"จิตภัสร์"ถกงบฯศธ.ปี64 ไม่สอดรับยุคNew Normal แนะ"เสมา1"ใช้ประสบการณ์บริหารรร.อินเตอร์ พลิกวิกฤตโลกเป็นโอกาส ยกเครื่องระบบการศึกษาแนวใหม่เทียบนานาประเทศ ติงงบฯสร้างแพลตฟอร์มการเรียนผ่านอินเตอร์เน็ตกระจ้อยร่อยแค่24ล้านบาท ฝากนายกฯโยกงบกลางช่วย เร่งลดเหลื่อมล้ำ สร้างความเสมอภาคให้เด็กในโรงเรียนทุรกันดาน พร้อมคุมเข้มจัดซื้อ-จัดจ้างให้โปร่งใสไร้คอร์รัปชั่น
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 ที่รัฐสภา น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นกล่าวอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2564 ในส่วนงบกระทรวงศึกษาธิการ ว่า งบประมาณปี64 ตั้งวงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท เป็นงบฯ ในส่วนกระทรวงศึกษาธิการ 1.3 แสนล้านบาท ถือว่าอยู่ใน 5 กระทรวงอันดับต้นๆ ที่ได้รับงบประมาณมากที่สุดในทุกๆ ปี ซึ่งตนสนใจว่าการจัดงบประมาณ ปี 64 นี้ จะมีงบเตรียมการให้เด็กไทยเข้าสู่สังคมใหม่นี้หรือไม่ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายว่า พอเข้าไปในดูรายละเอียดในงบฯของกระทรวงศึกษาธิการปี 64 กลับไม่ได้สะท้อนถึงปัญหาในโลกปัจจุบันที่เกิดขึ้นมากเพียงพอ และไม่สามารถที่จะตอบโจทย์ความต้องการของสังคมทุกวันนี้ได้
น.ส.จิตภัสร์ กล่าวต่อว่า เราต่างทราบว่าวิกฤตโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบไปถึงภาคเศรษฐกิจ และสังคมทั้งในประเทศ และทั่วโลกอย่างรุนแรง ทำให้วิถีชีวิตของผู้คนและสังคมมีการเปลี่ยนแปลง หรือ ที่เรียกกันทุกวันนี้ว่า new normal ภาระสำคัญยิ่งของกระทรวงศึกษาธิการ คือ การเตรียมความพร้อม การให้ความรู้แก่ เด็กและเยาวชน รวมทั้งบุคลากรทางการศึกษา ด้วยหลักสูตรการศึกษา ที่ต้องรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก วันนี้ เราน่าจะใช้วิกฤตนี้ให้เป็นโอกาส ในเมื่อต้องเจอปัญหาเดียวกันทั้งโลก เสมือนกับต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่พร้อมๆ กัน ซึ่งยังพอมีหลักสูตรเดิมๆ ที่พอจะนำมาใช้กับสถานการณ์ปัจจุบันได้ เช่น การเรียนทางไกล ผ่านจานดาวเทียม DLTV และ DLIT ที่สามารถเข้าถึงผู้เรียนได้อย่างรวดเร็วและบริหารจัดการได้ง่าย โดยใช้งบประมาณน้อย แต่ที่ผ่านมาหลักสูตรนี้ มีไว้เพื่อช่วยแก้ปัญหาของโรงเรียนในพื้นที่ทุรกันดาน หรือพื้นที่ห่างไกล เช่น โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน สอดคล้องกับโลกปัจจุบันว่าอยู่ที่ไหนก็เรียนได้ และยุทธศาสตร์การเรียนรู้ตลอดชีวิต แต่ระบบนี้ก็ยังมีความล่าช้า สัณญาณไม่ชัด ไม่ทั่วถึง และโดยเฉพาะเนื้อหาที่ไม่ได้มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงมาเป็นระยะเวลายาวนาน ทำให้ข้อมูลที่สอนนั้นตกยุค ไม่ไปด้วยกันกับโลกยุคใหม่
น.ส.จิตภัสร์ กล่าวอีกว่า งบประมาณ 2564 ตั้งงบสำหรับโครงการเรียนทางไกล ผ่านจานดาวเทียม ไว้ 235 ล้านบาท โดยเป็นงบลงทุน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เห็นงบฯส่วนนี้ ไปใช้พัฒนาระบบการเรียนทางไกลอย่างจริงจัง ด้วยการพัฒนาเนื้อหาให้ทันสมัย ปรับปรุงระบบสัญญาณให้ชัดเจน ให้ได้ผลประโยชน์สูงสุดสำหรับนักเรียนทั่วประเทศแต่โครงการที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันได้ดี ก็คือระบบการเรียนการสอนผ่านทางสัญณาญอินเตอร์เน็ต โดยใช้ platform ของต่างประเทศ เช่น ระบบ google หรือแอพพลิเคชั่น zoom เป็นระบบเรียนผ่านทางออนไลน์ โดยเป็นการสื่อสารสองช่องทาง คือการแลกเปลี่ยน สื่อสาร พูดคุยแบบสด
"ดิฉันดีใจที่เห็นกระทรวงศึกษาตั้งงบประมาณ เพื่อที่จะสร้าง platform ขึ้นมาเองโดยไม่ต้องพึ่งระบบอื่นๆ แต่กลับตั้งงบประมาณไว้เพียง 24 ล้านบาท เท่านั้น ซึ่งน้อยมากและถึงแม้จะตั้งไว้เป็นระบบใหญ่ ประเทศของเรา ก็ยังมีข้อจำกัดอีกมากเช่น การขาดแคลนทางอุปกรณ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบสัณญาณอินเตอร์เน็ตที่มีไม่ทั่วถึงทุกโรงเรียน ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงในการศึกษา" น.ส.จิตภัสร์ กล่าวและว่า จากการสำรวจปี 61 ครัวเรือนไทย เข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ต 62% แต่ครัวเรือนที่มีคอมพิวเตอร์ มีแค่ 24% เท่านั้น จึงฝากนายกรัฐมนตรีช่วยจัดสรรงบกลางมาช่วยสนับสนุน เพื่อสร้างความเสมอภาค เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาให้แก่เด็กๆ ทั่วประเทศให้เท่าเทียมกัน เพราะทุกวันนี้จะเห็นตามข่าวว่าเด็กนักเรียนต้องไปขอใช้ อินเตอร์เน็ตตามสถานีตำรวจ หน่วยบริการตำรวจทางหลวงหรือหน่วยงานราชการอื่นๆ ถ้าสามารถกระจายให้ทั่วถึงได้ จะช่วยบรรเทาการใช้ชีวิตของนักเรียนในยุค new normal นี้ได้อย่างยิ่ง ถึงแม้ที่ผ่านมาจะมีการกระจายอำนาจไปยังส่วนท้องถิ่น ในเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างสรรหาอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ผ่านมหาดไทยส่วนนึง ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็มีความเป็นห่วงในเรื่องของมาตรฐานและอุปกรณ์เครื่องเรียนเครื่องใช้
"จึงหวังว่านายกฯ จะช่วยกำกับดูแลความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง ไม่ให้มีการทุจริต คอร์รัปชั่นเพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพและเป็นประโยชสำหรับนักเรียน โครงการนี้จะเป็นโครงการที่เข้ากับยุคสมัยของการใช้ชีวิตปัจจุบัน หรือ new normal แต่อุปกรณ์ต้องพร้อม เพราะการศึกษาคือหัวใจของชาติ ที่จะเป็นกุญแจไปสู่การเตรียมความพร้อมให้กับ อนาคตของชาติในวันข้างหน้า จึงขอเสนอว่า ปีงบประมาณหน้า กระทรวงศึกษาธิการ จะต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างของงบประมาณ เพื่อเป็นการเตรียมตัวเด็กและเยาวชน ไปสู่สังคมยุค ใหม่ และฝากถึง รมว.ศึกษาธิการ ให้รับรู้ปัญหาและความต้องการนี้ ดิฉันเชื่อมั่นว่า รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งมีประสบการณ์ในการจัดการศึกษาระดับโรงเรียนนานาชาติ จะมีแนวคิด ที่จะส่งเสริมและสร้างคุณสมบัติของเยาวชน ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ เพื่อสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพ ให้เท่าเทียมกับนานาอารยะประเทศต่อไป" น.ส.จิตภัสร์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี