"เลขาฯสมช."ถก"ผู้ตรวจการแผ่นดิน" ยันจำเป็นต้องคง"พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" เพื่อมีอำนาจสั่งกักตัว14วัน แยกคนติดเชื้อโควิด-19 ด้าน"วิทวัส"ขอปชช.เข้าใจกักตัวเป็นมาตรการคัดกรองสำคัญ ไม่ติดใจเรื่องแขกVIPหลังกต.แจงทูตแล้ว แนะรัฐช่วยผู้ประกอบการลดค่าใช้จ่ายในการกักตัวแรงงานต่างด้าว
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563 ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธานประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีแขกวีไอพีของรัฐบาลเดินทางเข้าประเทศโดยไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีตัวแทนหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วม อาทิ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
หลังการประชุม พล.อ.วิทวัส แถลงว่าการประชุมดังกล่าวเป็นไปเพื่อที่จะส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยรัฐหลังปรากฏกระแสข่าวแขกวีไอพีของรัฐบาลทั้งเจ้าหน้าที่ทหารอียิปต์ ครอบครัวนักการทูตซูดาน เดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จนทำให้ประชาชนมองว่า ศบค.การ์ดตกเสียเอง ทั้งนี้ จากการหารือทางเลขา สมช.ได้ชี้แจงถึงการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ในระยะต่อไปให้กับ 5 กลุ่ม คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพจาก 5 ประเทศ ที่มีอัตราการติดเชื้อต่ำ ทีมงานถ่ายทำภาพยนตร์จากต่างประเทศ แรงงานต่างด้าว การสัมมนาระดับนานาชาติ และผู้ถืออีลิคการ์ด ซึ่งเป็นการดำเนินการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยผู้ที่เข้ามาจะต้องทำข้อตกลงพิเศษเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด
แต่ทั้งนี้ ที่ประชุมมีความกังวลเป็นกรณีของแรงงานต่างด้าว ซึ่งรัฐบาลควรมีมาตรการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการในกรณีที่ต้องกักตัวแรงงานต่างด้าวที่จะกลับมาทำงานในประเทศ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายกักตัว 14 วัน สูงมากนั้น ทาง ศบค.แจ้งว่าเรื่องดังกล่าวได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย สาธารณสุข และกระทรวงแรงงานไปหารือร่วมกันโดยเบื้องต้นมีการกำหนดสถานที่กักตัวหลายแห่งเพื่อรองรับแรงงานต่างด้าว รวมทั้งยืนยันว่าระบบติดตามตัวหรือแอพพลิเคชั่นไทยชนะ ยังมีความจำเป็นแต่ปัญหาคือการบังคับใช้
พล.อ.วิทวัส ยังกล่าวว่า ในกรณีของคนไทยที่อยู่ต่างประเทศและต้องการจะเดินทางกลับมาอยู่กับครอบครัวนั้น ที่ประชุมได้รับทราบว่าเรื่องการตรวจคัดกรองก่อนเดินทางไม่มีปัญหาและเครื่องบินไม่มีปัญหาที่จะไปรับ แต่มีปัญหาที่คนไทยลงทะเบียนไว้แล้วยกเลิกการเดินทางกลับจำนวนมาก ทั้งนี้ ตั้งข้อสังเกตการยกเลิกของกลุ่มคนไทยดังกล่าวอาจเข้าใจผิดว่าประเทศไทยยกเลิกการกักตัว และยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว แต่เมื่อทราบว่าไม่ใช่จึงยกเลิกการเดินทางกลับ ซึ่งตนก็ได้ย้ำว่าไม่ว่าจะมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่ เรื่องการกักตัว 14 วัน ยังจำเป็น เพราะการกักตัวถือว่ามีคุณภาพสูงสุดในการเฝ้าระวังคัดกรองโรคโควิด-19 ดังนั้น กระทรวงต่างประเทศก็ควรประชาสัมพันธ์ให้คนไทยได้รับทราบว่า เมื่อ ศบค.มีคำสั่งผ่อนปรนให้ 5 กลุ่มนี้ ซึ่งมีต่างชาติเดินทางเข้ามาได้ ก็ยังต้องเข้มเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนทราบว่าการควบคุมซึ่งเป็นข้อจำกัดในเรื่องการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แต่หากปล่อยให้เกิดการระบาดของโรคอีก ก็จะส่งผลทางด้านเศรษฐกิจเช่นกัน จึงต้องรักษาสมดุลทั้งสองเรื่อง ซึ่ง ศบค.ก็ไม่ได้หวังจะรักษาตัวเลขผู้ติดเชื้อให้เป็นศูนย์ แต่ควรพอเหมาะกับขีดความสามารถที่โรงพยาบาลจะรับรักษาได้ และโรคไม่แพร่ขยายมากเกินไป
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แสดงว่าจะยังคงมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปใช่หรือไม่ ประธานผู้ตรวจฯ ชี้แจงว่า เลขาฯ สมช.รายงานว่าก็เกรงจะมีการนำ พ.ร.ก.ไปผูกกับสถานการณ์การเมือง แต่หัวใจสำคัญคือเรื่องของการกักตัว 14 วัน ซึ่งเป็นเรื่องของการละเมิดสิทธิถ้าไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ไม่สามารถบังคับกักตัว 14 วันได้ รัฐบาลก็พยายามหาทางออก ซึ่งก็ได้แนะนำว่าให้ดูว่าใน พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ มีข้อความใดที่จะนำไปออกเป็นพระราชกำหนดที่ให้สามารถบังคับกักตัว มาใช้ทดแทน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็จะได้ใช้กฎหมายนั้นมาทดแทน แต่ขณะนี้ยังไม่มี ดังนั้น คนไทยก็ต้องเข้าใจว่าเรื่องการกักตัว เป็นมาตรการสำคัญในการคัดคนติดเชื้อกับคนไม่ติดเชื้อออกจากกัน ถ้าไม่มีมาตรการนี้ก็จะเป็นอันตรายกับคนไทยส่วนใหญ่
เมื่อถามว่า ได้มีการหารือถึงปัญหาการรับรองบุคคลวีไอพีกับตัวแทน ศบค.หรือไม่ พล.อ.วิทวัส กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงให้เข้าใจว่าหลังเกิดปัญหาแล้วในวันที่ 17 ก.ค.ก็ได้เชิญผู้แทนของสถานทูตในประเทศไทย มาทำความเข้าใจแม้มีความสัมพันธ์ แต่ขอให้รักษามาตรการป้องกันโควิด-19 ซึ่งทุกประเทศก็ตอบรับ อย่างไรในเรื่องนี้ไม่ได้มีผู้ร้องมาที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่เป็นความปรากฏต่อผู้ตรวจการแผ่นดินว่าประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากเหตุดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี