‘สมพงษ์’อัดงบฯ64 สักแต่ทำให้เสร็จ ขู่ถ้าไม่ปรับแก้คงให้ผ่านสภาฯไม่ได้ แนะรัฐท่อง 3 ถาคา ป้องแก้ ‘ธุรกิจภายใน-การจ้างงาน-ระบบการเงิน’
1 กรกฎาคม 2563 ที่รัฐสภา นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ว่า งบประมาณที่เราจะมาใช้บริหารประเทศขณะที่ประเทศกำลังเผชิญวิกฤตินั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง ต้องกระทำด้วยความรอบคอบ คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศเป็นหลัก และป้องกันไม่ให้ประโยชน์ตกอยู่กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งบนความเสียหายของประเทศและประชาชน ขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในช่วงวิกฤติโควิด-19 แต่นายกฯ ไม่ได้เอ่ยถึงวิธีการแก้ไขว่าจะทำอย่างไรเลย และกำลังจะนำประเทศไปสู่อีกวิกฤติหนึ่งคือวิกฤติเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ การทำงบประมาณครั้งนี้จึงต้องเป็นเครื่องมือที่จะรองรับวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังจะคืบคลานเข้ามาให้ได้ ทั้งนี้ ประเทศไทยได้รับผลกระทบด้านการระบาดของโรคโควิด-19น้อย แต่ผลกระทบด้านเศรษฐกิจเรากลับติดอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวล อันเกิดจากมาตรการที่ผิดพลาดของรัฐบาลที่ใช้มาตรการแบบสักแต่ว่าได้ทำ แต่ไม่มองถึงประสิทธิภาพที่ปลายทาง ผิดพลาดและมีช่องโหว่ และเข้าไม่ถึงกลุ่มเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม การที่ประเทศจะฟื้นตัวเร็วหรือช้านั้นขึ้นกับหลายปัจจัย แต่คาถาที่รัฐบาลต้องท่องไว้ 3 อย่างคือ 1.เราจะต้องป้องกันไม่ให้ธุรกิจภายในประเทศล้ม 2.ต้องรักษาการจ้างงานเอาไว้ให้ได้ และ3.ต้องป้องกันผลกระทบที่จะลามไปถึงระบบการเงินของประเทศให้ได้
นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า งบประมาณแผ่นดินเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนและปลุกเศรษฐกิจที่กำลังจะหมดลมหายใจให้ฟื้นขึ้นมาได้ ถ้าทำอย่างเข้าใจและถูกวิธี แต่เท่าที่ตนอ่านนั้นไม่ได้ตอบโจทย์เลย ยังคงใช้วิธีการจัดทำงบประมาณแบบเก่าๆ และไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่ มุ่งไปสู่การก่อสร้าง ขุดลอกคูคลอง รวมถึงการจัดอบรมต่างๆ ที่เสมือนทำผ่านไปวันๆ เหมือนที่เคยทำมาทุกปี อนาคตของไทยจะก้าวไปในทิศทางไหน จะรองรับธุรกิจที่จะเกิดขึ้นใหม่จากพฤติกรรมผู้บริโภคใหม่อย่างไร สินค้าการเกษตรจะถูกยกระดับอย่างไรเพื่อให้เกษตรสามารถยืนได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งการอุดหนุนภาครัฐไปเรื่อยๆ อุตสาหกรรมใดจะเป็นเป้าหมายในระยะ 5 ปีข้างหน้า
เราจะเอาประเทศไทยไปอยู่ส่วนไหนของห่วงโซ่อุปทานใหม่ของโลก ทั้งนี้ งบประมาณปี 2564 ควรถูกใช้ไปกับการสร้างทักษะเพื่อสร้างงานที่มีผลผลิตต่อหน่วยสูง เพื่อให้คนไทยมั่งคั่งขึ้นแบบถาวรและยั่งยืน ต้องไม่ถูกใช้ไปแบบตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของฝ่ายรัฐบาล โดยใช้นโยบายสารพัดแจกเพื่อหวังผลด้านคะแนนเสียงและความนิยม ไม่อยากเห็นนโยบายแจกเงินไปเที่ยว รวมถึงบัตรสวัสดิการต่างๆ ของรัฐที่จะเป็นทางผ่านของเม็ดเงินไปสู่กลุ่มทุนใหญ่ที่ใกล้ชิดรัฐบาล เป็นมาตรการเพื่อพวกพ้องโดยใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นประเทศจะไม่มีโอกาสที่จะได้ฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจ
“คำถามเหล่านี้ผมไม่เห็นคำตอบอยู่ในงบประมาณปี 2564 หากตอบคำถามเหล่านี้ไม่ได้ งบประมาณฉบับนี้ก็เรียกได้ว่าสักแต่ทำให้เสร็จๆ อีกครั้ง ซึ่งเป็นอันตรายกับประเทศ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตเช่นนี้ หากรัฐบาลไม่สามารถชี้แจงต่อคำถามข้างต้น และหากไม่นำกลับไปแก้ไข ผมก็ไม่อาจจะสนับสนุนงบประมาณฉบับนี้ให้ผ่านไปได้” นายสมพงษ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี