เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบตามที่ ศธ.เสนออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน สังกัด ศธ.ให้ดำรงตำแหน่งประเภทผู้บริหารระดับสูง จำนวน 4 ราย ได้แก่ นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการสภาการศึกษา (เลขาธิการ สกศ.) เป็น ปลัดศธ. , นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็น เลขาธิการสภาการศึกษา , นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (เลขาธิการ ก.ค.ศ.) เป็น เลขาธิการ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน , นายสุเทพ แก่งสันเทียะ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (รองเลขาธิการ กอศ.) ขึ้นเป็น เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีศึกษา ทั้งนี้ จะมีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
นายณัฏฐพล กล่าวว่า การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ เปลี่ยนเพื่อจะให้มาผลักดันการเปลี่ยนแปลและเพิ่มความเข้มข้นในการทำงานใน ศธ.ซึ่งก็ต้องรอดูผลงานต่อไป เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ก็ให้ข้อคิดเห็นตลอดเวลาเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้บริหารของทุกกระทรวง ว่าหากแต่ตั้งแล้วก็เป็นความรับผิดชอบของรัฐมนตรีประจำกระทรวงที่จะผลักดันให้ผลงานเกิดขึ้นให้ได้นี้นคือเรื่องที่สำคัญ ซึ่งวันนี้เรื่องการปฏิรูปการศึกษาเป็นเรื่องที่สำคัญได้มีการนำเสนอ นวทางการปลดล็อคการศึกษาไทยผ่านระบบดิจิทัล ระบบดาต้าข้อมูลต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ศธ.จะต้องผลักดันให้เห็นผลอย่างกว้างขวาง
ส่วนที่ย้าย นายอำนาจ ไปเป็นเลขาธิการสภาการศึกษา ก็ไม่ได้เป็นการลงโทษ เพราะทุกหน่วยงานของ ศธ.มีความสำคัญ และพิจารณาตามความถนัดของแต่ละคนเพื่อให้เกิดความเข้มข้นในการผลักดันนโยบายสำคัญๆ
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ตนก็จะมานั่งดูระดับ 10 ในหลายหน่วยงานที่มีตำแหน่งว่าง เพื่อหาผู้ที่เหมาะสมมาทำงานด้วยกันเป็นทีมได้ เพราะตนจะเน้นการทำงานเชื่อมโยงของทุกหน่วยงานในศธ.เป็นหนึ่งเดียวกันและเป็นเอกภาพเพื่อให้การทำงานเห็นผลให้ได้ ในแผนงานทั้ง สพฐ.อาชีวะ ก็ต้องคำนึงถึงซึ่งกันและกันและนโยบายที่มีความจำเป็นต้องเดินต่อไป เช่น นโยบายการลดนักเรียนวายสามัญ เพื่อไปเพิ่มสายอาชีวะเราก็ต้องร่วมกันทำให้ได้ เพราะเป็นนโยบายของประเทศ ไม่ใช่นโยบายของตน และถ้าเราทำตรงนั้นไม่ได้นโยบายก็ยังขับเคลื่อนไม่ได้ ก็หวังว่าหลังจากนี้การทำงานจะมีเอกภาพ
ส่วน นายอัมพร ที่ย้ายมาเป็นเลขาธิการ กพฐ.นั้น ก็ต้องไปพูดคุยกับนายอำนาจ ว่าได้มอบหมายงานอะไรไว้บ้าง ตนคิดว่าทุกคนใน ศธ.คุยกันได้ไม่มีปัญหาอะไรในการรับทราบนโยบายการขับเคลื่อน เพราะเป็นปีที่ต้องขับเคลื่อนอย่างจริงเราเห็นปัญหาอยู่แล้วในปัจจุบัน ต้องพยายามปลดล็อคแก้ไขปัญหาให้ได้ ไม่เช่นนั้นเราก็จะเผชิญปัญหาที่รุนแรงขึ้นไปกว่าเดิม
ส่วน นายสุเทพ ที่ได้ขึ้นเป็น เลขาธิการอาชีวะ ก็ถือว่ามีศักยภาพและต้องรับผิดชอบในหลายๆ ด้าน และมีความเหมาะสมสามารถทำงานได้และขับเคลื่อนทีมงานได้ ตนไม่อยากให้กังวลว่าคนนี้จะต้องอยู่ตรงนี้ แต่คิดว่าทุกส่วนใน ศธ.สามารถทกงานได้หมด เพราะทุกส่วนมีความสำคัญเหมือนกันหมด อย่างไรก็ตาม ก็ต้องรอดูสถานการณ์ในการขับเคลื่อนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี