"สันติ"โต้"ยุทธพงศ์"ยันต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวถูกต้องตามกฎหมาย สอบหนังสือสัญญาแล้ว ตัดสินใจจ้างบีทีเอสต่อ ชี้ลดค่าใช้จ่าย-สร้างความสะดวกปชช.-ลดต้นทุนค่าตั๋ว
เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2563 ที่รัฐสภา นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงกรณี นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายพาดพิงการต่อสัมปทานส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่า บริษัทบีทีเอสได้สัมปทานช่วงบางนาถึงสนามกีฬาแห่งชาติ หลังจากนั้นขยายมาถึงสมุทรปราการแถวบางปู และจากเซ็นทรัลลาดพร้อมถึงคูคต โดยทั้งส่วนบีทีเอสและการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เมื่อสร้างเสร็จแล้ว แบ่งออกเป็น 3 ส่วน แต่ประชาชนท้วงติงว่าสร้างความลำบางให้ประชาชน จึงเกิดแนวคิดระหว่างการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟท.และกรุงเทพมหานคร หรือ กทม.ในฐานะเจ้าของสัมปทาน จึงหารือกันเพื่อแก้ปัญหาหลายครั้ง ว่าจะร่วมทุนกันอย่างไร เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางตลอดสายตั้งแต่คูคตถึงบางนาในราคาถูกลง จากที่ประเมินว่าเกินกว่า 150 บาท เหลือ 65 บาท ถูกกว่าเกือบ 2 เท่า ส่วนราชการสร้างความสะดวกให้ประชาชน แต่ทาง กทม.ก็มีเงื่อนไขว่า ถ้า รฟม.ซึ่งจ่ายเงินค่าก่อสร้าง 7 หมื่นกว่าล้านบาทแล้ว จึงตัดสินใจจ้างบีทีเอสต่อเพื่อลดค่าใช้จ่ายโดยใช้บริษัทเดียว ซึ่งสำนักงานอัยการตรวจสอบหนังสือสัญญาเรียบร้อยแล้ว
นายสันติ กล่าวว่า และก่อนที่ นายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลาออก 1 วัน ก็ได้ตอบความเห็น แต่ก็ขอถอนความเห็นเพื่อให้รัฐมนตรีคนใหม่ได้แสดงความเห็นอย่างอิสระก่อนนำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี ส่วนกรณี นายปรีดี ดาวฉาย ที่เพิ่งลาออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ขอดูเอกสารก่อนลาออก ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเห็นโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี