กกต.รับไม่มีอำนาจสั่งเลื่อน-ขยายเวลาจัดประชุมใหญ่พรรคการเมือง แนะให้แจ้งนายทะเบียนพรรคการเมือง อ้างเหตุติดประกาศโควิด-พ.ร.กฉุกเฉิน
เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.เป็นประธานการประชุม โดยมีการพิจารณากรณีที่พรรคการเมืองหลายพรรคได้มีหนังสือสอบถามกกต.เกี่ยวกับการเลื่อนหรือขยายการจัดประชุมใหญ่ของพรรคการเมือง เพื่ออนุมัติรายงานการดำเนินกิจการของพรรคการเมือง ในรอบปี พ.ศ.2562ตามมาตรา 43 และอนุมัติงบการเงินของพรรคการเมือง ในรอบปี พ.ศ.2562 ตามมาตรา 61 ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ภายในเดือน เม.ย.เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
โดยภายหลังการประชุมสำนักงานได้ทำเอกสารเผยแพร่ข่าว โดยระบุว่า กกต.ได้พิจารณาหนังสือสอบถามดังกล่าวข้างต้นแล้ว เห็นว่า ไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดให้อำนาจกกต.หรือนายทะเบียนพรรคการเมืองเลื่อนหรือขยายการจัดประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองได้ ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองไม่อาจจัดประชุมใหญ่ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดได้ เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ และนายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร ให้พรรคการเมืองแจ้งเหตุดังกล่าวต่อนายทะเบียนพรรคการ
เมือง ทั้งนี้ สำนักงาน กกต.จะได้มีหนังสือตอบข้อสอบถามพรรคการเมืองข้างต้น และแจ้งให้ทุกพรรคการเมืองทราบเป็นการทั่วไปต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า พรรคการเมืองจะต้องส่งหนังสือชี้แจงถึงเหตุที่พรรคการเมืองไม่สามารถประชุมใหญ่พรรคได้ต่อนายทะเบียนเพื่อเป็นหลักฐาน จะได้ไม่ต้องโดนโทษปรับและโทษอาญาตามกฎหมาย หากมีการร้องเรียนมา ขณะที่มีพรรคการเมืองประมาณ 20 พรรค บางพรรคที่ได้ประชุมใหญ่พิจารณางบการเงินส่ง กกต.แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี