เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานในช่วงเช้าก่อนที่นายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรมว.พลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรองเลขาธิการนายกฯ จะเดินทางมายื่นหนังสือลาออกกับนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกฯ มีรายงานว่าทั้ง 4 คน ได้เดินทางไปโรงแรมหรรษา เพื่อนัดพูดคุยหารือกันถึงลำดับขั้นตอนต่างๆ รวมถึงกำหนดตัวบุคคลและประเด็นที่จะให้สัมภาษณ์
จากนั้นเวลา 10.00 น.ทั้ง 4 คน เดินทางถึงทำเนียบรัฐบาลโดยลงรถหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนจะเดินขึ้นตึกพร้อมๆกันและให้ช่างภาพถ่ายภาพ ซึ่งทั้งหมดมีสีหน้าแจ่มใส อย่างไรก็ตาม เมื่อยื่นหนังสือลาออกแล้ว ทั้ง 4 คนได้ขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้าบนตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อสักการะพระพรหมที่อยู่ประจำตึกไทยคู่ฟ้า และเดินลงมาสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่และศาลตายายสิ่งศักดิ์ประจำทำเนียบฯเพื่ออำลาตำแหน่ง
“อุตตม”เผยไขก๊อกช่วยลดกดดันนายกฯ
ต่อมาเวลา 10.38น.ทั้ง 4 คนได้ร่วมกันแถลงข่าวที่ห้องโถงตึกบัญชาการ โดยนายอุตตม กล่าวว่าวันนี้พวกตนทั้ง 4 คน ได้นำหนังสือลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละคนมายื่นต่อนายกฯ ผ่านนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีผลตั้งแต่วันนี้( 16 ก.ค.) เป็นต้นไป พร้อมกันนี้นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ได้รับมอบหมายจาก นายสมคิด ให้นำหนังสือลาออกของนายสมคิด มายื่นลาออกพร้อมกันด้วย ซึ่งจากนี้ถือว่าโล่งไปในระดับหนึ่ง
“การลาออกครั้งนี้พวกเราเห็นพ้องกันว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม มองแล้วเหตุการณ์ที่เราเห็นกันอยู่เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้ ความคลุมเครือก็จะหายไปด้วย เราจะได้มีส่วนช่วยลดความกดดันทางการเมืองที่อาจมีต่อนายกฯในช่วงเวลานี้ อาจส่งผลให้เกิดความชะงักในการบริหารงาน เราคิดร่วมกันแล้วจึงลาออกในช่วงนี้เพื่อให้เกิดความชัดเจน เช่น ในเรื่องการปรับครม.”
ยันขอพักก่อนยังไม่คิดอนาคตการเมือง
เมื่อถามว่าการลาออก เพราะได้รับแรงกดดันทางการเมืองหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า เราคิดของเราเอง ไม่ได้ถูกกดดัน ส่วนการลาออกเข้าใจว่าขณะนี้นายกฯทราบเรื่องแล้ว เพราะประสานนายดิสทัตมาก่อน ถือว่าจากกันด้วยดี และนายสมคิดไม่ได้เล่าอะไรเกี่ยวกับการพูดคุยกับนายกฯให้ฟัง ช่วงนี้พวกเราต้องช่วยกันประคับประคองสถานการณ์บ้านเมือง ส่วนอนาคตนั้น อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองต่อสังคม เราสามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้ ไม่ปิดกั้นการร่วมมือ
เมื่อถามว่า มีการทาบทามหรือตั้งกลุ่มการเมืองใหม่หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่าส่วนตัวไม่มี และเชื่อว่าทุกคนยังไม่ได้เดินในเรื่องนี้ เมื่อถามว่าการลาออกเพราะนายสมคิด ขอให้ลาออกพร้อมกันหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ไม่ใช่ เราหารือและคิดกันเอง นายสมคิด ก็เห็นพ้องด้วย แต่ในส่วนของนายสมคิดนั้นสื่อมวลชนคงทราบมาบ้างแล้วว่าเรื่องสุขภาพเป็นเหตุผลหนึ่ง หากได้พักผ่อนพื้นฟูสุขภาพก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี รวมถึงพวกตนจะถือโอกาสพักผ่อนด้วย
ขอบคุณนายกฯให้โอกาสทำงานให้ชาติ
เมื่อถามว่า การเข้าสู่การเมืองครั้งนี้มีอะไรได้มา หรือเสียไปอย่างไรบ้าง นายอุตตม กล่าวว่า ในนามของพวกตน ขอขอบคุณนายกฯ ที่ให้ความไว้วางใจให้โอกาสมาทำงานให้บ้านเมืองมาระยะหนึ่ง ผ่านเหตุการณ์ต่างๆมาพอประมาณ ตนขอขอบคุณที่ไว้วางใจให้พวกเรามาทำงานให้ชาติบ้านเมืองและทำงานให้นายกฯ สำหรับตนนี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่พวกเราได้มาในครั้งนี้ เมื่อถามว่าจะพูดได้หรือไม่ว่ายังไม่เข็ดการเมือง นายอุตตม กล่าวว่า “เอาเป็นว่าวันนี้ยังไม่ได้คิดจริงๆ เอาที่ละขั้นตอน ขอคิดนิดนึง เราคนไทยมีหน้าที่กันทุกคน ในการประคับประคองให้ประเทศเดินหน้าไปได้ในภาวะเช่นนี้ เรามีเหตุผลในการลาออกของเราที่เชื่อว่าเป็นประโยชน์กับการบริหาร ทำให้บ้านเมืองผ่านพ้นวิกฤต ส่วนใครจะมารับหน้าที่ต่อนั้น เราไม่ทราบ แต่เชื่อว่านายกฯมีความสามารถ คงหาคนมีความสามารถมาร่วมทีมได้
ส่วนตำแหน่งในกมธ.งบประมาณรายจ่ายปี 2564 นั้น นายอุตตม กล่าวว่า คงหลุดไปโดยปริยาย เมื่อถามว่าเสียดายหรือไม่ที่ต้องลาออกขณะที่ยังมีงานค้างอยู่ นายอุตตม กล่าวว่า พวกตนไม่ยึดติดตำแหน่งและไม่เสียดาย เราได้รับโอกาสมาทำงานก็ทำงาน เมื่อไม่มีตำแหน่งก็สามารถทำงานเป็นประโยชน์ได้ เมื่อถามว่า คิดว่าเจ็บตัวหรือไม่ในการเข้าการเมืองครั้งนี้ นายอุตตม กล่าวว่า ไม่เจ็บตัว เพราะไม่ว่าจะใส่หมวกใบไหนก็ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติได้
“สนธิรัตน์” ย้ำ ยังไม่คิดตั้งพรรคการเมือง
ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวถึงอนาคตทางการเมืองของกลุ่ม 4 กุมารว่า กลุ่ม 4 กุมาร ยังไม่คิดเรื่องการเมือง วันนี้ได้มีโอกาสเดินทางการเมืองมาถึงจุดนี้ ตั้งแต่ตั้งพรรค นำพรรคร่วมเลือกตั้ง ตั้งรัฐบาล มาจนถึงวันนี้ ยืนยันว่ายังไม่ได้คิดในเรื่องการตั้งพรรคการเมือง แต่พวกเราพร้อมที่จะช่วยกันคิดเพื่อบ้านเมือง เพื่อสังคม เราไม่ได้ทอดทิ้ง หากมีอะไรที่เราสามารถจะทำประโยชน์ได้ก็ยินดี แต่ในบทบาทการเมืองเราขอพักไว้ก่อน
“สิ่งที่เราเป็นห่วงที่สุดของการตัดสินใจครั้งนี้ ก็คือ สถานการณ์บ้านเมือง เป็นสถานการณ์ที่ต้องการพลังในการทำงาน เราไม่อยากเห็นการเมืองเป็นอุปสรรคต่อการที่จะขับเคลื่อนบ้านเมือง เพราะเราต้องการให้บ้านเมืองมีการปรับ หรือมีกลไกในการบริหารบ้านเมืองที่ไม่ต้องคลุมเครืออีกต่อไป เรายินดีที่จะมีส่วนในการปรับเปลี่ยน หรือการจะทำให้เกิดโอกาสในการทำให้บ้านเมืองมีพลังของทุกภาคส่วนอย่างเต็มที่ ทั้งหมดถือเป็นที่มาของการที่เราตัดสินใจยื่นใบลาออกในวันนี้”
เมื่อถามว่า ที่บอกว่าวันนี้ขอพักเรื่องการเมือง แสดงว่าในอนาคตก็ยังมีโอกาสเข้ามาสู่การเมืองใช่หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า วันนี้ยังไม่คิด ขอคิดไปพักผ่อนก่อน
บอก ได้เรียนรู้และเข้าใจการเมืองระดับหนึ่ง
เมื่อถามว่า จากที่ทำงานมา ทั้ง 4 คนได้รู้จักคำว่าการเมืองและนักการเมือง มากขึ้นหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ขอย้ำว่า การเมืองก็เป็นสิ่งที่เป็นหน้าที่ของทุกคน เราเข้ามาทำหน้าที่ทางการเมืองในช่วงเวลาระยะหนึ่ง การเมืองก็ต้องเดินหน้าต่อไป และเป็นที่สนใจของประชาชน ประเทศต้องพัฒนาไปทุกด้าน ด้านการเมืองก็เป็นอีกด้านหนึ่งที่ประเทศต้องพัฒนาไป ดังนั้นสิ่งที่เราอยากเห็นก็คือการเกิดการเมืองในเชิงพัฒนาการทางการเมืองให้สอดรับสภาวะของโลก และประเทศ
“เราคงได้รับบทเรียนจากการเข้ามา บทเรียนนั้นแปลว่าเมื่อเข้ามาแล้ว เราก็ได้เรียนรู้ ได้เข้าใจ ในทางการเมืองระดับหนึ่ง และเราก็เป็นกำลังใจในการพัฒนาทางการเมือง การเดินทางในทางการเมืองของเรานั้น ต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่ได้ติดตามพวกเรามาตลอด และรู้ว่าเราต้องการทำการเมืองดีๆ เราอยากทำการเมืองที่เป็นอนาคต เพราะฉะนั้นการเข้าสู่การเมืองครั้งนี้ ก็อยากให้เป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจกับคนดีๆ ที่อยากเข้ามาช่วยบ้านเมือง ได้มีโอกาสเหมือนเช่นพวกเรา ส่วนบทเรียนที่ได้นี้ คุ้มค่าหรือไม่ นั้น ผมคิดว่าทุกครั้งที่ทำงานเราได้เรียนรู้ทั้งสิ้น และถือเป็นบทเรียนของชีวิตที่ดีทั้งนั้น ไม่ว่าในแง่มุมใดก็ตาม
ย้ำยังไม่มีอนาคตทางการเมือง
เมื่อถามว่า ที่บอกว่า พยายามตั้งใจทำการเมืองให้มีการพัฒนา แต่ต้องลาออกไปก่อน แสดงว่า ความพยายามที่ผ่านมา ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการเมืองในรูปแบบเดิมได้ใช่หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า คงพูดอย่างนั้นไม่ได้ มันคงเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการทางการเมือง การเมืองในทัศนะของตน ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ใดก็ตามก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการทางการเมืองทั้งสิ้น อยู่ที่คนที่เกี่ยวข้องจะเรียนรู้ และปรับใช้มันอย่างไร
เมื่อถามว่า อนาคตทางการเมืองของทั้ง 4 คน จากนี้ไปจะต้องมีที่ปรึกษาทางใจหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ยังไม่มีอนาคตเลย
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการให้สัมภาษณ์นายสนธิรัตน์ ได้แจกหนังสือ “เปิดมิติพลังงาน เพื่อคนไทยทุกคน ENERGY FOR ALL” แก่สื่อมวลชนที่มาทำข่าวด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี