"อาชีวะช่วยชาติ"รวมตัวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แถลงจุดยืนปกป้องสถาบันหลักชาติ ลั่นจะเดินหน้าให้ข้อมูลที่ถูกต้อง-กระชากหน้ากากผู้อยู่เบื้องหลังนศ. ยันไร้เกี่ยวการเมือง-ไม่มีรับเงินใคร
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 13.30 น.ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน กทม. กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ พร้อมด้วยเครือข่าย และประชาชน ประมาณ 400 - 500คน ได้นัดรวมตัวทำกิจกรรมเพื่อแสดงจุดยืนปกป้องสถาบันหลักของชาติ ได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหกษัตริย์ โดยภายในกิจกรรมได้มีการร้องเพลงปลุกใจ เปล่งเสียง ทรงพระเจริญ พร้อมชูป้ายพระบรมฉายาลักษณ์ และชูป้ายที่มีข้อความ อาทิ หยุดก้าวล่วง หยุดคุกคามสถาบัน เป็นต้น
นอกจากนี้ ทางกลุ่มเครือข่าย ได้ร่วมกันแสดงสัญลักษณ์ด้วยการชูสามนิ้ว ประกอบด้วยนิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลาง เพื่อเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าตำรวจจาก สน.ชนะสงคราม และ สน.ใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการอารักขา และควบคุมฝูงชน (อคฝ.) รวมถึงเจ้าหน้าที่เทศกิจ กทม.และมีสื่อมวลชนร่วมติดตามทำข่าวเป็นจำนวนมาก
ด้าน พ.ต.ท.ปิติพันธ์ กฤษดากร ณ อยุธยา รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สน.ชนะสงคราม ในฐานะดูแลพื้นที่รับผิดชอบของ สน.ชนะสงคราม ได้เป็นตัวแทนเข้าขี้แจงกับทางกลุ่มเครือข่ายที่มาจัดกิจกรรม ถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่รัฐบาลกำหนด และการดูแลควบคุมของเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยขอความร่วมมือให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเว้นระยะห่าง และสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงคำนึงถึงสิทธิบนทางเท้าในระหว่างจัดกิจกรรม นอกจากนี้ ยังให้ระมัดระวังการใช้เครื่องขยายเสียงให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
ต่อมาในเวลา 14.00 น.ทางกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ นำโดย นายทศพล มนูญญรัตน์ ตัวแทนกลุ่ม ได้เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ เพื่อประชาธิปไตยด้วยใจที่จงรักภักดี โดยกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ โดยมีเนื้อหาระบุว่า จากการที่กลุ่มยาวชนปลดแอก และสหภาพนักรียน นิสิตนักศึกษาแห่งประทศไทย หรือ สนท.ได้จัดกิจกรรมทางการมืองขึ้น ตั้งแต่วันที่ 18 กรกรฎาคม 25563 นั้น ต่อมาได้มีการจัดกิจกรรในลักษณะเดียวกันโดยกลุ่ม นักเรียน นักศึษา และมวลชน ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
กิจกรรมดังกล่าวแม้จะยื่นข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ยุบสภา และแก้ไขรัฐรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย แต่ปรากฎหลักฐานและข้อเท็จจริงว่า มีการแสดงออกเพื่อต้องการท้าทาย ต่อต้าน หรือล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยทางตรงและทางอ้อม ทั้งยังมีการนำข้อมูลอันเป็นเท็จ เพื่อปลุกระดมให้เกิดความเข้าใจผิดต่อ
สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้อง กับข้อเรียกร้องและจุดประสงค์ของการรุมนุมเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาลแต่อย่างใด อีกทั้งเป็นการกระทำที่สุ่มเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความรุนแรงขึ้นในสังคมไทย
แต่กระนั้นทางแกนนำการชุมนุมกลับบ่ายเบี่ยง และปฏิเสธ โดยยืนกรานเหมือนไม่รู้ไม่เห็นกับหลักฐานและข้อเท็จจริงดังกล่าว
ซึ่งการกระทำที่ท้าทายและต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังกล่าวนี้ ได้สร้างความสับสน และความเป็นกังวลให้กับประชาชนทั่วไปในวงกว้าง ว่าจะส่งผลกระทบต่อการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งประชาชนทั่วประเทศได้ให้ความร่วมมือร่วมใจ จนแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนเป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก
ทางกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ ซึ่งมีความจงรักภักดี และเห็นว่า ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อันเป็นหมุดหมายที่สำคัญของระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข จึงขอแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้น ทางกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ มิได้ต่อต้านการชุมนุมทางการเมือง ด้วยเจตนาเพื่อรักษาประชาธิปไตย แต่น้องตระหนักถึงการกระทำที่ไม่ก้าวล่วงไปในขอบเขตที่ที่อาจนำพาสังคมไทยเสี่ยงต่อการเผชิญหน้ากันด้วยความรุนแรง
ทั้งนี้ ทางกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ จะเคลื่อนไหวโดยดำเนินกิจกรรมให้ข้อมูล และข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และเจตนาที่แท้จริงของผู้ที่อยู่เบื้องหลังการใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือในการต่อต้าน ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อประชาธิปไตยด้วยใจที่จงรักภักดี
นายทศพล กล่าวยืนยันด้วยว่า เรื่องนี้ไม่มีการเมือง ตนมาคนเดียว ไม่ได้รับเงินใคร มาเพื่อปกป้องสถาบันหลัก
จากนั้นทางกลุ่มได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีจนจบ และตะโกน "ทรงพระเจริญ" ก่อนจบกิจกรรม และทยอยกันแยกย้าย โดยไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายใดๆเกิดขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี