บิ๊กตู่ลั่นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
เตรียมปรับครม.
หลัง4กุมารลาออกพ้นพปชร.
ยันโควตารมต.ของนายกฯ
เล็งเปลี่ยนคนเท่าที่จำเป็น
ใครทำงานดีแล้วก็ให้อยู่ต่อ
“4 กุมาร” ยุติภารกิจ “อุตตม-สนธิรัตน์-สุวิทย์-กอบศักดิ์”ลาออกพ้น พปชร.แต่ยังนั่งรมต.ชี้อนาคตขึ้นอยู่กับนายกฯภูมิใจได้ร่วมก่อตั้งพรรค เป็นแกนนำ รบ.พา “บิ๊กตู่”นั่งนายกฯ รอบ 2 ยังไม่คิดตั้งพรรคใหม่ ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด“บิ๊กตู่” ลั่นปรับครม. เป็นไปได้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เคารพการตัดสินใจ 4 กุมาร ยันทั้งหมดเป็นโควตา นายกฯยันจะเลือกคนดีที่สุด
ทุกกระทรวง เปรยคืนโควตา 4 กุมาร ให้พรรค พปชร.ตัดสินใจ เตือนใครวิ่งเต้น อาจไม่ได้ตำแหน่ง โว 3 ป.ไม่แตกคอ แย้ม ครม.ศก.ดูโควตาเหมาะสม ‘บิ๊กป้อม”เคารพการตัดสินใจ 4กุมารทิ้ง พปชร. โยน”บิ๊กตู่”ตัดสินโควตา รมต..พปชร.
เมื่อเวลา 12.15น.วันที่ 9กรกฎาคม ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัล ถนนลาดพร้าว กลุ่ม 4 กุมาร ประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง อดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน อดีตเลขาธิการพรรคฯ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม อดีตรองหัวหน้าพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตกรรมการบริหารพรรคได้แถลงลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐอย่างเป็นทางการ
4กุมารแถลงลาออกพ้นพปชร.
โดยนายอุตตม กล่าวว่าการทำงานร่วมกับพรรคมา2 ปี ถือว่าภารกิจนำพาพรรคเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก้าวข้ามปัญหาต่างๆ ได้สำเร็จ โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และเวลานี้ถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว จึงขอยุติภารกิจในพรรค พปชร.ที่มีผู้บริหารพรรคชุดใหม่ เข้ามาทำหน้าที่ต่อไป สำหรับพวกเราจะเดินหน้าทำหน้าที่ฝ่ายบริหารในตำแหน่งที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีคือจะยังทำหน้าที่ในครม.ต่อไป แต่เราจะยังสนับสนุนกิจกรรมของพรรคในเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชนโดยรวม และยังไม่ได้มีความคิดที่จะไปตั้งกลุ่มหรือพรรคการเมือง
“การแถลงวันนี้ เป็นเรื่องของพรรคไม่ใช่ฝ่ายบริหาร ส่วนการจะปรับเปลี่ยนตำแหน่งใดๆในอนาคตเป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้ ขึ้นอยู่กับนายกฯเวลานี้ขอทำหน้าที่อย่างเต็มที่ หากจะมีการปรับเปลี่ยนในครม.ถือเป็นเรื่องของนายกฯ ทั้งนี้พวกเราทำปัจจุบันบันให้เต็มที่วันข้างหน้าเป็นเรื่องของวันข้างหน้า”นายอุตตม ย้ำ
‘สนธิรัตน์’ไม่ยึดติดเก้าอี้รมต.
ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เราไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง และแยกแยะบทบาทในพรรคพปชร.กับฝ่ายบริหารในฐานะรัฐมนตรี โดยจะทำหน้าที่ให้ถึงที่สุด ส่วนอนาคต ให้เป็นดุลพินิจของนายกฯไม่ไปก้าวล่วงเพราะอยู่นอกขอบเขตการตัดสินใจ และที่ผ่านมาพวกตนเป็นส่วนหนึ่งของ พปชร.แม้จะไม่เคยทำงานการเมือง แต่ก็สร้างพรรคจนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และอยากให้พรรคเข้มแข็งเดินหน้าเป็นสถาบันการเมืองต่อไปและสายใยความผูกพันกับสมาชิก จะไม่หายไป และ ยังความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ยังเป็นครอบครัวกัน ไม่ได้ขัดแย้งกัน
แจ้ง’สมคิด’พร้อมให้กำลังใจ
และเคยพูดเสมอว่าไม่ถอดใจ การมาทำงานการเมืองคือความเสียสละ ทำหน้าที่ให้ดีตราบใดที่มีหน้าที่จะทำให้ไม่ได้ยึดตำแหน่งหรือหวังอะไร ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรคได้บอกกล่าวกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีแล้วซึ่งท่านให้กำลังใจในการทำงาน แต่ไม่ได้แนะนำอะไรเพราะท่านเคารพการตัดสินใจของพวกเรา
แถลงการณ์ความทรงจำล้ำค่า
นอกจากนี้ หลังจาก ทั้ง 4 ประกาศลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร.แล้ว ยังได้ออกแถลงการณ์ร่ายยาวโดยช่วงท้ายได้ขอบคุณประชาชนที่ให้การสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ ขอบคุณผู้บริหารพรรค สส.สมาชิกพรรคที่ให้การสนับสนุนพวกเรามาโดยตลด การได้ร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นประสบการณ์ที่ดร เป็นความทรงจำที่ล้ำค่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยทั้ง 4 คน มอบหมายให้ทีมงานไปยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ในวันเดียวกัน
สำหรับทั้ง 4 คน ได้ร่วมงานในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่สมัย คสช.ต่อมาได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2562 เพื่อมาทำงานการเมืองเต็มตัว นำทีมหาเสียงเลือกตั้ง ส่งผลให้พรรค พปชร.สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ จนกระทั่งถูกแรงกดดันจากแกนนำพรรคให้พ้นจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคโดยให้กรรมการบริหารลาออก นำไปสู่การประชุมใหญ่สามัญประจำปี2563 เมื่อวันที่27 มิ.ย.2563ที่ผ่านมา ลงมติเลือกพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยไร้ชื่อทั้ง4 คนร่วมคณะกรรมการบริการพรรคชุดใหม่
บิ๊กตู่ยันปรับครม.หลังงบ64ผ่าน
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐของทั้ง 4 กุมารว่า ใครจะลาออก ก็ต้องปล่อยเขาไป แต่ถ้าถึงเวลาการปรับคณะรัฐมนตรีเมื่อไหร่ ตนปรับเองแต่อย่าไปคิดกันเองว่าคนนั้นคนนี้จะได้ตำแหน่งอะไร ตอนนี้ตนคิดของตนอยู่ เมื่อทุกอย่างพร้อมก็จะปรับ อย่าลืมว่าตอนนี้งานต่างๆกำลังเดินหน้าอยู่ ต้องมีคนทำงาน แต่ถ้ามีใครลาออก ก็ต้องหาคนอื่นมาแทน มีกฎหมาย มีระเบียบดูแลเรื่องนี้อยู่และระหว่างที่รัฐมนตรีกระทรวงนั้นๆไม่อยู่ ก็มีรัฐมนตรีคนอื่นทำแทนได้ แต่โดยรวมแล้วทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว แต่เขายังเป็นรัฐมนตรีอยู่ จนกว่าจะมีการปรับครม.
“ทั้งนี้ การปรับ ครม.เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะผมไม่เคยพูดว่าจะไม่ปรับ แต่ต้องให้ประเทศเดินหน้าไปก่อน ต้องรอให้ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2564 เสร็จเรียบร้อยออกมาก่อนและการใช้งบประมาณในการดูแลและฟื้นฟูเศรษฐกิจเริ่มมีความคืบหน้า เป็นไปอย่างเรียบร้อยและชัดเจนก่อน จากนั้นจึงจะปรับ ครม.เพื่อให้รัฐบาลเดินหน้าต่อไปอย่างไม่ติดขัด”นายกรัฐมนตรี ย้ำ
เปลี่ยนครม.ต้องฟังพรรคร่วม
เมื่อถามว่าแล้วนายกฯยังจะใช้บริการรัฐมนตรีเหล่านี้ต่อไปหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า”ก็ต้องใช้สิ แต่เขาลาออกจากพรรค ถึงอย่างไรก็ต้องปรับมั้ง ต้องปรับตัวบุคคล เพราะมันเป็นวิถีทางการเมือง ส่วนที่มีบางฝ่ายเป็นห่วงปรับครม.แล้วอาจไม่ดีขึ้นหรืออาจได้ตัวบุคคลที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งรัฐมนตรีเพราะเริ่มมีการเสนอชื่อบางคนขึ้นมา ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การปรับ ครม.มีกลไกที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทั้งกลไกการเมือง กลไกเรื่องประชาธิปไตย กลไกที่เกี่ยวกับส.ส.
ส่วนการที่มีข่าวชื่อของบางคนว่าจะมาเป็นรัฐมนตรีแล้วขึ้นมาถูกวิพากษ์วิจารณ์มากนั้นมันมี 2 ส่วน ส่วนหนึ่ง แสดงให้เห็นว่าคนที่ถูกวิจารณ์อาจไม่เหมาะสม แต่อีกส่วนหนึ่งคือ คนที่ออกมาวิจารณ์อย่างนั้น เขาเป็นคนที่อยากได้ตำแหน่ง แต่ไม่ได้ถูกเสนอชื่อก็ได้ จึงไปถล่มคนอื่น ทั้งนี้ การตั้ง ครม.ก็ต้องมีสัดส่วนของพรรคการเมืองที่มาร่วมรัฐบาล ขณะที่พรรคต่างๆมี ส.ส.ที่มาจาการเลือกตั้งโดยประชาชน
เมื่อถามว่านายกฯมีโควตากลางของตัวเอง นายกฯย้อนถามว่า ของตนมีกี่คน 9 คนหรือแต่พรรคที่มาร่วมรัฐบาล มีสัดส่วนของเขาด้วย ตนต้องขอสัดส่วนให้กับพรรคต่างๆเช่นกัน ส่วนใครจะมาร่วม ครม.บ้างนั้น อยู่ที่แต่ละพรรคดูความเหมาะสม”
มั่นใจดึงความเชื่อมั่นไทย-ตปท.
เมื่อถามว่าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่เดินต่อไปจากนี้จะสร้างความมั่นใจต่อรัฐบาลได้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี เป็นคนเดิมอยู่และต้องยึดเจตนารมณ์ของตนและยุทธศาสตร์ของตน ประเทศเดินได้ด้วยยุทธศาสตร์ พรรคร่วมรัฐบาล ทั้งหมดและทุกคนที่ร่วมรัฐบาลต้องยึดยุทธศาสตร์ตรงนี้ ตนไม่ยอมให้ใครมาล้มได้ แต่ถ้ารัฐมนตรีคนเก่า ไม่อยู่แล้ว ต้องหาคนใหม่ ถ้าใครยังอยู่ต่อ ก็ต้องดูว่าพรรคเขาจะว่าอย่างไร ตนสั่งไม่ได้ทั้งหมด เพราะมีเรื่องพรรคการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล มั่นใจว่ามีแรงดึงดูดมากเพียงพอที่จะสร้างความมั่นใจให้ประชาชน นักธุรกิจและต่างประเทศได้
บิ๊กป้อมเคารพตัดสินใจ4กุมาร
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะว่าที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกลุ่ม4กุมารแถลงลาออกพ้นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐว่า ได้รับทราบแล้วและตนเคารพการตัดสินใจของแต่ละคน ตัดสินใจอย่างไรก็เป็นเรื่องของท่านเมื่อถามว่าเป็นเพราะน้อยใจในเรื่องที่ผ่านมาในพรรคหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ใครยังอยู่ก็อยู่ เพราะทุกคน ก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ไม่ต้องมาถามตนหรอก
ระบุปรับครม.เป็นอำนาจนายกฯ
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่พวกเขาจะแยกไปตั้งพรรคการเมืองแล้วมาเป็นพันธมิตรพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตรตอบว่า”ผมไม่รู้ ผมไม่ทราบ ไม่ได้คุยกันนะ”เมื่อถามว่าแล้วในอนาคต ยังจะทำงานร่วมกันได้อยู่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังทำงานร่วมกันได้ เพราะทุกคนมีความตั้งใจทำงานให้กับประเทศชาติด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าใครทั้งนั้น เมื่อถามว่าเมื่อไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ แล้วตำแหน่งรัฐมนตรี ยังคงอยู่หรือไม่ เพราะเป็นโควต้าของพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า“อันนี้เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี”
บิ๊กป้อมรับทราบปัญหาสภาล่ม
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงปัญหาสภาล่มว่า นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาลได้รายงานเรื่องของสภาล่ม ซึ่งสส.ก็อยู่ที่สภา แต่กำลังประชุมคณะกรรมาธิการอยู่ บางคนไม่รู้ว่ามีการเรียกเพื่อนับองค์ประชุม เมื่อถามว่า จะต้องมีการเข้มงวดในส่วนของสมาชิกพรรคให้เข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียงมากกว่านี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า”ไม่ต้องเข้ม เพราะเขาอยู่ที่สภาอยู่แล้ว”
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปัญหาสภาล่มที่เกิดขึ้นว่า เกิด ก็แก้ไป ไม่เป็นอะไร สภาฯล่มก็เพราะไม่ครบองค์ประชุม ซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายรัฐบาล
บิ๊กป้อมกำชับลูกพรรครอบคอบ
ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรล่มเนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบเนื่องจากส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้อยู่ในที่ประชุมเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ว่าหลังจากเกิดเรื่อง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรค ได้กำชับให้ส.ส.ทุกคนต้องมีความรับผิดชอบ แต่ก็ไม่ถึงขั้นไม่พอใจเพราะการที่สภาฯล่ม ก็ทำให้สภาฯเกิดภาพลักษณ์ไม่ดี ประชาชนรู้สึกไม่ดี แต่ก็ไม่ได้มีอะไรที่เป็นปัญหาซึ่งส.ส.บางคนอาจมาเข้าร่วมประชุมช้าบ้าง
อ้างเหตุสลับวาระทำสับสน
เพราะมีการสลับวาระการประชุมของวันที่ 8 ก.ค.กับวันที่ 9 ก.ค.แต่ละคนมีคิวอภิปรายของตนเอง เมื่อมีการเปลี่ยนวาระทำให้บางคนไม่ทราบ จึงยังไม่มาเข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ ตนก็อยู่ในสถานการณ์ดังกล่าวและไม่มีใครคิดว่าจะมีการนับองค์ประชุม เพราะเป็นการพิจารณาวาระเพื่อทราบ ที่ผ่านมาในอดีตน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลยในการนับองค์ประชุมในวาระเพื่อทราบ
เมื่อถามว่า ควรมีมาตรการลงโทษส.ส.ที่ขาดประชุมหรือไม่นายพุทธิพงษ์กล่าวว่าพล.อ.ประวิตรได้ให้นโยบาย ให้วิปรัฐบาลและแกนนำพรรคพลังประชารัฐไปดูว่า ถ้าใครไม่มาเข้าร่วมประชุม หรือติดธุระอะไร ก็ให้แจ้งล่วงหน้าไว้ก่อน
ยันวิปรัฐต้องปรับการทำงาน
นายพุทธิพงษ์ ยอมรับว่าเรื่องนี้จะต้องมีการปรับปรุงการทำงานของวิปรัฐบาล แน่นอน เพราะ พล.อ.ประวิตร ได้ให้นโยบายว่า รองหัวหน้าพรรค ที่ดูแลแต่ละภาคกับวิปรัฐบาลจะต้องไปหาวิธี เพื่อดูแลให้รอบคอบกว่านี้ซึ่งในวันที่ 14 ก.ค.เป็นวันประชุมพรรคประจำสัปดาห์ ทาง พล.อ.ประวิตร จะกำชับเรื่องนี้กับส.ส.ทุกคน ส่วนตัวคิดว่าไม่เป็นอะไร ถือเป็นครั้งแรก แต่จากนี้ก็ให้รอบคอบขึ้น
ตั้งรองหน.พรรคคุมแต่ละภาค
เมื่อถามถึงการประชุมวิสามัญพรรคในวันที่ 10 ก.ค.นี้จะมีการแต่งตั้ง รองหัวหน้าพรรคเลยหรือไม่ นายพุทธิพงษ์กล่าวว่าต้องถาม พล.อ.ประวิตร ว่าจะมีการแต่งตั้งรองหัวหน้าพรรคฯในวันดังกล่าวเลยหรือไม่ แต่ พล.อ.ประวิตร ก็มีแนวทางที่จะต้องมีรองหัวหน้าพรรค เพื่อดูแลในแต่ละภาคและจะมอบหมายหน้าที่ต่อไป โดย พล.อ.ประวิตรตั้งใจแบ่งงานให้ กก.บห.พรรค แต่ละคนอย่างชัดเจนว่าใครจะต้องทำหน้าที่อะไร ถือเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกอย่างลงตัว
“ชวน”ไม่ตำหนิใครเหตุสภาล่ม
สำหรับปัญหาการประชุมสภาผู้แทนราษฎรล่มเมื่อวันที่ 8 ก.ค.นั้น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ขอโทษหรือตำหนิใคร เพราะส่วนตัว ก็มีส่วนที่เคยบอกให้สมาชิกที่ไม่มีคิวอภิปราย ไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องประชุม เพื่อลดความแออัดป้องกันการแพร่เชื้อของโควิด-19 และเชื่อว่า ไม่เกี่ยวกับกรณีที่ฝ่ายค้านเสนอให้ถอนญัตติรายงานการปฏิรูปที่อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่เป็นเพราะวันนี้ไม่มีใครคาดคิดว่า ฝ่ายค้าน จะขอนับองค์ประชุม เพราะวาระดังกล่าวไม่มีเรื่องที่ต้องลงมติ
เตือนอย่าประมาทอาจเกิดซ้ำอีก
ในกระบวนการประชาธิปไตย อยากให้ ส.ส.ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด แม้จะมีความขัดแย้งกันบ้าง แต่ก็ขอให้ทำหน้าที่ตามกฎหมาย อยู่ข้างนอกจะเป็นอย่างไรก็ได้ แต่ อยู่ในสภาต้องยึดมั่นความชอบธรรม สมาชิกทุกคนต้องทำงาน ถือว่าการทำงานขณะนี้เป็นไปได้อย่างรวดเร็วมีวาระการพิจารณาเพียงแค่เรื่องเพื่อทราบและที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมือจาก ส.ส.เป็นอย่างดี องค์ประชุมประกอบด้วยทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล เตือนไว้อย่าประมาท เพราะเหตุการณ์เหล่านี้อาจเกิดขึ้นอีกได้
ฝ่ายค้านวอล์คเอาท์ไม่ถกปฎิรูปปท.
ในเดียวกัน ที่รัฐสภา เกียกกาย ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธาน เพื่อพิจารณารายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศ ตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญ รอบเดือนตุลาคม- ธันวาคม 2562
ทันทีเริ่มเข้าสู่วาระนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย รองประธานวิปฝ่ายค้าน ได้ลุกยืนยันว่าไม่สามารถรับทราบรายงานฉบับนี้ได้ ฝ่ายค้านขอวอล์คเอ้าท์ จะกลับเข้าสู่ห้องประชุมอีกครั้ง หลังการพิจารณาวาระนี้เสร็จสิ้น เพราะเราไม่อยากเป็นตรายางให้คณะรัฐมนตรี รับทราบรายงานการปฏิรูป ที่ไม่ปรากฏ ความคืบหน้าการปฏิรูป รวมถึงในตัวรายงาน ยังอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 270ที่คณะรัฐมนตรี จะต้องรายงานความคืบหน้าให้สภารับทราบทุกๆ 3 เดือน
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(ประธานวิปรัฐบาล) ชี้แจงว่าวาระดังกล่าวว่าสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะต้องรายงานความคืบหน้าดังกล่าว ตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ ที่เสนอมายังสภาฯตั้งแต่เดือนพฤษภาคมแล้ว แต่ประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19และปิดสมัยประชุมสภา ซึ่งยังอยู่ในห้วงเวลาที่สามารถรายงานต่อสภาได้
ขณะที่ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล ขอให้สภาทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เพื่อกู้ภาพลักษณ์ของสภา เรียกร้องให้ ส.ส.มาพิจารณารายงานการปฏิรูปประเทศอย่างตรงไปตรงมา แม้จะไม่เห็นด้วย เมื่อรัฐธรรมนูญบัญญัติให้สภาพิจารณารับทราบ ก็ต้องปฏิบัติตามกติกา ไม่ใช่เรื่องของตรายางเพื่อกู้ภาพลักษณ์ของสภา และหากไม่เห็นด้วยในประเด็นใด ก็ส่งไปยังคณะรัฐมนตรี เพื่อปรับปรุง และให้รัฐบาลหันมาเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ
นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วย กับนายชินวรณ์ที่สภาจะต้องมาพูดคุยกันเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ปฏิบัติตามหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติ ไม่ควรวอล์คเอ้าท์ ขอให้ส.ส.ทำหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด จากนั้นที่ประชุมเริ่มเข้าสู่การพิจารณารับทราบแต่ ส.ส.ฝ่ายค้านได้เดินออกจากห้องประชุม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี