ฝ่ายค้านแจงเสียงแตกโหวตพรก.กู้เงิน อ้างยกประโยชน์ปชช.-ปท.ไม่เสี่ยง ขอติงยังขาดการตรวจสอบ วอนให้โอกาสตั้งกมธ.ติดตาม
เมื่อเวลา 16.15 น.วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ที่ห้องแถลงข่าวรัฐสภาฯ นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย , นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย , นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ , นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมแถลงชี้แจง หลังพรรคร่วมฝ่ายค้านลงมติโหวต พ.ร.ก.กู้เงิน ทั้ง 3 ฉบับ ที่มีคะแนนเสียง แตกต่างกันออกไป
นายสุทิน กล่าวว่า เหตุผลในการลงมติ พ.ร.ก.ทั้ง 3 ฉบับ ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้มีการหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคจนถึงนาทีสุดท้ายก่อนการลงมติ โดยยึดหลักการว่า อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ไม่เสียหลักการ ไม่เสี่ยงต่อความเสียหายของประเทศชาติ พรก.ฉบับที่1 เห็นว่าเป้าหมายของรัฐบาลจะช่วยประชาชนจริง เรารับได้ เพราะจะมีการนำไปเยียวยาให้ชาวบ้าน เสริมความแข็งแกร่งด้านสาธารณสุข รวมถึงการฟื้นฟู แต่มีข้อบกพร่อง เรื่องระบบการตรวจสอบ ยังไม่ดีพอ การจะนำมาฟื้นฟูเศรษฐกิจ คงไม่เป็นผล จึงงดออกเสียง พ.ร.ก.ฉบับที่ 2 ที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายจะช่วยเอสเอ็มอีที่เดือดร้อน เรามองว่าทิศทางมาถูก แต่วิธีการไม่ถูก ไม่ชอบมาพากล ไม่มีระบบการตรวจสอบที่ดีพอ ที่สุดกลไกลก็จะไปไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ จึงได้งดออกเสียง ส่วน พ.ร.ก.ฉบับที่ 3 ที่ตั้งเป้าหมายจะช่วย ทั้งที่ข้อเท็จจริง ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบในการออก พ.ร.ก.เนื่องจาก ผู้ประกอบการรายใหญ่ ยังมีแนวทางในการช่วยเหลือวิธีอื่นและยังมีระยะเวลา ที่สำคัญฝ่ายค้านรับไม่ได้กับการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ต้องดำรงความเป็นกลางกลับมาเป็นผู้ดำเนินการเสียเองทั้งหมด ทำให้เสียหลักการและจะเกิดเป็นปัญหาในอนาคต โดยเฉพาะจะเป็นการเอาอย่างในครั้งนี้ การขาดทุน 4.5 หมื่นล้านบาท ก็ไม่เหมาะสม เพราะคนที่เป็นเจ้าของกิจการเหล่านี้ ไม่เดือดร้อนจริง เขายังสามารถหาวิธีการแก้ไขด้านอื่นได้อีก เช่น เอาเงินไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล แต่รัฐกลับมาซื้อหนี้เอกชนเสียเอง ที่สุดจะทำให้เกิดปัญหาด้านหลักการในอนาคต เราจึงโหวตไม่เห็นด้วยและขอให้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน ส่วนกรณีของเสียงฝ่ายค้านที่ไม่เท่ากันในการโหวต พ.ร.ก.แต่ละฉบับนั้น พรรคเสรีรวมไทย ได้แจ้งแต่ต้นแล้วว่า ไม่รับหลักการ กรณี พล.อ.ประยุทธ์ ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน จึงได้งดออกเสียงทั้ง 3 ฉบับ
เมื่อถามว่า เสียงที่ออกมา ในการโหวต พ.ร.ก.3ฉบับ ไม่เท่ากัน ด้าน นอ.อนุดิษฐ์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีจำนวนเสียง 210 เสียง ในวันนี้พรรคเพื่อไทย ขอลาป่วย 2 คน และได้แจ้งลาประชุมไว้แล้ว พรรคก้าวไกล หัวหน้าพรรค เข้ารับการผ่าตัด ก็ได้ลาป่วย ยืนยันว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้โหวตไปในทางเดียวกัน 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เสียงที่ยังขาดไม่เท่ากันบ้าง ก็เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ฝ่ายค้านบางคน ซึ่งต้องมีการตรวจสอบกันอีกครั้ง เบื้องต้นยืนยันว่า เราโหวตไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจง ก็ระบุชัดเจนแล้วว่า เห็นด้วยกับหลักการที่จะต้องมีการตรวจสอบการใช้เงินกู้อย่างรัดกุม โปร่งใส จึงหวังว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะให้ความร่วมมือ และให้โอกาสตัวแทนของประชาชนคือ ส.ส.โดยการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบการใช้งบประมาณเงินกู้ในครั้งนี้ด้วย
นายพิจารณ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุในการอภิปรายว่า มีการให้เงิน 80 ล้านบาท กับ ส.ส.ฝ่ายค้าน แลกกับการโหวตผ่าน พ.ร.ก.นี้ โดยกล่าวว่า ในช่วงเช้าได้ยินหลายคนพูดถึงประเด็นนี้ ก็มีความห่วงใย เพราะเงิน 4 แสนล้านบาท เป็นจำนวนมหาศาล ที่ต้องใช้ตอบโจทย์ช่วยเหลือประชาชน ถ้าถูกจัดสรรมาในลักษณะดังกล่าวจริง ประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย จึงได้นำมาอภิปราย เพราะมีสมาชิกหลายคนมาพูดคุยกันเช่นนั้น เลยเป็นที่มาของการเรียกร้องให้รัฐบาลตั้งกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ เพราะมีพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค เห็นด้วยกับหลักการของเรา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี