เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 เวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีแบบเต็มคณะ ที่ตึกสันติไมตรี โดยจำกัดผู้เข้าร่วมประชุมและผู้ติดตามไม่ให้เกิดความแออัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จะพิจารณารายละเอียดการออก พระราชกำหนด 3 ฉบับ ได้แก่ พระราชกำหนดการให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษ หรือซอฟท์โลน ,พระราชกำหนด การให้อำนาจ ธปท.ซื้อตราสารหนี้เอกชนที่ครบกำหนดชำระ และ พระราชกำหนด การให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน
นอกจากนี้ มีรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จะพิจารณาขยายกรอบวงเงินที่จะใช้ดูแลและเยียวยาเศรษฐกิจในระยะที่ 3 โดยเพิ่มวงเงินมากขึ้น จากเดิมคาดว่าจะอยู่ที่ 1.6 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 1.9 ล้านล้านบาท เนื่องจากมีความกังวลว่ากรอบวงเงินเดิมจะไม่เพียงพอในการพยุงเศรษฐกิจในช่วงต่อจากนี้ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้หารือร่วมกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะให้แต่ละกระทรวงเสนอโครงการที่จะดำเนินการช่วยเหลือประชาชน รวมถึงให้เสนอโครงการที่เกี่ยวข้องด้านสาธารณสุข เพื่อสรุปตัวเลขเม็ดเงินที่จะใช้อีกครั้ง โดยอาจจะไม่มีมาตรการออกมาอย่างชัดเจน แต่จะปรับเปลี่ยนให้แต่ละกระทรวงเสนอมาเหมือนกับการขอใช้งบประมาณประจำปี เพื่อเป็นการกระจายความช่วยเหลือให้ตรงจุด ซึ่งคณะรัฐมนตรีอาจจะหารือถึงรายละเอียดเรื่องการตัดงบประมาณจากทุกกระทรวง เพื่อมาใช้แก้ปัญหาวิกฤติโควิด-19
ขณะที่กระทรวงการคลังจะเสนอร่างประกาศกระทรวงการคลังเรื่องการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับของที่นำเข้ามาเพื่อใช้รักษาวินิจฉัยหรือป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ด้านกระทรวงศึกษาธิการ เสนอเพื่อรับทราบการปรับการเปิดภาคเรียน ที่หนึ่ง ปีการศึกษา 2563โดยให้สถานศึกษาเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง ปีการศึกษา 2563 จากวันที่ 16
พฤษภาคม พ.ศ.2563 เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการจะปรับวิธีการเรียน การสอนให้สอดคล้องกับหลักสูตรที่กำหนดไว้ในแต่ละระดับการศึกษา ของปีการศึกษา 2563โดยกระทรวงศึกษาธิการจะได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับศูนย์บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในการ แก้ปัญหาแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศอฉ.โควิด-19) ต่อไป
นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาฯ เตรียมขออนุมัติหลักการโครงการส่งเสริมการพัฒนาโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในโครงการตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีให้มีคุณภาพ
ส่วนวาระเพื่อทราบนั้น จะเป็นเรื่องผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารงานของรัฐบาลปี 2563 ครบ 6 เดือนของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีจะแถลงข่าวผลการประชุมคณะรัฐมนตรีและตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนที่ได้ส่งให้ก่อนล่วงหน้าแล้วโดยจะใช้ห้องสีฟ้าตึกสันติไมตรีในการแถลงผ่านช่องทางไลฟ์ไทยคู่ฟ้า
ทั้งนี้ ทางทำเนียบรัฐบาลยังคงเข้มงวด และขอความร่วมมือสื่อ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังการแถลงข่าวดังกล่าวหรือถ่ายภาพแต่อย่างใด และงดสัมภาษณ์รัฐมนตรี เพื่อลดความแออัดป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโกวิท 1 9
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี