‘หมอเหรียญทอง’แนะหน่วยงานรัฐปรับบทบาท ยก‘สปสช.โมเดล’พัฒนารับผู้ป่วยนานาชาติ สร้างรายได้
28 พฤษภาคม 2563 พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้
หน่วยงานรัฐจะต้องปรับบริบทจากการเป็นหน่วยใช้จ่ายงบประมาณเพียงอย่างเดียว ให้มาเป็นหน่วยหารายได้เข้ารัฐด้วย ตัวอย่างเช่น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีขีดความสามารถที่สามารถพัฒนาให้เป็นหน่วยหารายได้เข้ารัฐได้ด้วยการเป็น “ศูนย์กลางการรับผู้ป่วยนานาชาติ” ที่ต้องการเข้ามารักษาตัวในประเทศไทย โดยมีระบบงานที่สามารถขยายฐานลูกค้านานาชาติที่เป็นดิจิทัลแพลตฟอร์ม พร้อมอัตราค่ารักษาพยาบาลสำหรับต่างชาติ (สามารถเชื่อมโยงเข้ากับกิจการต่างๆ เช่น การบินไทย โรงแรม ที่พัก ฯลฯ)...
หาก สปสช.สามารถหารายได้เข้ารัฐจาก 'ศูนย์กลางการรับผู้ป่วยนานาชาติ' ได้มากแล้ว จะทำให้เกิดผลดังนี้
1. รัฐสามารถประหยัดงบประมาณแผ่นดินในการรักษาพยาบาลปวงชนชาวไทยโดยเฉพาะผู้ป่วยสิทธิบัตรทองได้เป็นอย่างมาก
2. การที่ สปสช. มีบริบทใหม่เป็นผู้หารายได้เข้ารัฐด้วยการเป็น “ศูนย์กลางการรับผู้ป่วยนานาชาติ” จะทำให้ไทยสามารถเป็นผู้ริเริ่ม “ระบบหลักประกันสุขภาพนานาชาติ” ที่จะกลายเป็นแหล่งรายได้ของชาติได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลให้ภาคการบริการที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพด้านการรักษาพยาบาลเกิดการขยายตัว สร้างงาน สร้างรายได้ ส่งผลต่อรายได้ประชาชาติเป็นอย่างมาก
หน่วยงานรัฐอีกหลายหน่วยงานมีขีดความสามารถที่สามารถนำมาปรับบริบทจากการเป็นหน่วยใช้จ่ายงบประมาณเพียงอย่างเดียว ให้มาเป็นหน่วยหารายได้เข้ารัฐด้วย ดังเช่น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
หากวิกฤตโควิด-19 ในครั้งนี้ ทำให้เราทบทวนบริบทของหน่วยงานรัฐด้วย จะกลายเป็นโอกาสของชาติในการสร้างรายได้ สร้างงานให้แก่คนในชาติครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี