"จุรินทร์"เสนอจัดหารือร่วมวิป3ฝ่าย หาจุดร่วมแก้รัฐธรรมนูญ เน้นผลสัมฤทธิ์จริง บนแนวทางสันติ
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2563 ที่ จ.นครราชสีมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ความเห็นระหว่างการสัมมนาข้าราชการกรมการค้าภายใน ที่ จ.นครราชสีมา ต่อสถานการณ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญในขณะนี้ ว่า มาถึงจุดนี้นับเป็นเรื่องน่ายินดี ที่ดูเหมือนในภาพรวมถือว่าทุกฝ่ายในสังคมเห็นไปในทางเดียวกันแล้วว่าควรมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพียงแต่ยังมีทั้งจุดเหมือนและจุดต่างกันในเรื่องเนื้อหา และรูปแบบ ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญจะสัมฤทธิ์ผลได้จริงนั้น อย่างน้อย 3 ฝ่าย ต้องเห็นพ้องต้องกัน คือ ส.ส.รัฐบาล , ส.ส.ฝ่ายค้าน ไม่น้อยกว่า 20% และวุฒิสมาชิก ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ก่อนนำไปสู่การทำประชามติถามประชาชน หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เห็นพ้องด้วย การแก้รัฐธรรมนูญก็จะไม่สามารถทำได้จริง ทำได้แค่ยื่นญัตติ ฉะนั้น เพื่อให้การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้เกิดผลสัมฤทธิ์จริง ตนจึงขอเสนอให้วิปทั้ง 3 ฝ่าย ประกอบด้วย วิปรัฐบาล , วิปฝ่ายค้าน และวิปวุฒิสภา ได้ประชุมหารือกัน เพื่อหาข้อสรุปร่วม ว่ามีประเด็นใดบ้างที่จะนำไปสู่การแก้ไขได้สำเร็จ แล้วร่วมมือร่วมใจกันบนแนวทางสันติ เพื่อให้เรามีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้นกว่าฉบับปัจจุบันได้
"สำหรับพรรคประชาธิปัตย์นั้น มีจุดยืนชัดเจนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญตั้งแต่การกำหนดเป็นเงื่อนไขก่อนการเข้าร่วมรัฐบาล และได้ร่วมเสนอร่างแก้ไขในนามพรรคร่วมรัฐบาลไปแล้ว โดยให้มีการเลือก สสร.ขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 และเพื่อให้การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้สำเร็จได้จริง การหารือร่วมกันระหว่างวิปทั้ง 3 ฝ่าย ที่เป็นผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญตัวจริงในรัฐสภาจึงเป็นเรื่องจำเป็น โดยตนได้มอบหมายให้วิปของพรรคประชาธิปัตย์เร่งไปหารือเรื่องนี้กับวิปรัฐบาลแล้ว" นายจุรินทร์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี