"ชัยชนะ"ฝากรัฐบาล อย่าเป็นผู้สูงอายุหูหนัก โปรดรับฟังเสียงนักศึกษา ตั้งกมธ.วิสามัญ ให้เป็นคนกลางเปิดโต๊ะเจรจาแก้ปัญหาความไม่เป็นธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2563 นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายสนับสนุนญัตติ ของ ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้ง กมธ.วิสามัญ เพื่อพิจารณาเปิดพื้นที่รับฟังความคิดเห็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา และสามารถมีส่วนร่วมโดยตรงกับสภาผู้แทนราษฎร ในการแก้ปัญหาความไม่เป็นธรรมในสังคม ว่า อาทิตย์ที่ผ่านมาจากการที่ นิสิต นักศึกษา ออกมาเรียกร้องรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ใน 3 เรื่อง คือ ยุบสภา หยุดคุกคาม และแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ตนเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องทั้ง 3 เรื่องนี้ แต่การเห็นด้วยดังกล่าวจำเป็นต้องมีวิธีการ และเงื่อนเวลาในการปฏิบัติด้วย
โดย นายชัยชนะ เห็นว่า ทางออกในเรื่องการยุบสภา ยังไม่ใช่ทางออก แต่ปัญหาที่แท้จริงในการเมืองวันนี้ มาจากปัญหารัฐธรรมนูญปี 60 ซึ่งต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญปี 60 เป็นรัฐธรรมนูญครึ่งใบ เพราะมีระบบรัฐสภามาจากการเลือกตั้ง 1 ระบบ และอีก 1 ระบบมาจากการแต่งตั้ง สรรหาพิจารณาจากคณะกรรมการเพียงไม่กี่คน ดังนั้น แก่นแท้ของปัญหามาจากรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้สะท้อนผ่านการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาในปี 2562 ที่ไม่สามารถหยุดการทุจริตการเลือกตั้งได้เลย เกิดปัญหาการซื้อเสียงจำนวนมาก เมื่อได้ร้องเรียนปัญหากลับได้รับการพิจารณาเพียงไม่กี่เรื่อง
"ทางออกแรก เราต้องตั้ง สสร. สมาชิกร่างรัฐธรรมนูญขึ้น เพื่อร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ แก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยสภาฯ มี กมธ.ศึกษาแนวทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว กมธ.วิสามัญก็บอกว่าให้แก้ไขมาตรา 256 ก่อน เพื่อเป็นการเปิดประตูแก้ไขมาตราอื่น การเคลื่อนไหวของน้องนิสิต นักศึกษาทุกวันนี้ เป็นการเคลื่อนไหวที่คล้ายกันกับการเคลื่อนไหวสมัย ต.ค.16 และ 19 แต่การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีอานุภาพมากกว่า เพราะมีการเคลื่อนไหวในท้องถนน มีการเคลื่อนไหวในมหาวิทยาลับ มีการเคลื่อนไหวในโรงเรียน และมีการเคลื่อนไหวทางโซเชียลอย่างเป็นระบบ ผมบอกรัฐบาลได้เลยว่าอย่าประมาท และมองข้ามเสียงเรียกร้องของนิสิต นักศึกษา เพราะนั่นคือปัญหาข้อเท็จจริงของประเทศในการเดินไปข้างหน้า"
นายชัยชนะ กล่าวว่า ประเทศไทยมีบทเรียนมาแล้วหลายครั้งว่าเมื่อไหร่ที่เรามีรัฐบาลและคิดจะสืบทอดอำนาจ ประเทศจะจบด้วยการลงถนนทุกรอบ วันนี้ประเทศได้เดินมาบนระบบประชาธิปไตยมาไกลมากแล้ว ดังนั้นการที่จะให้ประเทศเดินหน้าไปได้ และเมื่อได้ทราบปัญหาว่าเกิดจากเรื่องใด ปัญหามาจากไหน สภาต้องเป็นตัวกลางในการพูดคุยระหว่างนิสิต นักศึกษากับรัฐบาล ซึ่งการตั้ง กมธ.วิสามัญขึ้น จะเป็นอีกเวทีที่จะสามารถให้นิสิต นักศึกษาได้มาพูดคุยผ่านสภาไปถึงรัฐบาลได้
"ผมไม่ขัดข้องที่น้องๆ จะลงถนน แต่เวทีหนึ่งที่เราเป็นตัวกลางได้ก็คือการตั้ง กมธ.วิสามัญ ผมไม่อยากเห็นเหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ ผมอยากเห็นบ้านเมืองเราสงบ ผมอยากเห็นการเปิดโต๊ะเจรจาคุยกัน และหาทางออกให้กับประเทศชาติ ผมมีสิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากถึงรัฐบาลว่า รัฐบาลอย่าทำตัวเป็นผู้สูงอายุที่หูหนัก โปรดรับฟังเสียงน้องๆ นิสิต นักศึกษาด้วย" นายชัยชนะ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี