คิดการใหญ่มาก! ‘รังสิมันต์’ ขน 55 ส.ส.ก้าวไกลยื่น‘ชวน’ออกพรบ.ล้มพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

คิดการใหญ่มาก! ‘รังสิมันต์’ ขน 55 ส.ส.ก้าวไกลยื่น‘ชวน’ออกพรบ.ล้มพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

วันพฤหัสบดี ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 11.29 น.

ก้าวไกล ขน 55 ส.ส.เข้าชื่อเสนอ “ชวน” ต้านพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯชงกม.แก้ไข4ข้อ อ้างกระทบเสรีภาพ ลามแซะสภาฯแค่ “เสือกระดาษ” 

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2563 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล และนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมกันแถลงถึงการเสนอร่างพระราชบัญญัติการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2548 โดยมี ส.ส. ของพรรคจำนวน 55 คน จะเข้าชื่อเสนอต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร 


นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ​เมื่อรัฐบาลยังคงการใช้พระราชกำหนดเอาไว้ พรรคก้าวไกล ในฐานะที่ไม่เห็นด้วยกับการคงไว้ ซึ่งพระราชกำหนดจึงเตรียมเสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพอย่างยิ่ง แม้จะมีการอ้างเรื่องการคุมโควิด แต่วันนี้ไม่มีตัวเลขผู้เสียชีวิต แสดงให้เห็นว่าไม่มีความชอบธรรมที่จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอีกต่อไป และไม่ใช่การแก้ไขสถานการณ์โควิด แต่จะเป็นการป้องกันไม่ให้วิจารณ์รัฐบาล 

“วันนี้สภาฯทำอะไรไม่ได้เลย เป็นแค่เสือกระดาษที่ตรวจสอบการใช้อำนาจตามพระราชกำหนดของรัฐบาล ในเมื่อรัฐบาลไม่ยกเลิกพระราชกำหนด พรรคก้าวไกลจึงเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อแก้ไขพระราชกำหนด” นายรังสิมันต์ กล่าว 

นายรังสิมันต์ กล่าว สำหรับร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวจะมีผลเป็นการยกเลิกพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และมีสาระสำคัญที่เปลี่ยนแปลงจากพระราชกำหนดโดยมีสาระสำคัญ 4 ประการ ดังนี้

1.ให้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดยฝ่ายบริหารสามารถใช้บังคับได้ไม่เกิน 30 วัน โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรภายใน 7 วันนับแต่วันประกาศ รวมถึงในการขยายระยะเวลาแต่ละครั้งต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรเช่นกัน และหลังสิ้นสุดการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้วนายกรัฐมนตรีจะต้องทำรายงานผลการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินต่อสภาผู้แทนราษฎรด้วย 

2. ยกเลิกอำนาจในการออกข้อกำหนดห้ามนำเสนอข่าวสาร เพื่อให้สื่อมีอิสระในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร

3. ยกเลิกข้อยกเว้นที่ให้ข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือการกระทำภายใต้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ให้อยู่ในเขตอำนาจของศาลปกครอง และยกเลิกข้อยกเว้นให้พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา และทางวินัย เพื่อให้การใช้อำนาจภายใต้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินถูกตรวจสอบได้โดยองค์กรตุลาการ

4. ในการจับกุมและควบคุมตัวบุคคลที่ต้องสงสัยภายใต้การประกาศสถานการณ์ที่มีความร้ายแรง จะต้องดำเนินการด้วยกระบวนการปรกติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เช่น ควบคุมตัวได้ไม่เกิน 48 ชั่วโมง, ต้องควบคุมตัวภายในสถานีตำรวจที่ญาติและทนายความเข้าถึงได้

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลจะเดินหน้าผลักดันร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ผู้ใช้อำนาจมีความรับผิดชอบต่อประชาชน และใช้อำนาจที่ประชาชนมอบหมายให้แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้โดยเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนอย่างแท้จริงรวมไปถึงการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดขานแดนภาคใต้ด้วย

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top