นายกฯ เปิดงานโกลบอลคอมแพ็กประเทศไทยผนึกกำลังทุกภาคส่วนร่วมฟื้นฟูประเทศ ย้ำโควิด-19 เป็นวิกฤตรุนแรงสุดในประวัติศาสตร์โลก ขอทุกฝ่ายร่วมปรับตัวก้าวเข้าสู่โลกใหม่ เชื่อความเป็นหนึ่งเดียวของคนไทยช่วยฟื้นฟูประเทศให้กลับมาดีกว่าเดิม
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 31 สิงหาคม 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน “GCNT FORUM 2020: Thailand Business Leadership for SDGs” ในโอกาสการครบรอบ 20 ปี เครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact) และครบรอบ 75 ปีสหประชาชาติ (United Nations) จัดโดย สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานผู้แทนสหประชาชาติประจำประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการและผู้สนับสนุนของสมาคมฯ ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรสมาชิกของสมาคมฯ ผนึกกำลังเพื่อร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด-19 พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “วิถีคิดผู้นำในสถานการณ์วิกฤต ประสบการณ์จากสถานการณ์ COVID-19” ว่า ตนเองตระหนักดีว่า "สิทธิมนุษยชนเป็นรากฐานที่เข้มแข็งของสังคมและธุรกิจ” การเคารพสิทธิมนุษยชนเป็นหลักการที่ทุกฝ่ายควรให้ความสำคัญและปฏิบัติ รัฐบาลจึงสนับสนุนให้ภาคเอกชนประกอบธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน และไม่แสวงหาผลประโยชน์โดยมุ่งหวังแต่ผลกำไรเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้รู้สึกภูมิใจที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ประกาศใช้แผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (National Action Plan: NAP) เมื่อปี 2562 โดยแผนปฏิบัติการดังกล่าวให้ความสำคัญกับ 3 เสาหลัก คือ คุ้มครอง เคารพ และเยียวยา ซึ่งต้องขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ภายในประเทศ รวมถึงสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทยที่มีบทบาทนำในการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน และหวังว่าทุกภาคส่วนจะร่วมมือกันขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการฯ ดังกล่าวให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนและสังคมไทย ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมการเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วิถีคิดผู้นำในสถานการณ์วิกฤต ประสบการณ์จากโควิด-19 ทุกคนคงเห็นเหมือนกันว่า วิกฤตครั้งนี้เป็นวิกฤตระดับโลก ที่ไม่เคยประสบวิกฤตการณ์ที่รุนแรงเช่นนี้มาก่อนในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคติดต่อร้ายแรง เราต้องปรับตัวทั้งในการใช้ชีวิตและดำเนินธุรกิจให้เป็นไปในรูปแบบ New Normal หรือ วิถีปกติใหม่ ดังนั้น ผู้นำในทุกองค์กร รวมทั้งภาครัฐบาลจึงต้องพร้อมปรับตัวเพื่อก้าวเข้าสู่โลกใหม่ด้วย และไม่อาจทำงานในรูปแบบเดิมอีกต่อไป
สำหรับรัฐบาลก็เร่งปรับปรุงวิธีการทำงานให้เป็นแบบ New Normal ตามแนวทางสำคัญ 3 ประการ ประกอบด้วย การผนึกกำลังจากทุกภาคส่วนเพื่อร่วมวางอนาคตของประเทศไทย ทุกภาคส่วนสามารถนำเสนอวิสัยทัศน์ และความคิดในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้รัฐบาลฟังได้ รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน เพื่อทำหน้าที่ ติดตาม เร่งรัด ช่วยเหลือเยียวยา และขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาของประชาชนในระดับพื้นที่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะเปิดให้มีการประเมินผลงานภาครัฐ โดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตัวจริง ให้ทุกคนสามารถประเมินผลการทำงานของรัฐว่า ได้สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนตามที่เขาคาดหวังหรือไม่ เพื่อกำจัดสิ่งที่ทำแล้วไม่มีประโยชน์ออกไปให้ได้มากที่สุด ดังนั้น สิ่งที่ตนจะทำให้เกิดขึ้นเป็นอันดับต่อไปคือ สนับสนุนให้ประชาชนมีบทบาทในการประเมินผล และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการต่างๆ ของภาครัฐให้ผู้บริหารระดับสูงในรัฐบาลรับทราบโดยตรงได้ด้วย นอกจากนี้จะมีการทำงานเชิงรุกโดยคำนึงถึงความเหมาะสมกับสถานการณ์ และการสร้างประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมให้แก่ประชาชน พร้อมจะติดตามโครงการสำคัญเร่งด่วนนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ขึ้นจริงและมีประสิทธิภาพสูงสุด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้ เราจะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมหรือผลประโยชน์สาธารณะเป็นสำคัญ ที่ผ่านมา ตนและทุกคนในรัฐบาล ข้าราชการ พยายามทำงานอย่างสุดความสามารถเพื่อดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด การช่วยเหลือผ่านมาตรการเยียวยาต่าง ๆ จนได้รับคำชื่นชมจากสหประชาชาติและองค์การอนามัยโลก และการยอมรับจากประชาคมระหว่างประเทศ ว่าสามารถบริหารจัดการด้านสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดและฟื้นตัวจากสถานการณ์ดังกล่าวได้ดีที่สุดประเทศหนึ่งของโลก ซึ่งวิกฤตการณ์โควิด-19 ตอกย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เพื่อให้รอดพ้นจากความท้าทายครั้งนี้ไปได้ รัฐบาลต้องดึงศักยภาพของประเทศออกมาใช้ โดยระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เข้ามาช่วยขับเคลื่อนการฟื้นฟูประเทศให้ดีกว่าเดิม ทุกภาคส่วนจะต้องรวมพลังกันเพื่อรวมไทยสร้างชาติ ท่ามกลางวิกฤตนี้เราจะต้องรอด และวันหน้า เราต้องเข็มแข็งกว่าเดิม พวกเราคนไทยจะฝ่าฟันไปด้วยกัน เพราะเราและโลกมีเป้าหมายที่ชัดเจนรออยู่ข้างหน้า นั่นก็คือ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ หรือ SDGs ซึ่งเราจะต้องบรรลุให้ได้ภายในปี 2573 เรามีเวลาเหลืออีกไม่มาก แต่ตนเชื่อมั่นในประเทศไทยและคนไทย หากเราร่วมมือร่วมใจกัน ความก้าวหน้าและความสำเร็จอยู่ไม่ไกล
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การพัฒนาประเทศไทยต่อจากนี้ ต้องมุ่งเน้นเรื่อง ความยั่งยืนและการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า รัฐบาลมองการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนขอทุกคนพัฒนาแผนธุรกิจไปในแนวทางที่สอดคล้องกัน เพื่อประเทศชาติ ประชาชน และเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นหลัง ขณะเดียวกันวิกฤตการณ์โควิด-19 ทำให้เรามองเห็นศักยภาพของไทย และทั่วโลกได้ชัดเจนยิ่งขึ้น การพัฒนาประเทศภายหลังวิกฤตการณ์นี้ ต้องอาศัยรากฐานที่แข็งแกร่งของประเทศ นำมาต่อยอดและพัฒนา นอกจากนี้ไทยมีการบริหารจัดการด้านสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ แต่สิ่งที่ไทยยังขาด คือ ยังนำเข้าผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ เช่น ยา วัสดุ และเครื่องมือแพทย์จากต่างประเทศ จึงควรสร้างความสามารถในการพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพ และการแพทย์ ต้องทำให้อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร เพื่อรับมือกับโอกาสและความท้าทาย เช่นการผลิตวัคซีนและยารักษาโรคโควิด-19
“สิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจว่า ประเทศไทยจะสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วภายหลังวิกฤตโควิด-19 คือ ความร่วมแรงร่วมใจอย่างเป็นหนึ่งเดียวของคนไทยทุกคน นโยบายรัฐบาลในการฟื้นฟูประเทศให้กลับมาดีกว่าเดิม มี 2 ประเด็นสำคัญ คือ การพัฒนาอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนประเทศ และเมื่อเราเริ่มทำงานในแบบใหม่ก็อาจมีเสียงคัดค้าน หรือการวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้น ผมพร้อมจะรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกคน โดยเฉพาะเยาวชน เพราะผมเชื่อมั่นว่า เราต่างมีจุดมุ่งหมายร่วมกันในการเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทยไปในทางที่ดีขึ้น ขอเชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมภารกิจรวมไทยสร้างชาติไปพร้อม ๆ กัน ผมมั่นใจว่า วิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้จะช่วยให้ประเทศไทยของเรายิ่งแข็งแกร่ง มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้นกว่าเดิม และมีบทบาทในการสนับสนุนประชาคมโลกเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน เราทุกคน ทั้งคนไทย ประเทศไทย และทุกประเทศทั่วโลก จะต้องร่วมแรงร่วมใจกัน คิดใหม่ ทำใหม่ สร้างสรรค์วิธีการทำงาน และวิถีชีวิตแบบใหม่ เพื่อที่เราจะสามารถก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี