เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภาฯ 35 กล่าวว่า ในวาระครบ 28 ปีของเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ขอแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ของบ้านเมืองที่แนวโน้มจะซ้ำรอยประวัติศาสตร์ของเหตุการณ์พฤษภาทมิฬในปี 2535 ซึ่งห่วงว่าจะเกิดความไม่สงบและจะทำให้คนเจ็บและคนตายอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้มาจากการดำเนินการของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ที่มีลักษณะการสืบทอดอำนาจไม่ต่างจากรัฐบาลพล.อ.สุจินดา ในอดีต และจะยิ่งรุนแรงยิ่งกว่า เพราะปัจจุบันปัญหาเศรษฐกิจจะยิ่งทับถมเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดปัญหามากขึ้น ซึ่งในสมัยพฤษภาคม 2535 เศรษฐกิจยังไม่แย่เท่านี้
นายอดุลย์ กล่าวต่อว่า หากมองย้อนหลังจะพบว่าพล.อ.ประยุทธ์ เข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและสืบทอดอำนาจไม่ต่างจากพล.อ.สุจินดาและยังแย่กว่าพลเอกสุจินดา เพราะสมัยนั้นยังไม่กล้าเป็นนายกรัฐมนตรีเองหลังปฏิวัติ แต่ให้นายอานันท์ ปันยารชุน เป็นแทน และตนเองมาสืบทอดอำนาจภายหลัง แต่พล.อ.ประยุทธ์ กล้าเป็นนายกรัฐมนตรีเอง แต่ก็บริหารประเทศได้ย่ำแย่โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจที่ทรุดหนักมาตลอดหลายปี ซึ่งส่งผลกระทบมาจนถึงปัจจุบัน
ก่อนจะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เศรษฐกิจไทย ก็ย่ำแย่มากอยู่แล้ว ขยายตัวเฉลี่ยได้ต่ำสุด พอมาเจอวิกฤตไวรัส ซึ่งเป็นเหมือนตัวเร่งปฏิกิริยา ทำให้เห็นความล้มเหลวในการบริหารประเทศของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ในทุกด้าน นับตั้งแต่เรื่องหน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์ขาดแคลน การปิดเมืองโดยไม่มีแผนงานรองรับ การเยียวยาที่ล้าช้าและไม่ทั่วถึง ความวุ่นวายของพรรคร่วมรัฐบาล และความแตกแยกในพรรคพลังประชารัฐเอง ยิ่งตอกย้ำความไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ การกู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อมาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ มีแนวโน้มที่จะนำไปสู่การเอื้อประโยชน์นายทุน และ การทุจริตคอรัปชั่น เพื่อรักษาตำแหน่งของตนและพวกพ้อง
อีกทั้ง การคงพรก.ฉุกเฉินทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่า รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ไม่มีความสามารถจะบริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกำลังนำประเทศเข้าสู่กลียุค ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ซึ่งหากไม่เปลี่ยนแปลงประชาชนจะทนกันไม่ไหวแน่จากการตกงานและความอดอยาก และต้องออกมาขับไล่ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายจนควบคุมไม่ได้
“ในฐานะประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ไม่อยากให้มีการเสียเลือดเสียเนื้อกันเหมือนในอดีตที่ญาติทุกคนต้องเจ็บปวดจากการสูญเสียคนที่รัก จึงเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และจัดให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อประเทศไทยจะได้ฟื้นกลับมาแข่งขันกับประเทศอื่นได้อีกครั้ง ประชาชนจะได้กลับมามีความหวังอีกครั้งหนึ่ง” นายอดุลย์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี