้ากากที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะเดียวกันนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า โรงงานต่างๆ มีการเพิ่มยอดการผลิตหน้ากากเป็น 2.3 ล้านชิ้นต่อวัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นประมาณ 1 ล้านชิ้น หายไปไหน อนุกมธ.เชื่อว่า หน้ากากอนามัยผลิตออกมาอย่างเพียงพอ แต่ไม่ถูกส่งไปขายในตลาดทั่วไป แต่นำไปขายในตลาดมืดตามโลกออนไลน์ในราคาแพงเกินจริง ขั้นต่ำชิ้นละ 15 บาท จากต้นทุนชิ้นละ 2 บาทและหากมีการนำสต๊อกหน้ากาก 200 ล้านชิ้น ไปขายในตลาดมืดร่วมด้วย เชื่อว่าน่าจะมีผลประโยชน์จากการกักตุนหน้ากากอนามัยไปขายเป็นจำนวนเงินหลายพันล้านบาท
"ขณะนี้อนุกมธ.เห็นจิ๊กซอว์ต่าง ๆ หมดแล้ว เหลือแค่เชื่อมโยงหาหลักฐานไปถึงตัวบุคคลที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้ยังต้องรอข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ที่ยังไม่ส่งให้กมธ.ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญ อาทิ ข้อมูลกำลังการผลิตหน้ากากอนามัย 11 แห่ง ในแต่ละวัน ข้อมูลการจัดสรรหน้ากากอนามัยไปให้หน่วยงานต่างๆ แต่ละวัน รวมถึงสต๊อกหน้ากาก 200 ล้านชิ้นมีจริงหรือไม่"นายธีรัจชัย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี