‘ทิพานัน’การันตี‘บิ๊กตู่’นำทัพฟื้นศก.ได้แน่ เตือน‘ทอน’ลืมคำพูดตัวเองหรือยัง
19 กรกฎาคม 2563 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี และอดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ชุมชนบุญอยู่ เขตจอมทอง เพื่อรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตามนโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน พบว่า ส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลผลักดันนโยบายการฝึกอาชีพเพื่อรองรับตลาดแรงงานในยุควิถีใหม่ หรือ New Normal สำหรับเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้หรือรองรับการว่างงาน ขณะเดียวกันขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาการว่างงานจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ด้วย ซึ่งตนได้รับเรื่องไว้นำรายงานต่อพรรคพลังประชารัฐเพื่อให้ผู้บริหารพรรคดำเนินการประสานงานกับฝ่ายรัฐบาลต่อไป
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า จากการลงพื้นยังพบว่า พี่น้องประชาชนสนใจสอบถามเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ซึ่งตนได้ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะสรรหาผู้ที่มีความเหมาะสมที่สุดทั้งด้านความรู้ ประสบการณ์ และความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อที่จะมาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้งเพื่อให้ทุกคนอยู่ดีกินดี และแม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงสรรหาพิจารณาบุคคลดังกล่าว แต่งานผลักดันด้านเศรษฐกิจก็ไม่ได้ชะงักเพราะทุกโครงการดำเนินไปตามแผนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ที่สำคัญยังจะมีศูนย์ฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาที่จะมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งประชาชนก็เชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์จะบริหารจัดการศูนย์ฯ เพื่อเอาชนะปัญหาเศรษฐกิจได้ เหมือนที่เคยนำ ศบค. เอาชนะโควิด-19 จนประเทศไทยปราศจากผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศนานถึง 54 วันแล้ว
น.ส.ทิพานัน ยังกล่าวถึงกรณีกลุ่มเยาวชนชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า โดยส่วนตัวยังเชื่อว่าเจตนาการออกมาแสดงพลังของเยาวชนก็คงอยากเห็นบ้านเมืองพัฒนาขึ้น แต่การแสดงออกต้องอยู่ในกรอบกฎหมายและใช้ข้อเท็จจริงในการสื่อสาร อย่าหลงเชื่อหรือให้ใครอยู่เบื้องหลังยุงยงปลุกปั่นได้ ทั้งนี้เห็นว่าข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อนั้นยังไม่มีความจำเป็นและไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะการแก้ไขปัญหาโควิด-19 และเศรษฐกิจกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี หากมีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ก็ยิ่งจะแย่ลงไป กลายเป็นซ้ำเติมปัญหาปากท้องประชาชนไปอีก
สำหรับข้อเรียกร้องที่ 2 นั้น ตั้งแต่มีการเลือกตั้งและมีรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยคุกคามประชาชน พร้อมสนับสนุนให้มีการใช้เสรีภาพที่อยู่ในขอบเขต โดยที่ไม่ไปกระทบสิทธิของผู้อื่น “ไม่มีการใช้กฎหมายความมั่นคงปิดปากประชาชน” มิฉะนั้นคงไม่มีการชูป้ายประท้วงและการชุมนุมหลายๆครั้งเกิดขึ้นได้
สำหรับข้อเรียกร้องที่ 3 ให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่นั้น ขณะนี้ก็อยู่ในกระบวนการของ กมธ.วิสามัญพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 กำลังมีการจัดเวทีรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน รวมทั้งมี ส.ส. ทุกพรรคนั่งใน กมธ. ชุดนี้ จึงควรนำเสนอความเห็น ข้อเรียกร้องพร้อมเหตุผลผ่านช่องทางของ กมธ.
สำหรับกรณีที่นายธนาธร กล่าวสนับสนุนและเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมการชุมนุมนั้น ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ตอกย้ำถึง “ความกลับไปกลับมา” มีเพียง “คำพูดสวยหรูแต่ไร้หลักการ” เพราะในอดีตนายธนาธรเคยพูดไว้บนเวทีดีเบตลุยศึกเลือกตั้ง 2562 ประชันวิสัยทัศน์แคนดิเดตนายกฯ ณ ลานโพธิ์ ม.ธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 ว่า “ไม่สนับสนุนการลงถนน ให้สู้โดยกลไกสภา” พูดย้ำหลายครั้งว่า “รัฏฐาธิปัตย์ยังอยู่ที่สภาๆๆ” ซึ่งวันนั้นตนก็ชื่นชมที่ยึดหลักแกนของประชาธิปไตย แต่ทำไมมาวันนี้กลับลืมคำพูดตัวเอง ทำตรงกันข้ามกับที่พูดอย่างสิ้นเชิง คำถามนี้ขอให้นายธนาธรตอบและพร้อมที่จะส่งคลิปวีดีโอคำพูดดังกล่าวให้ฟังในกรณีที่นายธนาธรจำที่พูดไว้ไม่ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี