เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2563 เวลา 09.40 น. ที่โรงแรมแกรนด์วิวรีสอร์ท เกาะเสม็ด จ.ระยอง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมสัมมนารัฐมนตรีของพรรค ว่า งานในวันนี้ได้เตรียมการมานานแล้ว แต่เนื่องจากติดสถานการณ์โควิด ส.ส.ต้องทำงานหนักและต้องลงพื้นที่จึงไม่มีโอกาสได้พบกับอย่างพร้อมหน้า จึงถือโอกาสนี้เป็นการพูดคุยกันแบบสบายๆ และถือมาชาร์จแบตร่วมกันด้วย โดยในวันนี้จะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของสมาชิกในเรื่องทิศทางการนำพาพรรคไปข้างหน้า และจะทำอย่างไรให้ประชาธิปัตย์เข้าไปนั่งในหัวใจของประชาชนได้อีกครั้งหนึ่ง
นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับการปรับคณะรัฐมนตรี ขึ้นอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ซึ่งจนถึงขณะนี้นายกฯยังไม่ส่งสัญญาณได้มาหาตน
เมื่อถามถึงความขัดแย้งภายในพรรค นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นเพียงกระแสข่าวแต่ข้อเท็จจริงไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างยังทำงานร่วมกันได้
ถามถึงการประชุมใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 19 ก.ค. พรรคจะมีการประเมินผลงานรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การประชุมใหญ่จะเป็นไปตามระเบียบวาระการประชุมที่กำหนดไว้ แต่ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐมนตรีพรรคเราก็ได้มีการติดตามรวมทั้งส.ส.และสมาชิกด้วย แม้แต่รัฐมนตรีเองก็ต้องประเมินผลงานตัวเองเหมือนกันว่าที่ผ่านมาสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้สำเร็จลุล่วงอย่างไร เพราะต้องยอมรับว่า การทำหน้าที่ของรัฐมนตรีมีผลต่อภาพรวมของพรรค หากรัฐมนตรีทำงานดีมีผลงานก็ส่งผลไปถึงพรรคเป็นที่ยอมรับของประชาชน
อย่างไรก็ตามสำหรับข้อถามที่ว่า พรรคจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลไปเป็นรัฐมนตรีนั้น ขอไม่ตอบ เพราะไม่อยู่ในฐานะที่ตอบได้เพราะประชาธิปัตย์ที่กฎเกณฑ์ที่ชัดเจน โดยจะต้องเป็นความเห็นจากที่ประชุมส.ส.และคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห)ร่วมกัน
เมื่อถามว่า เชื่อมั่นหรือไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยังคงได้จำนวนเก้าอี้รัฐมนตรีเท่าเดิม นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอไม่ตอบ เพราะเรื่องนี้ขึ้นอยู่นายกรัฐมนตรี ถ้านายกฯจะมีความคิดเห็นที่นอกเหนือไปจากที่เคยพูดคุยกันไว้ตอนร่วมรัฐบาลท่านก็จะแจ้งให้ทราบ ถ้าแจ้งให้พรรคทราบแล้วพรรคจะได้มีการประชุมและแจ้งกลับไปยังนายกฯว่าประชาธิปัตย์มีความเห็นเป็นอย่างไร
เมื่อถามย้ำว่า หากพรรคประชาธิปัตย์โดนยึดเก้าอี้กระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง ระหว่างกระทรวงพาณิชย์หรือกระทรวงเกษตรฯจะไม่มีพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องผ่านท่านนายกฯ พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลแต่ก่อนก็มาเชิญพรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาล โดยมีการเจราจาเงื่อนไขข้อตกลงที่ชัดเจนแล้ว ซึ่งเป็นที่ยอมรับและแถลงนโยบายต่อรัฐสภาผูกพันกับคนทั้งประเทศแล้ว ฉะนั้นถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องแจ้งให้ประชาธิปัตย์ทราบและเราก็จะกลับไปพิจารณา ทั้งนี้จำนวนส.ส.ของแต่ละพรรคร่วมรัฐบาลที่เปลี่ยนแปลงไปจะมีผลในการเพิ่มหรือลดเก้าอี้รัฐมนตรีของแต่ละพรรคหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับนายกฯ และแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี