‘กูรูจตุพร’ฟันเปรี้ยง! การเมืองถึงจุด‘ยาก’ ปรับครม.ลากยันส.ค. ‘ยุบสภา’ไร้เลือกตั้ง
5 กรกฎาคม 2563 ที่สถานีโทรทัศน์พีซทีวี มีการจัดรายการลมหายใจ พีซทีวี เวทีทัศน์ ยังคงจัดในรูปแบบสตูดิโอและงดกิจกรรมร้องรำทำเพลง มีเพียงการสื่อสารของประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ไปยังพี่น้องมวลชนเป็นปกติทุกสัปดาห์
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวว่า หัวข้อที่จะสนทนาวันนี้สั้นๆ คือ ยาก เพราะสถานการณ์ของประเทศไทยทุกอย่างเป็นเรื่องยากทั้งสิ้น ไม่ว่าเรื่องที่ดูเหมือนจะง่ายดายแต่ทั้งหมดกลายเป็นเรื่องยากกับภายใต้สภาวการณ์ของประเทศไทยที่ชั่วชีวิตหนึ่งเราอาจจะเพิ่งเคยเห็นกันครั้งแรก อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์วิกฤตขณะนี้ตนเห็นว่า ทุกเรื่องไม่ว่าฝ่ายใดก็ตามอยู่ในสถานการณ์ที่ยากทั้งสิ้น
“การปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งตอนแรกใครก็คิดว่าง่าย สี่กุมารยังไงก็พ้นจากตำแหน่งผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐ แต่ลืมคิดไปว่ากลุ่มสี่กุมารนั้น บวกหนึ่งสมคิดก็มีประสบการณ์และบทเรียนมากมาย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เคยอยู่กับพรรคไทยรักไทยมาตั้งแต่ปี 2544 และก่อนหน้านั้นก็มีความสนิทมักคุ้นกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ฉะนั้นเส้นทางทางการเมืองที่ยาวนานจะเห็นได้ชัดเจนว่าคณะรัฐประหารทั้ง 2 ชุดไม่ว่าจะเป็นชุด 19 กันยายน 2549 และ 22 พฤษภาคม 2557 นายสมคิดจะมีบทบาททั้งสิ้น” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวต่อว่า สมัยรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ จะเห็นได้ชัดเจนว่ามีห้วงระยะเวลาหนึ่ง นายสมคิดก็เข้าไปทำเนียบรัฐบาลจะไปบัญชาการเรื่องเศรษฐกิจ แต่ถูกกลุ่มคนที่สนับสนุนให้มีการยึดอำนาจในขณะนั้นไม่พอใจ ก็ต้องออกมาจากทำเนียบรัฐบาล แต่การจัดความสัมพันธ์ก็ยังมีอยู่ และก่อนหน้านั้นที่ช่วงขณะพรรคไทยรักไทยบริหารประเทศเมื่อย้อนกลับไปดูนั้นก็เห็นว่า การดำรงอยู่ของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์นั้นไม่ธรรมดา ชนิดที่อดีตนายกทักษิณ ชินวัตรก็ตกใจว่าสถานการณ์ในขณะตอนปลายก่อนที่จะมีการล้มกระดานกันนั้น นายสมคิดอยู่ในบทบาทไหน แต่ตนไม่ต้องการอธิบายความให้เกิดปัญหากัน แต่บอกว่าไม่ธรรมดาจริงๆ และนึกไม่ถึงว่า นายสมคิดจะวางแผนได้แยบยลและ ไปไกลถึงขนาดนั้น
หลังจากพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ไปก็ปรากฏว่ามีการตั้งพรรคการเมืองลงเข้าแข่งขันชื่อพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นพรรคที่มีความพร้อมมากที่สุด แต่บังเอิญว่าประชาชนไม่พร้อมจะเลือก ต่อมาเกิดการยึดอำนาจ 22 พฤษภาคม 2557 ถามว่าทำไมพรรคพลังประชารัฐต้องใช้บริการของทีมนายสมคิด และ 4 กุมารเป็นผู้เริ่มต้นเข้าไปจัดการโครงสร้างพรรคแทบเบ็ดเสร็จ และที่สำคัญหลักจากมีอำนาจในรอบนี้ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา มีการจัดความสัมพันธ์กับสื่อสารมวลชนอย่างเป็นระบบ
ทั้งนี้ หลายคนคิดว่า บรรดาแทคโนเเครต เหล่านี้ไม่มีความเท่าทันทางการเมือง แต่มารอบนี้ตนบอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา และทันทีที่ยกชื่อโฆษกรัฐบาลมาเป็นหัวหน้าทีมบริหารเศรษฐกิจนั้นจะโดยตั้งใจหรือไม่นั้นเท่ากับเป็นการยกระดับนายสมคิด และ 4 กุมารให้ขึ้นมาเหนือกว่าภายใต้สถานการณ์นั้น
“ดังนั้น การปรับคณะรัฐมนตรีจะไม่ง่ายในสถานการณ์นี้ เพราะเมื่อใช้ในระบบโควตา ในซีกของพรรคพลังประชารัฐจะต้องไปหารกับบรรดาคณะผู้มีอำนาจตัวจริงคือ 3 ป. และป.ใหญ่ที่สุดคือพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ปัจจุบันเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า ภายใต้เศรษฐกิจแบบนี้ จะหาคนใหม่ที่มีศักยภาพเข้ามานั้นยากที่สุด เพราะคนที่รู้ว่า นรก หรือ สวรรค์ ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามา” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวอีกว่า เมื่อสถานการณ์การปรับคณะรัฐมนตรียืดยาวออกไปจนถึงกลางเดือนสิงหาคมก็จะยากกว่านี้ โดยเฉพาะตัวเลขโควตาตามสัดส่วน เมื่อแบ่งกันแล้วจัดอย่างไรก็ไม่เพียงพอกับความต้องการ ซึ่งหลักคิดในการเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจนั้นต้องคิดต้องเปลี่ยนตั้งแต่ก่อนเสนอร่างพระราชบัญญัติรายจ่ายประจำปี 2564 ตนประเมินว่าการปรับคณะรัฐมนตรีเป็นเรื่องยาก
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า สำหรับทางออกที่บอกว่ายุบสภานั้น คำตอบคือยากเช่นเดียวกัน เพราะภายใต้เศรษฐกิจแบบนี้ อย่าไปยึดถือตอนเลือกตั้งซ่อม เพราะยังไงรัฐบาลก็ได้เปรียบทุกกรณี แต่หากเลือกตั้งใหญ่ทั้งประเทศผลลัพธ์จะไม่เป็นอย่างนั้น เพราะจะต้องไปกระจายหาเสียงกันและสถานการณ์ก็ไม่ง่าย และที่สำคัญที่สุดคือกติกาไม่เปลี่ยน แต่ตนเชื่อว่าเมื่อเดินไปถึงจุดหนึ่งบางครั้งก็ไม่มีทางเลือก การเมืองบนบางกระดานดูเหมือนว่ามีทางเลือกแต่เมื่อถึงจุดหนึ่งซึ่งสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเดือนสิงหาคมนี้จะหนักที่สุดและจะหนักขึ้นเรื่อยๆ และที่น่ากลัวที่สุดคือประชาชนพอใจหรือไม่ หากประชาชนไม่พอใจด้วยแล้ว และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศที่อยู่ท่ามกลางความอดอยากหิวโหยนั้นจะเป็นปัจจัยที่น่าเป็นห่วง
“นอกจากนี้ การยุบสภาภายใต้กติกาเดิมนั้นไม่ใช่ทางแก้ไขปัญหา แต่อยู่ไป ก็ไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ตั้งคำถามต่อไปว่าหากอยู่ไปรัฐธรรมนูญจะได้แก้ไขหรือไม่ ก็แก้ไม่ได้ ไม่ว่าจะไปทางซ้ายหรือขวาก็ยากทั้งสิ้น การยุบสภาก็อย่าประมาทและ เมื่อยุบสภาไปแล้วอย่าคิดว่าจะมีการเลือกตั้ง เพราะตนไม่เชื่อว่าการยุบสภารอบนี้จะมีการเลือกตั้งเพราะด้วยสถานการณ์และปัจจัยต่างๆไม่มีทางจะดีขึ้น เพียงแต่ทรงๆไว้ในช่วง 2 ปีนี้ ดังนั้นปัญหาภายในของรัฐบาล และฝ่ายค้านก็ไม่แข็งแรง ประชาชนมีความยากลำบาก เหล่านี้เชื่อว่าประเทศไทยเดินมาถึงจุดที่สำคัญ” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า ตนยังเชื่ออีกว่า หากประเทศไทยยังไม่คิดอ่านที่จะระดมคนมีศักยภาพมาช่วยแก้ไขปัญหาก็ยาก และวิธีคิดการจัดงบประมาณรายจ่ายก็เป็นตัวอธิบายว่า ยังไม่รู้ร้อนยังไม่รู้หนาวว่าสถานการณ์ของประเทศไทยไปถึงอย่างไร แต่เชื่อว่า คนไทยจะได้มองเห็นในอีกไม่นาน ซึ่งตนยังมองมุมมองของตนในฐานะคนวิเคราะห์ทางการเมืองว่าสถานการณ์จะเป็นตัวกำหนด แต่จะไม่ใช่คนเป็นตัวกำหนดเพราะในสถานการณ์ปกติคนจะกำหนดได้ แต่เมื่อสถานการณ์เลยเถิดไปแล้วคนจะกำหนดอะไรไม่ได้ซึ่งตนก็เห็นมาหลายรัฐบาล
“การจะอยู่หรือไปของรัฐบาลไม่ใช่จำนวนเสียงในสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลในอดีต ก็ไปด้วยเสียงข้างมากกันทั้งนั้น และตนเชื่อว่าเดือนหน้าอาจจะมีการคิดในการตรึงพ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้อีก เพราะพ.ร.ก.ฉุกเฉินยังเป็นสิ่งจำเป็นกับรัฐบาลโดยเฉพาะกับนายกรัฐมนตรีในการบริหารสั่งการ ดังนั้นตนยังมองว่า ยากทุกขั้นตอน” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร ยังกล่าวอีกว่า เมื่อถึงจุดยากขนาดนี้และเชื่อว่าหลายคนก็มีความรู้สึกเพียงแต่ว่าการรับฟัง ด้วยสมาธิสั้น และมีความอดทนต่ำ และสภาพการหลายๆเรื่องนั้นตนพยายามบอกว่า เวลานี้แต่ละฝ่ายต้องไม่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว และต้องระดมคนที่มีความเท่าทันในทุกๆด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ว่ามุมมองสถานการณ์ของประเทศที่เป็นอยู่ในขณะนี้ควรที่จะหลอมรวมจิตใจของคนภายในชาติ หากใครมีศักยภาพเรื่องอะไรก็ระดมมาช่วยกัน แต่หากยังมองเขาเป็นเขา มองเราเป็นเรา ก็จะไม่เกิดประโยชน์ เพราะสถานการณ์ปัจจุบันเลยเถิดกว่า การมานั่ง มองเขาเป็นเขา มองเราเป็นเรา
"จตุพร"ชูสามัคคีไทยดันเปลี่ยนแปลง ปลุกตื่นสู้ความยากลำบาก ร่วมฝ่าวงล้อมเผด็จการ ศก.ทุนผูกขาด สมคบผู้มีอำนาจก่อทุกข์ยากปากท้อง ปชช.
อานุภาพความศักดิ์สิทธิ์!‘ไพศาล’เฉลยที่มาพระสมเด็จที่‘จตุพร’แขวน วันนี้จึงเป็นกำลังแผ่นดิน
‘จตุพร’ฟันเปรี้ยง!โควิดทุบรัฐบาลอยู่ไม่ได้ ฉะกลไกรัฐหละหลวม บี้‘บิ๊กตู่’รับผิดชอบ
เดือด!!!‘จตุพร’โวยข่าวปลอมทำลายหนัก ลั่นฟ้องเอาผิดแน่ ปูดผู้ใหญ่เตือน‘ผมมันโง่’
"จตุพร"เชื่อสถานการณ์รัฐบาลกับโควิดสัมพันธ์กัน คาดส่งผลกระทบให้ไปพร้อมกัน ย้ำหวังดีคนเสื้อแดง ไม่มีเจตนายุบ แต่ส่งมอบมรดกการต่อสู้ของคนเสื้
"จตุพร"เผยเตรียมเดินสายคุยอดีตแกนนำ นปช.เพื่อหารือแนวทางขององค์กร นปช. แต่ส่วนตัวมองว่าควรจะยุติองค์กร นปช.ให้เป็นตำนาน ย้ำเป็นคนเดิม จ่อดำ
เลื่อนปล่อยตัว‘ณัฐวุฒิ’ รอขั้นตอนธุรการ คาดออกคุก 18 ธ.ค.
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรค พท.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช.ระบุว่ามีเจ๊คนหนึ่งที่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี