วันพุธ ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘อดีตแกนนำพธม.’ไล่เรียงประวัติศาสตร์ ‘นิรโทษกรรม’ก่อน‘ปรองดอง’สังคมไทยได้อะไร

‘อดีตแกนนำพธม.’ไล่เรียงประวัติศาสตร์ ‘นิรโทษกรรม’ก่อน‘ปรองดอง’สังคมไทยได้อะไร

วันศุกร์ ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 07.59 น.
Tag : นิรโทษกรรม ปรองดอง พธม. พันธมิตรฯ พิภพ ธงไชย
  •  

‘อดีตแกนนำพธม.’ไล่เรียงประวัติศาสตร์ ‘นิรโทษกรรม’ก่อน‘ปรองดอง’สังคมไทยได้อะไร

10 กรกฎาคม 2563 นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โพสต์ความเห็น เรื่อง “ปรองดอง-นิรโทษกรรม นิรโทษกรรม-ปรองดอง เพื่อลดความเกลียดชังของทุกฝ่าย” มีเนื้อหาดังนี้


ตอนนี้สังคมไทยกำลังถกเถียงกันว่า ระหว่างคำว่า "ปรองดอง" จะหมายถึง "นิรโทษกรรม" ด้วยหรือไม่ และคำว่า "ปรองดอง" หมายถึงอะไร มีขอบเขตแค่ไหน จะไปถึงไหน และมีเครื่องมืออะไรที่จะทำให้เกิดการปรองดองได้

และสังคมจะได้อะไรจากการปรองดอง และถ้าไม่มี "นิรโทษกรรม" จะทำให้เกิดการปรองดองไหม กับคำถามของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่เคยถามออกมาดังๆ ว่า "จะปรองดองกับใคร"

การนิรโทษกรรม เกิดขึ้นหลายครั้งในประวัติศาสตร์โลกและประวัติศาสตร์ชาติไทย การนิรโทษกรรมของไทยที่มีชื่อเสียงและถูกนำมาอ้างถึงเสมอก็คือ คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 สมัยนายกรัฐมนตรี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ที่ออกเมื่อ 23 เมษายน 2523

และที่เถียงกันว่า ถ้า "นิรโทษกรรม" ก่อน จะเกิดการ "ปรองดอง" ไหม และสังคมไทยจะได้อะไร ถ้าเปรียบเทียบกับคำสั่ง "66/2523"

วันนี้นักเคลื่อนไหวในสังคมไทย เอาคำว่า "นิรโทษกรรม" นำหน้าคำว่า "ปรองดอง" พรรคการเมืองขานรับคำว่า "นิรโทษกรรม" เพราะเริ่มรู้สึกว่าเรื่องนี้ควรจะเกิดได้แล้ว เพื่อ "ลดความเกลียดชังและความเคียดแค้น" ระหว่างประชาชนทั้งสองฝ่ายที่เริ่มมาจากหลังวิกฤตการเมือง 2548

การลดความเกลียดชังและความเคียดแค้น การเหยียดผิว ระหว่างสีผิวในระดับโลก ก็คือการตั้ง “คณะกรรมการแสวงหาความจริงเพื่อความสมานฉันท์ - Truth and Reconciliation Commission - TRC “ หรือ “แมนเดลาโมเดล” ของอาฟริกาใต้ โดยขอให้ สาธุคุณ เดสมอนด์ ตูตู มาเป็นประธาน จุดประสงค์ของงานนี้ของสาธุคุณตูตูคือ “ขจัดความเกลียดชังระหว่างผิวขาวกับผิวดำ” โดยที่คนผิวขาวนอกจากมีความเกลียดชังต่อคนผิวดำแล้ว คนผิวขาวยังมีอำนาจการปกครอง ออกกฎหมาย มีอำนาจตำรวจจัดการคนผิวดำมายาวนาน

เมื่อเกิดการสมานฉันท์แล้ว ก็เกิดประชาธิปไตยนำไปสู่การเลือกตั้งเข้าสู่อำนาจ ซึ่งคนผิวดำได้ประโยชน์เรื่องนี้ กลายเป็นชนชั้นปกครอง คนผิวขาวเป็นผู้ถูกปกครอง ทำให้ความเกลียดชังของมวลชนระหว่างสีผิวได้ลดลงไปจนเกือบไม่เป็นปัญหาระดับประเทศหรือระดับโลก

แต่ปัญหานั้นกลับไปผุดที่สหรัฐอเมริกาแทน ซึ่งฝั่งรากลึกของความเกลียดชังระหว่างสีผิวมานานนับร้อยปี และตัวประธานาธิบดี นายโดนัลด์ ทรัมป์ นั้น ก็จัดการ “ความขัดแย้งแบบเสริมความเกลียดชัง” ให้มากขึ้นอีก ท่ามกลางการระบาดอย่างรุนแรงของไวรัสโคโรนา 2019

กลับมาประเทศไทย ในสมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นั้น การออกคำสั่ง 66/2523 ไม่ใช่การปลดปล่อยสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยให้พ้นจากคดีความตามกฎหมาย แต่เป็นการปลดปล่อยอารมณ์ความรู้สึกของมวลชนทั้งฝ่ายรัฐบาลไทยที่นิยมระบอบทุนนิยม ที่อิงกับสหรัฐอเมริกา และปลดปล่อยมวลชนที่นิยมระบอบการปกครองคอมมิวนิสต์ ที่อิงกับจีนแผ่นดินใหญ่ และต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองหลัง 2475 ใหม่ จากประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญไปสู่การปกครองระบบพรรคเดียว คือพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย

ในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้น 3 ชุด ชุดหนึ่งคือ “คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองแห่งชาติ - คอป. โดยเชิญนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน และอีกสองชุด มี นายอานันท์ ปันยารชุน กับนายแพทย์ประเวศ วะสี เป็นประธาน

ชุดแรกนั้นตั้งใจเลียนแบบ คณะกรรมการ TRC ของแอฟริกาใต้ แต่ไม่ประสบความสำเร็จในการนำข้อเสนอนั้นมาตราเป็นกฎหมายบังคับใช้ได้ จากนั้นมาก็มีความพยายามมาทุกรัฐบาล จนถึงรัฐบาลชุดปัจจุบัน

มาวันนี้ ถ้ามีการประกาศนิรโทษกรรมเช่นเดียวกับคำสั่ง 66/2523 ประโยชน์ที่แกนนำทุกฝ่ายได้รับนั้นน้อยนิด ไม่กี่สิบคนหรือร่วมกับมวลชนนับร้อยคนเท่านั้น แต่มวลชนทั้ง 3 ฝ่าย ที่มีจำนวนมากมายมหาศาลกว่าครึ่งประเทศ ทั้งมวลชนฝ่าย พธม. มวลชนฝ่าย นปช. มวลชนฝ่าย กปปส. ต่างหากที่จะลดความเกลียดชังลงไปได้

เพราะทุกครั้งที่มีการตัดสินคดีความในศาล มวลชนทั้ง 3 ฝ่ายต่างแสดงความเกลียดชังและความเคียดแค้นออกมาในโลกของสังคมออนไลน์ โดยมีการกระตุ้นความเกลียดชังจากปัญญาชนระดับชนชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ หรือศิลปินแห่งชาติ ด้วย

เหมือนกับประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อแกนนำทุกฝ่ายออกมารับผิด และขอโทษแล้ว จึงนำประเทศไปสู่การเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย การปกครองแบบปกติก็มาแทนที่ระบบการปกครองโดยชนกลุ่มน้อยที่เป็นฝรั่งผิวขาว ทำให้ความเกลียดชังและความเคียดแค้นในอดีตลดลงไปทันที

จริงอยู่ที่แอฟริกาใต้มีคนอย่างรัฐบุรุษ เนลสัน แมนเดลา มาทำงานในตำแหน่งประธานาธิบดี เพื่อสร้างความสามัคคีและความสมานฉันท์ โดยตั้งสาธุคุณ เดสมอนด์ ตูตู เป็นประธาน TRC.

เมืองไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข ที่ทรงมุ่งเป็นองค์พระประมุขของทุกฝ่าย เป็นสถาบันหลักของชาติ ที่ต้องการความรัก ความเคารพ จากประชาชนทุกฝ่าย เพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันของมวลชนทุกหมู่เหล่า ให้คงอยู่กับสังคมไทยตลอดกาลนาน

การนิรโทษกรรมแกนนำ จะนำไปสู่การลดความขัดแย้งและความเกลียดชังของมวลชนทุกฝ่ายได้ ความปรองดองก็จะเกิดตามมา และจะเป็นผลดีต่อสถาบันชาติ สถาบันศาสนา และสถานบันพระมหากษัตริย์ ชาติก็จะเดินต่อไปได้หลังเหตุการณ์ระบาดของไวรัส COVID – 19

ที่สำคัญ การปรองดองจะเป็นการปลดปล่อยพลังความเกลียดชังและความเคียดแค้นในอดีต มาสู่พลังสร้างสรรค์ในอนาคต เพื่อไปปฏิรูปประเทศ ที่นำไปสู่การลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำที่มีมากขึ้น...มากขึ้น จนมีความยากลำบากที่จะลดช่องว่างนี้ลงได้ในเร็ววัน ถ้าไม่ทำให้พลังทุกฝ่ายลดความเกลียดชังมาเป็น "พลังแห่งความรัก" และ "พลังแห่งความสมานฉันท์" ที่ทุกฝ่ายกลับมาทำงานร่วมกัน เช่นที่คำสั่ง 66/2523 ทำสำเร็จลุล่วงมาแล้ว

แต่ถ้าไม่มีนิรโทษกรรม แล้วที่จะนำไปสู่การปรองดอง ความเกลียดชังและความเคียดแค้นในอดีต จะคงดำรงอยู่ในหมู่ประชาชนระหว่างฝ่าย และความเกลียดชังนั้นอาจแปรผันไปสู่ความเกลียดชังต่อชนชั้นผู้ปกครอง ที่มีอำนาจในการออก พรบ.นิรโทษกรรม และสร้างความปรองดอง แล้วกลับไม่กล้าทำ

ทำให้อาจถูกตีความได้ว่า ชนชั้นปกครองไทย มีนโยบาย "แบ่งแยกแล้วปกครอง" บนความเกลียดชังและความความเคียดแค้นในอดีต

ซึ่งอาจนำไปสู่เงื่อนไขการเกิดความรุนแรงที่ในช่วงรอยต่อระยะการเปลี่ยนผ่านตามที่มาร์กซิสต์ชาวอิตาเลียน อันโตนิโอ กรัมซี่ กล่าวไว้

“ระบอบเก่าเสื่อมแต่ยังไม่สุด ส่วนระบบใหม่กำลังเกิด แต่ยังไม่เป็นตัวเป็นตน”

ปล. ความคิดนี้ พัฒนามาจากเวทีเสวนา"การผนึกทุกภาคส่วน ร่วมวางอนาคตประเทศไทย" จัดโดยคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา'35ณ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2563

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ​บุกถามจุดยืน ปชป.? \'คปท.-ศปปส.-กองทัพธรรม\'จี้ปม\'นิรโทษฯ-กาสิโน-พนันออนไลน์\' ​บุกถามจุดยืน ปชป.? 'คปท.-ศปปส.-กองทัพธรรม'จี้ปม'นิรโทษฯ-กาสิโน-พนันออนไลน์'
  • ‘วิปรัฐบาล’นัดถก 9โมง 9 เม.ย. เคาะแนวทางโหวต‘ร่างนิรโทษกรรม’ 4 ฉบับ ‘วิปรัฐบาล’นัดถก 9โมง 9 เม.ย. เคาะแนวทางโหวต‘ร่างนิรโทษกรรม’ 4 ฉบับ
  • ระวัง‘วงจรอุบาทว์3ป.’ อย่าดื้อดัน‘กาสิโน’ให้ประเทศบอบช้ำ ชี้บทเรียน‘นิรโทษสุดซอย’มีแล้ว ระวัง‘วงจรอุบาทว์3ป.’ อย่าดื้อดัน‘กาสิโน’ให้ประเทศบอบช้ำ ชี้บทเรียน‘นิรโทษสุดซอย’มีแล้ว
  • รทสช.ย้ำชัด คัดค้านร่างนิรโทษกรรมล้างผิด ม.112-คดีโกง รทสช.ย้ำชัด คัดค้านร่างนิรโทษกรรมล้างผิด ม.112-คดีโกง
  • หนุนร่าง‘รทสช.’ ​‘วิสุทธิ์’ยัน‘เพื่อไทย’ไม่เสนอ‘กม.นิรโทษฯ’ประกบ หนุนร่าง‘รทสช.’ ​‘วิสุทธิ์’ยัน‘เพื่อไทย’ไม่เสนอ‘กม.นิรโทษฯ’ประกบ
  • ‘สส.ปชน.’แย้มซักฟอกถล่มรัฐบาลปม‘112’ เด้งรับ‘กลุ่มนิรโทษกรรมฯ’ร้องขอ‘เท้ง’ ‘สส.ปชน.’แย้มซักฟอกถล่มรัฐบาลปม‘112’ เด้งรับ‘กลุ่มนิรโทษกรรมฯ’ร้องขอ‘เท้ง’
  •  

Breaking News

'โรม'ไม่ชัวร์! ร่วมม็อบ28มิ.ย. ข้องใจ'ภท.'เร่งเปิดซักฟอกรัฐบาล ทำยืดเยื้อยุบสภาฯ ไม่ได้

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันพุธ 25 มิถุนายน 2568

'เที่ยวไทยคนละครึ่ง'วุ่น! เว็บล่ม 'ททท.'เลื่อนเปิดระบบให้ประชาชน ลงทะเบียน1ก.ค.นี้

ทุบเปรี้ยง! ‘หมอเดชา’เชื่อมี 2 เหตุผล เร่งรีบนำ‘กัญชา’กลับไปเป็นยาเสพติด

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved