'เจ๊หน่อย'โชว์กึ๋นเบรกรัฐบาลกู้เงิน หวั่นเชิญ 20 เจ้าสัวโดนครหาต่างตอบแทน

'เจ๊หน่อย'โชว์กึ๋นเบรกรัฐบาลกู้เงิน หวั่นเชิญ 20 เจ้าสัวโดนครหาต่างตอบแทน

วันเสาร์ ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2563, 18.44 น.

“เจ๊หน่อย” เบรครัฐบาลอย่ากู้เงินตั้งแต่บาทแรก แนะลองตัดงบปี 63 ที่ไม่จำเป็นก่อน หวั่นเชิญ 20 เจ้าสัว ไม่พ้นสังคมครหาเรื่องเอื้อประโยชน์ผลต่างตอบแทน

วันที่ 18 เมษายน 2563 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงมาตรการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งปิด กิจการและบริการต่างๆโดยระบุว่า หากรัฐบาลออกมาตรการล่าช้า จะดึงให้ภาคธุรกิจ ล้มตามกันทั้งระบบ ดังนั้นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยเรียกร้องคือ มาตรการเยียวยา โดยเฉพาะเริ่มจากการตัดงบประมาณปี 2563 3.3ล้านล้านบาท ในส่วนที่ไม่จำเป็น เร่งด่วน ประมาณ 10 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ จะทำให้ได้งบในส่วนดังกล่าวประมาณ 3 แสนล้าน ถึง 5 แสนล้านบาท เพื่อมาเยียวยาประชาชน ประมาณ 20 ล้านคน หรือเดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน โดยจะใช้เงินราว 3แสนล้านบาท และในส่วนของภาคการเกษตร ซึ่งประสบปัญหามาตั้งแต่ภัยแล้ง กว่าครึ่งปีที่ประสบความยากลำบาก และต้องมาเผชิญครับโรคระบาด ซึ่งมีอยู่ประมาณ 3 ล้านครัวเรือน ควรเยียวยาครัวเรือนละ 3หมื่น5พันบาท จะใช้งบประมาณ 1 แสนล้านบาทดังนั้นรัฐบาลอย่าอ้างว่าไม่มีงบประมาณ หากไม่ทดลองตัดงบประมาณปี 2563 ซึ่งที่ผ่านมามีแต่คำพูดแต่ยังไม่ทดลองตัดจริง


"เงินอย่าเพิ่งกู้ตั้งแต่บาทแรก และอยากฟังคำตอบจากนายกรัฐมนตรีว่า เงินของปี 2563 สามารถตัดได้เท่าใด มีอุปสรรคหรือไม่การกู้เงิน จะต้องนำมากระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยเหลือ SME และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะในชุมชน ในชนบทให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ใหม่" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ระบุด้วยว่า รัฐบาลจะต้องวางแผนเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาทำมาหากินและใช้ชีวิตได้ และไม่เห็นความจำเป็นของการต่ออายุพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ควรเตรียมการ ReOpening เพื่อให้คนกลับมาทำมาหากินได้ในบางอาชีพ ในบางธุรกิจ อย่างมีเงื่อนไข มีข้อจำกัด ทางสาธารณสุข ดังนั้นควรเร่งออกข้อบังคับเพื่อให้ภาคธุรกิจ ภาคบริการได้รับทราบ ว่าหากจะเปิดกิจการได้ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดใดบ้าง ซึ่งทั้งหมดสามารถบริหารจัดการได้ภายใต้ พระราชบัญญัติโรคติดต่อ จากนั้นประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบเพื่อให้ประชาชนให้ความร่วมมือ และหากธุรกิจใดไม่ให้ความร่วมมือ ก็สามารถสั่งปิดหรือปรับได้ตามความเหมาะสม

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมเขียนจดหมายเปิดผนึกถึง 20 กลุ่มมหาเศรษฐี ของไทย เพื่อเทียบเชิญเข้าร่วมทีมไทยแลนด์ โดยตั้งคำถามถึงความเหมาะสม ซึ่งสังคมได้วิพากษ์วิจารณ์แล้วอย่างกว้างขวาง เพราะอาจนำไปสู่ข้อครหา ว่าเอื้อประโยชน์หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือ ภาคธุรกิจขนาดใหญ่ไปตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งถือเป็นการช่วยเจ้าสัวไปก่อนแล้วหรือไม่

"เป็นการช่วยที่ไม่ยืดเยื้อเหมือนกับการช่วยเหลือคนจน ช่วยคนรวยช่วยได้เร็ว เพราะฉะนั้นการที่มาขอความร่วมมือจากเจ้าสัว ท้ายที่สุดจะมีอะไรแลกเปลี่ยนหรือไม่ อย่างที่หลายคนตั้งข้อสังเกต ว่าเจ้าสัวบางรายก็ได้ช่วยเหลือไปแล้ว ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย เห็นควรตั้งกองทุน มาอุ้มตราสารหนี้อีก 4 แสนล้านบาท จะกลายเป็นข้อครหาและข้อสงสัย ในปัจจุบันจนถึงอนาคต"คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top