จับตาถกศบค.วันนี้ เล็งต่ออายุ‘พ.ร.ก.ฉุกเฉิน’ 1 เดือน

27 เมษายน 2563 พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. จะเรียกประชุม ศบค.เพื่อสรุปว่ามีความจำเป็นต้องประกาศต่อพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ออกไปหรือไม่ในวันนี้ (27 เมษายน 2563) ว่า ที่ประชุมน่าจะมีการเสนอต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 เดือน เพื่อขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.)

“ปัจจัยที่ต้องต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะสถานการณ์ปัจจุบันที่ ศบค.สามารถบริหารจัดการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ได้อย่างเบ็ดเสร็จและรวดเร็ว เพราะมีกฎหมายฉบับนี้ หากไม่มี หรือไม่ต่ออายุ ก็ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่มีประสิทธิภาพ ไม่ฉับไวเท่าที่ควร มาตรการเคอร์ฟิวก็ทำไม่ได้ และ ศบค.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็น ผอ.สามารถสั่งการได้โดยตรง ถ้าโควิดหยุดเมื่อไร หรือคนป่วยเหลือน้อยลง เมื่อนั้นถึงจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่การคลี่คลายนั้นต้องดูสถานการณ์โลกด้วย ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย” เลขาฯสมช. กล่าว

เลขาฯสมช. กล่าวอีกว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ได้มีผลอะไรต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเท่าไร จะเป็นตัวมาตรการตามมาต่างหากที่มีผลต่อประชาชน ถ้าจะมีการผ่อนปรนต้องผ่อนปรนที่มาตรการที่จะออกตามมาในคราวต่อไป โดยวันที่ 27 เมษายน นี้ คงจะมีการหยิบยกมาพูดคุยกันในที่ประชุม ศบค. ซึ่งต้องรอฟังจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์ฯ) ที่ได้ไปหารือกับภาคธุรกิจและจะนำกลับมาเสนอในที่ประชุม และจะไปหารือต่อระหว่าง สมช. กับ สภาพัฒน์ฯ ว่าที่เสนอมีความเป็นไปได้ขนาดไหน มาตรการมีความเข้มข้นพอหรือไม่ ถ้ายังก็ไม่อนุญาต ถ้าพอใจทุกฝ่ายถึงอนุญาตให้ผ่อนคลาย

“ยืนยันว่าไม่มีกลุ่มคนที่ต่อต้านการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากดูจากการสำรวจผลโพลมีมาก 80% ที่ต้องการให้ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” พล.อ.สมศักดิ์ กล่าว