"แรมโบ้"จัดหนัก! จวก"ศรีสุวรรณ"ลูกอีช่างร้อง มั่วนิ่มปมเอื้อประโยชน์กลุ่มหมู่บ้านเสื้อแดง โต้ไม่มีอำนาจ สลึงบาทเดียวยังไม่มีการอนุมัติ ขู่หากไม่หยุดพฤติกรรมเครือข่ายกว่า3พันแห่งทั่วประเทศจ่อดำเนินคดี
เมื่อช่วงสายวันนี้ (7 กรกฎาคม 2563) ที่โรงแรมสีมาธานี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ "แรมโบ้อีสาน" ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เลขานุการทีมวอร์รูมนอกสภา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โจมตีกล่าวหาว่านายสุภรณ์ จะเอาตำแหน่งไปเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มคนเสื้อแดงบางกลุ่ม ว่า ขอเรียนว่าข้อเท็จจริงอดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย คือ นายอานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น ที่ได้รวมตัวคนเสื้อแดงไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้มานานแล้วประมาณกว่า 20,000 หมู่บ้าน
และหลังจากยุติการชุมนุม นายอานนท์ได้จัดตั้งวิสาหกิจชุมชนก็ทำหลากหลายอาชีพ ทั้งเพาะเห็ดฟาง เลี้ยงสัตว์โค-กระบือ เป็ด ไก่ และปลา ทำประมง มีเครือข่ายมาประมาณกว่า 3,000 กลุ่ม เสร็จแล้วได้มายื่นหนังสือต่อสำนักนายกรัฐมนตรี โดยเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่ามีความเดือดร้อนได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ซึ่งตนเห็นว่าวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ให้แนวทางเรื่อง "รวมไทย สร้างชาติ" เพื่อให้พี่น้องทุกกลุ่มทุกเหล่าทุกสีเสื้อมาร่วมมือพัฒนาบ้านเมืองสร้างความสามัคคีปรองดองให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง
ทั้งนี้ เราต้องการระดมคนดีคนเก่งคนกล้าทั้งหลายทั้งปวง ใครที่มีความสามารถมีทักษะและมันสมอง มีความเสียสละที่จะทุ่มเททำงานให้บ้านเมืองประเทศชาติและประชาชน ก็ยินดีที่จะต้อนรับคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นอดีตนักการเมือง อดีต ส.ส. นักการเมืองฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ภาครัฐ ภาคประชาชน พ่อค้า คหบดี ข้าราชการ ประชาชน เกษตรกร ทำให้บ้านเมืองเกิดความรักสมัครสมานสามัคคีประเทศชาติเดินไปได้ โดยเฉพาะสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่เป็นสถาบันหลักของชาติ บ้านเมือง ดำรงอยู่คู่ประเทศไทยเรา ฉะนั้น เราต้องระดมแนวความคิดของ พล.อ.ประยุทธ์
นายสุภรณ์ กล่าวว่า ตนเห็นว่ากลุ่มของนายอานนท์ เคยหลงผิดและเคยต่อสู้เรียกร้องชุมชนเรื่องของคนเสื้อแดง เมื่อเขาเดือดร้อนมายื่นหนังสือขอให้รัฐบาลได้พิจารณาดูว่ากลุ่มวิสาหกิจชุมชนกว่า 3,000 กลุ่ม ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด ได้มายื่นเป็นเรื่องปรกติ และไม่ว่ากลุ่มไหน คณะไหน ราษฎร หรือประชาชนคนไหน มายื่นเรื่องร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ หรือสำนักนายกรัฐมนตรี ตนซึ่งได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องไปรับเรื่องร้องทุกข์เรื่องความเดือดร้อนของประชาชนทุกกลุ่มอยู่แล้ว และนายอานนท์ ก็มาเรื่องร้องเรียน ที่เราเห็นว่าเดือดร้อน วันนี้ถ้าเรามีโอกาสที่จะให้พวกเขามีความคิด เสียสละและมาร่วมมือกันทำงาน ตรงไหนที่กลุ่มของเขาได้รับความเดือดร้อน เราก็จะประสานให้ ซึ่งจริงๆ ตนก็ประสานให้ทุกกลุ่ม ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มของนายอานนท์ เพราะตนก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการติดตามแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ที่ พล.อ.ประยุทธ์ แต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมาอยู่แล้ว โดยมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
ฉะนั้น เมื่อกลุ่มนายอานนท์ เดือดร้อน ซึ่งเราก็จะดูว่าจะดูแลช่วยเหลืออย่างไร ตนเรียนยืนยันว่า ณ ขณะนี้ยังไม่มีการอนุมัติงบประมาณอะไรลงไปช่วยกลุ่มวิสาหกิจกลุ่มนายอานนท์แม้แต่สลึงเดียว บาทเดียวก็ยังไม่ได้มีการอนุมัติ และนายอานนท์ยังไม่ได้มีการเสนอโครงการที่ถูกต้องตามระเบียบราชการและกฎหมายขึ้นมา เพราะจะต้องผ่านขั้นตอน ผ่านอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด ในการตรวจสอบกลุ่ม ก่อนเสนอเข้ากรม เข้าสภาพัฒน์ เข้า ครม. ยังอีกหลายขั้นตอนกระบวนการ ตอนนี้มันยังไม่ได้เริ่มต้นอะไรเลย เพียงแต่ยื่นความเดือดร้อนแค่นั้นเอง คือ เอกสารฉบับเดียวว่าเดือดร้อนจากโควิด-19
นายสุภรณ์ กล่าวอีกว่า ดังนั้น สิ่งที่นายศรีสุวรรณ กล่าวหาข้อแรกก็ผิดแล้วว่า ได้มีการไปบังคับข่มขู่ราชการ ตัวนายอานนท์ และตัวตนเอง ก็ไม่เคยไปสั่งราชการไหน และนายอานนท์ เองก็ใช้กลุ่มเดิมที่จัดตั้งลงทะเบียนมานานแล้ว และเคยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในอดีตมาแล้วด้วย ในขณะนั้นรัฐบาล คสช.ก็ดูแลให้การสนับสนุนกลุ่มของนายอานนท์ ในกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น ต่อมาถึงโครงการนี้เราเห็นว่าเป็นกลุ่มคนเสื้อแดงเก่าถ้าจับเอามาทำงานให้บ้านเมืองร่วมมือพัฒนาบ้านเมือง สร้างความสามัคคีปรองดอง ไม่ให้เขาเกิดความคิดเห็นต่าง อะไรที่เราจะประสานให้เขาได้ก็ยินดี
ดังนั้น ข้อที่ 1 เราไม่มีการที่จะไปข่มขู่ราชการอยู่แล้ว เพราะนายอานนท์ไม่ได้ไปจดกลุ่มใหม่ และเป็นกลุ่มเดิมที่จดทะเบียนอยู่แล้ว ข้อที่ 2 ยังไม้ได้มีการยื่นเอกสารตามระเบียบราชการอะไรทั้งนั้น งบประมาณก็ยังไม่ได้และยังไม่มีการพิจารณา และเงินต่างๆ ไม่ได้เป็นการให้เปล่า ส่วนใหญ่เป็นเงินที่กู้ยืมจาก ธกส. , กองทุนเกษตรกร นู้นนี่นั่น และไม่มีใครสามารถจะเอาเงินส่วนนั้นไปใช้ประโยชน์ส่วนตนได้อยู่แล้ว
ข้อสำคัญสุดท้าย ตนเองเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ตนไม่มีอำนาจหน้าที่ และไม่สามารถที่จะไปอนุมัติงบประมาณให้กับกลุ่มไหนได้เด็ดขาด เรียกว่า ตนไม่มีอำนาจจัดสรรงบประมาณใดๆ ทั้งสิ้น ตนแค่มีหน้าที่คอยประสาน แนะนำ หรือเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงระเบียบขั้นตอนวิธีการตามระเบียบราชการได้ แค่นั้นเอง ไม่มีอะไรเลย ยังไม่มีตามที่นายศรีสุวรรณ กล่าวหาเลย
และ ณ วันนี้ตนทราบจากการแถลงข่าวของนายอานนท์ ว่า นายศรีสุวรรณ ดูถูกดูแคลนและทำให้กลุ่มของเขาได้รับเสียหาย และเหมือนกับว่า ดูถูกว่ากลุ่มของเขาจะมีการทุจริตหวังเงินหวังทองจากราชการจากเงินของรัฐ ทำความเสียหายให้กับรัฐบาลหรือราชการ และไปเบ่งราชการ ก้าวก่ายหน้าที่ ข่มขู่ราชการ ตนได้ข่าวจากนายอานนท์ ว่า ถ้านายศรีสุวรรณไม่หยุดก็จะให้ประธานเครือข่ายวิสาหกิจทั่วประเทศกว่า 3,000 แห่ง ไปที่โรงพัก แจ้งความดำเนินคดีกับนายศรีสุวรรณ ก็แล้วแต่ของกลุ่มว่ากันไป
ส่วนตัวตนเองสบายใจ บริสุทธิ์ใจ จะไปร้อง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส กรรมาธิการฯ ป.ป.ช.สภาผู้แทนราษฎร เชิญได้ไม่มีปัญหา เชิญได้เลยตายสบาย เพราะตนไม่เคยทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ตนทำหน้าหน้าที่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบหมายภารกิจให้ทำ โดยที่ตนไม่ได้ทำอะไรผิดขั้นตอนของระเบียบกฎหมาย และไม่เคยไปก้าวก่ายการอนุมัติงบประมาณ และไม่มีอำนาจการอนุมัติงบประมาณแต่อย่างใดทั้งสิ้น
"วันนี้คุณศรีสุวรรณ จรรยา ต้องเห็นใจ เกษตรกรกลุ่มไหนก็ได้ที่เขาเดือดร้อนที่มีปัญหามาร้องเรียนที่สำนักนายกรัฐมนตรี ถึง พล.อ.ประยุทธ์ เราเองต้องห่วงใยเกษตรกร ห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤตโควิด ไม่ว่ากลุ่มไหนก็ตาม เราก็ต้องให้การช่วยเหลือหรือให้การสนับสนุน และจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ ได้หรือไม่ได้อีกเรื่องหนึ่ง แต่เราต้องห่วงใยเขาคือ ต้องประสานงานในการที่จะพิจารณาหรือไม่อย่างไร ว่ากันไปตามเนื้อผ้า เอกสาร หลักฐานที่สามารถช่วยเหลือเยียวยาได้จริง หรือไม่อย่างไร" นายสุภรณ์ กล่าวและว่า
ส่วนเรื่องการทุจริตคุณศรีสุวรรณ ไม่ต้องไปห่วง เพราะมันมีกรรมาธิการสภาฯ กรรมาธิการวิสามัญของสภาฯ ที่ตั้งขึ้นมา ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล มีหน้าที่คอยตรวจสอบอยู่แล้ว มี ป.ป.ง. , ส.ต.ง. , ป.ป.ช.และหน่วยงานมากมายคอยตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่นอยู่แล้ว ดังนั้น คุณศรีสุวรรณ ไม่ต้องไปห่วงเรื่องนี้ ใครจะกล้ามาทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้น กลุ่มไหนก็ช่างที่เดือดร้อนเราจะเป็นไปรษณีย์ หรือประสาน หรือถือสารส่งให้ผู้หลักผู้ใหญ่ หรือรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง อธิบดี บุคคลที่สามารถตัดสินใจได้ หรือมีส่วนที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบก็ประสานไปผให้เท่านั้นเอง
"ผมปรารถนาที่สุดอยากจะเห็นว่า คนที่คิดผิดอย่างกลุ่มของคุณอานนท์ หมู่บ้านเสื้อแดงเก่า คนเสื้อแดงเก่าที่เคยหลงผิด เคยต่อสู้ เคยชุมนุม อะไรที่เขาเลิกพฤติกรรมสีเสื้อ เลิกพฤติกรรมสลายหมู่บ้านเสื้อแดง กลับมาเป็นหมู่บ้าน "เรารักประเทศไทย" ภายใต้โครงการ "รวมไทย สร้างชาติ" ของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นสิ่งที่ดี วันนี้เราไม่ควรมีสีเสื้อ ไม่มีสีโน้นสีนี่ สลายสีเสื้อ คนไทยไม่ทะเลาะเบาะแว้ง ไม่ขัดแย้งกัน จับมือเป็นหนึ่งเดียวกัน เดินหน้าทำให้บ้านเมืองเข้มแข็ง สมัครสมานสามัคคี ประเทศชาติโตไปได้ อยู่ดีกินดี มั่นคงมั่งคั่งยังยืน มีรายได้หมดหนี้หมดสิน เศรษฐกิจไปข้างหน้า ตามที่ประชาชนทุกคน และนายกฯ ปรารถนา ผมพูดตรงๆ ว่า คุณศรีสุวรรณ เหมือนกับอิจฉาเกษตรกร เกษตรกรเขาจะได้มันเป็นเรื่องที่ดี ถ้าทุกกลุ่มเขาจะได้มันเป็นเรื่องที่ดี มันไม่มีเรื่องทุจริตอยู่แล้ว และเขาจะได้ลืมตาอ้าปาก สร้างเนื้อสร้างตัวได้ หมดหนี้หมดสิ้น ลูกหลานจะได้มีงานทำในพื้นที่ ไม่ต้องอพยพเร่ร่อนไม่หางานทำที่อื่น"
ทั้งนี้ สิ่งที่นายอานนท์ พูดออกมาว่า นายศรีสุวรรณไม่ได้มีความรักเกษตรกรเลย นายศรีสุวรรณดีแต่เป็นนักร้องเรียน ไม่เคยลงไปในพื้นที่ ไม่เคยลงไปถึงรากหญ้า ไม่เคยลงไปดูความทุกข์ยากของเกษตรกร ไม่เคยลงไปเยี่ยมชาวนาชาวสวน ไม่เคยเห็นวิถีชีวิตที่น้องเกษตรกรมีความลำบากอย่างไร ดีแต่จะร้องเรียน จับเรื่องโน้นเรื่องนี้เรื่องนั้น ร้องมันไปทุกเรื่อง โดยไม่ดูข้อเท็จจริงหรือความทุกข์ยากของเกษตรกรที่เดือดร้อนได้รับผลกระทบ มองแค่คนโน้นจะได้เงินหรือโน้นนี่นั่นจะได้ผลประโยชน์ ข้อเท็จจริงไม่มีผลประโยชน์ไหน ระบบราชการเงินราชการมันทุจริตไม่ไดอยู่แล้ว มันไม่ใช่เงินลงไปที่ใครคนใดคนหนึ่งแต่อย่างใด เรื่องนี้นายอานนท์ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ถ้านายศรีสุวรรณไม่หยุดพฤติกรรมกล่าวหากลุ่มวิสาหกิจชุมชนคนรักประเทศไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี