เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2563 ที่กระทรงงแรงงาน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แถลงข่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของความล่าช้าในการจ่ายเงินกรณีว่างงานซึ่งเป็นมาตรการช่วยเหลือผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้ทยอยจ่ายเสร็จสิ้นไปกว่าครึ่งจากจำนวนผู้มีสิทธิ ณ วันที่ 5 พฤษภาคม 2563 จำนวน 990,523 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่วินิจฉัยอนุมัติแล้ว จำนวน 492,273 ราย เป็นเงินจำนวน 2,563.612 ล้านบาท ซึ่งตนได้สั่งการให้ดำเนินการจ่ายสิทธิประโยชน์ให้แล้วเสร็จงวดแรก ภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563
ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า สำหรับในกรณีที่สถานประกอบการที่หยุดประกอบกิจการชั่วคราว และไม่จ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง ผู้ประกันตน สปส.ขอให้สถานประกอบการกลุ่มดังกล่าวเร่งดำเนินการรับรองการหยุดของลูกจ้าง ซึ่งพบว่ามีผู้ประกันตน จำนวน 289,104 ราย ที่รอนายจ้างเข้ามารับรองสิทธิ สถานประกอบการกลุ่มนี้ จะได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงาน รวมทั้งได้รับหนังสือแจ้งเตือนจาก สปส.เร่งรัดให้เข้ามารับรองการหยุดงานของลูกจ้าง ภายในวันที่ 8 พฤษภาคม 2563
"งานนี้เป็นงานยากเป็นพิเศษโดยไม่มีข้อแก้ตัว เพราะงานแจกของที่อื่นพอเขียนกฏหมายสำเร็จก็แจกได้เลย แต่งานของเราบังคับลูกจ้างและนายจ้างไม่ได้ นายจ้างก็ไม่ได้มีหน้าที่เอาใจลูกจ้าง เราทำช้าเพราะมีหลายสาเหตุ" รมว.แรงงาน กล่าว
ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า ระบบคอมพิวเตอร์ของ สปส.ต้องรอคน 5,000 คน หรือ 50,000 คน ถึงจะทำได้ครั้งหนึ่ง ตอนนี้ได้สั่งการห้ามทำงานอื่น ถามว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ปรากฏว่าคอมพิวเตอร์ชุดนี้ที่มีมูลค่ากว่า 2,894 ล้านบาท คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติว่าผู้ที่ดำเนินการมีความผิดและต้องคืนเงิน 556 ล้านบาท ซึ่งตนไม่ได้ทราบเรื่องมาก่อน ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ของระบบประกันสังคมไม่สามารถทำอะไรได้อย่างที่อยากให้เป็น อย่างไรก็ตาม ความล่าช้าที่เกิดขึ้นได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเข้าไปช่วย สปส.
"เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเพราะฮาร์ดแวร์มันไม่เวิร์ค ที่ซื้อปี 2552 มีการร้องเรียน และ ป.ป.ช.ตรวจสอบแล้วว่าไม่ถูกต้อง และให้ปรับผู้ดำเนินการ ผมเพิ่งทราบเมื่อเช้านี้เอง เพียงแต่ผมก็สังเกตเห็นว่าทำไมคอมพิวเตอร์ถึงไม่เดิน ทั้งๆ ที่คอมพิวเตอร์สมัยนี้ทำอะไรได้เยอะแยะ แต่ที่นี่ต้องรอ เป็นเพราะโครงสร้างคอมพิวเตอร์ที่มันไม่เวิร์ค ผมก็ตกใจเหมือนกันว่าข้าราชการถูกปรับ 556 ล้านบาท เมื่ออุทธรณ์ก็แพ้อุทธรณ์ ผมเคยทำข้าราชการมานาน ยังไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้" รมว.แรงงาน กล่าว
รมว.แรงงาน กล่าวว่า ภายในวันที่ 18 พฤษภาคม หากผู้ประกันตนที่ยื่นเรื่องมายังไม่ได้รับเงินขอให้อุทธรณ์มาได้เลย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีการพูดกันว่าอาจมีผู้ประกันตนมาใช้สิทธิมากถึง 2 ล้านคน หรือ 5 ล้านคน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น สปส.ก็หน้ามืดเหมือนกัน แต่วันนี้เราเมื่อมีผู้มาขอใช้สิทธิไม่ถึง 1 ล้านคน ทำให้มีเงินจ่ายได้ ยกเว้นสิ้นเมื่อถึงสิ้นปีแล้วสถานการณ์ของอเมริกาและยุโรปยังแย่ จนไม่มีใครซื้อของจนทำให้คนตกงานจำนวนมากและมาขอใช้มาตรการนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งหากถึงตรงนั้นก็คงต้องออกมาตรการชุดใหม่ขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เพิ่มการจ่ายเงินว่างงาน จาก 62% ของเงินเดือน เป็น 75% เพื่อให้เท่ากับกรณีที่นายจ้างสั่งให้หยุดงาน และจ่ายเงินให้ลูกจ้าง 75% ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ซึ่งเป็นการช่วยเหลือนายจ้างด้วย เพราะหากช่วยเหลือแรงงานอย่างเดียวโดยไม่ช่วยนายจ้างก็จะไปไม่รอด ซึ่งขณะนี้มีนายจ้างกว่า 3 แสนคน ที่กำลังจ่ายเงินในลักษณะนี้อยู่
"นอกจากนี้ เราจะเสนอ ครม.ให้ลดการจ่ายเงินประกันสังคมให้นายจ้าง จาก 5% เหลือ 1% ด้วย คือ นายจ้างไม่ต้องเสียเงิน แตกต่างจากลดให้ลูกจ้าง ซึ่งเท่ากับเป็นการได้เงิน เพราะได้เงินชราภาพ จริงๆ แล้วผมไม่ต้องการพูดอะไรมาก เพราะต้องให้ผ่าน ครม.ก่อน แต่ผมมั่นใจค่อนข้างมากเพราะมีสัญญาณส่งมาถึงผมด้วย ไม่ใช่ผมคิดเองทำเอง กรณีที่รัฐบาลได้พบนักธุรกิจและแรงงาน เขาส่งสัญญาณให้ผมดูใหม่อีกทีได้หรือไม่ คราวที่แล้วเข้าใจดีเพราะไม่รู้ว่าเราต้องจ่ายเท่าไหร่ แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าแค่ 1 ล้านคน ต้องจ่าย 2.5 หมื่นล้านบาท" รมว.แรงงาน กล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงแรงงาน แจ้งว่า เหตุการณ์ทุจริตคอมพิวเตอร์ 2.8 พันล้านบาท ของ สปส.ได้เป็นข่าวโด่งดังเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน โดยมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการล็อคสเปคให้กับบางบริษัท ซึ่งมีนักการเมืองใหญ่เป็นผู้สั่งการไปยังผู้บริหารที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ดำเนินการ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ได้มีการตรวจสอบและร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช.และในที่สุด ป.ป.ช.ได้มีการชี้มูลความผิดไปยังอดีตผู้บริหารของ สปส.
ข่าวแจ้งว่า ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ได้มีความพยายามปรับเปลี่ยนระบบคอมพิวเตอร์ของ สปส.ใหม่เพื่อให้ทันสมัยและรองรับกับฐานผู้ประกันตนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากภายในสำนักงานประกันสังคมได้เกิดความแตกแยก และผู้บริหารระดับสูงต่างสนับสนุนบริษัทที่ใกล้ชิดตัวเอง และเมื่อมีการชงเรื่องเพื่อประมูลระบบคอมพิวเตอร์ใหม่ก็มีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ
ข่าวแจ้งว่า เมื่อเดือนก่อน คณะอนุกรรมการเทคโนโลยีและสารสนเทศ จำนวน 6 คน ซึ่งเป็นนักวิชาการด้านไอทีจากสถาบันการศึกษาชื่อดัง ได้พากันลาออก เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์ชุดใหม่ที่นำเสนอ ซึ่งเป็นระบบแอพพลิเคชั่นที่สามารถเก็บฐานข้อมูลได้มากกว่าระบบเมนเฟรมที่ใช้ในปัจจุบัน ถูกผู้มีอิทธิพลบางรายแทรกแซงกระบวนการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ อย่างไรก็ตาม ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดใหม่ขึ้นมาแทน และประชุมไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าระบบคอมพิวเตอร์ใหม่นี้จะเป็นอย่างไร และให้บริษัทไหนเข้ามาดำเนินการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี