พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส.และคณะ ได้เดินทางไปราชการในพื้นที่ภาคเหนือ จว.เชียงใหม่ โดยได้ร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคมในพื้นที่ ปลูกต้นไม้ฟื้นฟูสภาพป่าที่ได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ป่าที่ผ่านมา. ในโครงการ “รวมใจไทยปลูกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูป่าและเพิ่มพื้นที่สีเขียว” ณ บริเวณป่าดอยสุเทพ ห้วยตึงเฒ่า ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี โดยต่างตระหนักถึงการสูญเสียและเห็นคุณค่าประโยชน์ของป่าไม้จากสถานการณ์ไฟไหม้ป่าเป็นวงกว้างที่ผ่านมา ซึ่งหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการเผาทำลายและบุกรุกพื้นที่ป่า
พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวถึง นโยบายของรัฐบาลในการปลูกและฟื้นฟูสภาพป่าในประเทศว่า เป็นไปตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อสร้างความสมดุลและยั่งยืนของทรัพยากรป่าไม้ในประเทศ โดยเมื่อ 5 พ.ค.63 ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมได้มอบต้นตะเคียนทอง เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ เพื่อนำมาปลูกเป็นต้นไม้ปฐมฤกษ์ในวันนี้ด้วย
“พล.อ.ประวิตร ย้ำ ถึงความจำเป็นที่ต้องร่วมกันเร่งฟื้นฟูคืนธรรมชาติ จากผลกระทบภัยแล้ง น้ำท่วมและโรคระบาดที่ผ่านมา โดยขอให้ร่วมกันสนับสนุนและปลูกฝังจิตสำนึกให้ประชาชน มีความรัก หวงแหนทรัพยากรป่าไม้ร่วมปลูกไม้ยืนต้น โดยเฉพาะไม้มีค่าในพื้นที่ของตนเอง เพื่อเป็นสมบัติของครอบครัวและสามารถเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในอนาคตได้ ขณะเดียวกัน ขอให้ขยายความร่วมมือกันแบ่งมอบพื้นที่เร่งปลูกป่าฟื้นฟูความเสียหายจากการบุกรุกและเผาป่าในทุกพื้นที่จังหวัด เพื่อคืนความสมดุลของธรรมชาติที่ยั่งยืนร่วมกัน” โฆษกประจำ รองนายกรัฐมนตรี ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี