เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 21 พฤษภาคม 2563 ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายมุฮัมมัด ฮุซัยน์ เอ็ม เอ อัลฟัยลากาวี เอกอัครราชทูตรัฐคูเวตประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีในการเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งไทยและคูเวตมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันมายาวนานกว่า 57 ปี และในช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความยากลำบากของโลก ทุกประเทศมีความท้าทายในการจัดการสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ฝากความปรารถนาดี และให้กำลังใจพร้อมชื่นชมรัฐบาลคูเวตที่สามารถดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างเข้มแข็งและเป็นระบบ รวมทั้งได้ขอบคุณรัฐบาลคูเวตในการช่วยอำนวยความสะดวกจัดเที่ยวบินเช่าเหมาลำพิเศษให้แก่นักศึกษาไทยและแรงงานไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับไทย
เอกอัครราชทูตฯ กล่าวขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีเป็นเกียรติให้เข้าพบในวันนี้ ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การเข้ารับตำแหน่งในประเทศไทย ชื่นชมการเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีในการแก้ปัญหาสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่สามารถใช้มาตรการควบคุม และป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิตลดลงจำนวนมาก รวมถึงชื่นชมความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์ ที่มีมาตรฐานคุณภาพสูงในการรักษาดูแลผู้ป่วยได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งทางเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ในไทย และได้รายงานไปยังรัฐบาลคูเวตเป็นประจำทุกวันเพื่อเรียนรู้ความสำเร็จของไทยไปปรับใช้กับคูเวตต่อไป
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีในด้านต่างๆ ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านพลังงาน เกษตรกรรม และแรงงาน ซึ่งไทยพร้อมส่งออกสินค้าประเภทอาหารทะเล รวมไปถึงอาหารสดและอาหารแปรรูปที่หลากหลายเพื่อสนับสนุนคูเวตในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ตลอดจนดำเนินการตามวิสัยทัศน์ของแผนพัฒนา "Kuwait 2035" โดยเห็นพ้องจะเพิ่มมูลค่าทางการค้าและการลงทุนร่วมกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้นักลงทุนคูเวตเข้ามาลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งถือเป็นโครงการรวมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของไทย สอดคล้องกับความต้องการของคูเวตที่ต้องการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร รวมทั้งยินดีที่คูเวตแสดงความประสงค์ที่จะมีความร่วมมือกับไทยในด้านแรงงาน เพราะชื่นชมในความสามารถ และศักยภาพแรงงานไทย
ในช่วงท้าย นายกฯ ได้ฝากคำชื่นชมและระลึกถึง เชค เศาะบาฮ์ อัลอะห์มัด อัลญา บิร อัศเศาะบาฮ์ เจ้าผู้ครองรัฐคูเวต ที่ทรงสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศต่างๆ ผ่านนโยบายและบทบาทด้านมนุษยธรรม สอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาลไทย และขอบคุณรัฐบาลคูเวตที่ได้ให้การสนับสนุนโครงการพัฒนาในประเทศไทยผ่านกองทุนคูเวตเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ (Kuwait Fund for Arab Economic Development) ซึ่งได้ก่อสร้างเขื่อนรัชชประภา โรงไฟฟ้าบางปะกง และโรงไฟฟ้าปัตตานี ที่ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาด้านพลังงานและคุณภาพชีวิตของชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเอกอัครราชทูตยินดีที่จะทำงานเป็นผู้ประสานเพื่อกระชับความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนและพัฒนาภาคส่วนต่างๆ ร่วมกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี