เมื่อวันที่ 4 กรกฏาคม 2563 ที่อาครารไทยซัมมิท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวเปิดการอบรมตอนหนึ่งว่า เรามีความตั้งใจไว้แล้วตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นพรรคอนาคตใหม่ว่าจะลงเลือกตั้งท้องถิ่น ถ้าไม่ถูกยุบไปเสียก่อนก็ส่งแน่นอน แต่เมื่อพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ กรรมการบริหารที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองจึงมาทำงานต่อในนามคณะก้าวหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. รณรงค์ปักธงทางความคิด เช่น รัฐธรรมนูญใหม่ ทลายทุนผูกขาด ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ 2. งานการเลือกตั้งท้องถิ่น นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราจะส่งผู้สมัครลงแข่ง และมีเป้าหมายในการส่งครั้งนี้มากกว่าครึ่งหนึ่ง คือ 4,000 แห่งทั่วประเทศในทุกระดับ จากองค์กรบริหารการปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จำนวน 7,800 แห่ง
นายธนาธร กลา่วว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้มีความสำคัญหลายประการ ทั้งเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งแรกอย่างน้อยในรอบ 7 ปี ในยุคสมัยที่ผู้คนต้องการความเปลี่ยนแปลง ต้องการเห็นสิ่งใหม่ๆ นี่คือโอกาสดีที่เราจะได้เสนอคนใหม่ นโยบายใหม่ และรูปแบบการทำงานแบบใหม่ให้กับท้องถิ่น อีกทั้งเป็นการต่อสู้กับเผด็จการ เพราะภายหลังยึดอำนาจเมื่อปี 2557 คสช. ก็ได้ดึงอำนาจกลับเข้าสู่ส่วนกลางหมด ไม่ว่าจะเป็นการปลดนายกท้องถิ่น แต่งตั้งข้าราชการส่วนกลาง หรือแม้แต่ให้ทหารไปร่วมจัดสรรงบประมาณ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังเป็นการยุติรัฐราชการรวมศูนย์ เพื่อให้ท้องถิ่นมีอำนาจ มีงบประมาณอย่างแท้จริง เราจะผนึกกำลังกันอย่างเป็นเอกภาพเพื่อทวงคืนอำนาจให้ท้องถิ่นได้ดูแลจัดการทรัพยากรและกำหนดอนาคตตัวเอง และสุดท้ายนี่คือการเดิมพันครั้งสำคัญของประเทศ เราต้องการรวมคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงบ้านเกิดตนเองมาทำงานด้วยกัน ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครส่งเลือกตั้งท้องถิ่นในแคมเปญเดียวกันแบบนี้ โดยเราจะส่งผู้สมัครลง อปท. 4,000 แห่ง ภายใต้ชื่อเดียวกัน อุดมการณ์เดียวกัน กรอบนโยบายแบบเดียวกัน ทำให้ประชาชนตื่นตัว เห็นความสำคัญ เพราะท้องถิ่นถ้าทำให้ดี อย่างมีคุณภาพ เราจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยได้ อีกทั้งการเมืองท้องถิ่นเป็นสิ่งที่ยึดโยงกับประชาชน ตอบโจทย์คนท้องถิ่นอย่างแท้จริง
นายธนาธร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ คณะก้าวหน้าจะใช้รูปแบบการทำงานแบบ พรรคอนาคตใหม่ มาทำงานกับการเลือกตั้งท้องถิ่น คือ 1. ไม่ซื้อสิทธิ์ ไม่ใช้เงินซื้อเสียง เราจะไม่ใช้เงินทำงาน เพราะเมื่อไหร่ที่ใช้เงิน พอมีอำนาจก็อาจเข้าไปทุจริตคอรัปชั่นถอนทุนคืน ดังนั้นอาวุธของเราที่สำคัญคือความคิดและการรณรงค์ 2. ไม่ใช้อิทธิพล การเลือกตั้งระดับชาติที่ผ่านมามีความรุนแรงเรื่องอิทธิพลน้อยลง ซึ่งถือเป็นพัฒนาการที่ดี เราหวังว่าเลือกตั้งท้องถิ่นคงเป็นเช่นกัน เรายืนยันจะไม่ใช้อิทธิพล แต่จะใช้แนวคิดที่ถูกต้อง นโยบายที่ดี แคมเปญการรณรงค์ที่มีพลัง
นายธนาธร ยังกล่าวว่า คณะก้าวหน้าพร้อมจะเขย่าการเมืองท้องถิ่น เพื่อปลุกความหวังของผู้คน เพื่อปลดปล่อยศักยภาพของท้องถิ่น พวกเราเคยเขย่าประเทศไทยมาแล้วด้วยกันในการเลือกตั้งระดับชาติเมื่อต้นปีที่แล้ว วันนี้ขอเชิญชวนทุกคนมาเขย่าประเทศไทยด้วยกันอีกครั้งในระดับรากฐาน จากระดับการเลือกตั้งท้องถิ่น ให้ขีดการเลือกตั้งเป็นที่ส่งเสียงความต้องการประชาชนที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง ให้ขีดการเลือกตั้งที่เป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของประชาชนในการสร้างความเปลี่ยนแปลงกลับมามีพลังอีกครั้ง มาทำงานร่วมกัน เราเคยทำได้แล้วในการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ครั้งนี้ไม่รู้ว่าเลือกตั้งท้องถิ่นจะเกิดอีกเมื่อไหร่ แต่เชื่อว่าถ้ายึดแนวทางที่ถูกต้อง อุดมการณ์ที่ถูกต้อง วิธีการที่ถูกต้อง เราจะทำสำเร็จอีกครั้ง
“ผมขอฝากไปถึงประชาชนทุกคนว่า ถ้าที่ผ่านมาท่านเลือกอนาคตใหม่แต่กลับได้อนาคตเก่า ดังนั้นนี่จะเป็นอีกครั้งที่จะได้แสดงพลัง ส่งเสียงตัวเองว่าประเทศต้องการอะไร ผ่านการเลือกตั้งท้องถิ่นที่เป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของประชาชนที่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลง สำหรับผู้สนใจอยากร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลง อยากพัฒนาบ้านเกิด หากท่านมีความมุ่งมั่น พร้อมปลดปล่อยศักยภาพของตัวเองและท้องถิ่นของตัวเอง คณะก้าวหน้าเปิดกว้าง เราจะเปิดรับสมัครผู้มาร่วมเป็นตัวแทนลงเลือกตั้งท้องถิ่นในนามคณะก้าวหน้าด้วยกัน” นายธนาธรกล่าวทิ้งท้าย
ขอบคุณข้อมูลเฟชบุ๊กคณะก้าวหน้า - Progressive Movement
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี