‘พี่ศรี’ไปต่อ! กัดไม่ปล่อยจ่อร้องกรมสรรพากร สอบ‘ท่อน้ำเลี้ยง’ม็อบ
17 กันยายน 2563 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ตามที่สมาคมฯได้ยื่นคำร้องต่อ ปปง. เพื่อขอให้ไต่สวน สอบสวนบุคคลที่เป็นท่อน้ำเลี้ยง หรือเป็นผู้สนับสนุนให้กับการชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในหลายๆครั้งที่ผ่านมา และล่าสุดคือกลุ่มที่กำลังจะดำเนินการจัดการชุมนุมสาธารณะขึ้นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันที่ 19-20 ก.ย.63 เพื่อเรียกร้องให้มีการยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน และร่างรัฐธรรมนูญใหม่นั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : โดนระนาว! 'ศรีสุวรรณ'ส่ง11รายชื่อท่อน้ำเลี้ยงม็อบ 19 กันยาฯให้ป.ป.ง.สอบ)
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีบุคคลต่างๆที่ประกาศตัวเป็นท่อน้ำเลี้ยง และกลุ่มผู้จัดงานชุมนุมทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด ได้เปิดบัญชีธนาคารขอรับเงินบริจาค โดยอ้างว่า เพื่อนำไปสนับสนุนการจัดชุมนุมสาธารณะในที่ต่างๆเป็นจำนวนมาก แต่ไม่เคยมีใครรับทราบว่า การเปิดบัญชีรับเงินบริจาคเพื่อนำไปเป็นท่อน้ำเลี้ยงการชุมนุมต่างๆนั้น แต่ละคน แต่ละกลุ่ม แต่ละบัญชี ได้รับเงินบริจาคเข้าบัญชีเป็นจำนวนมากนับแสน นับล้านบาท ทำให้เกิดข่าวเล็ดลอดออกมาจากกลุ่มพวกเดียวกันว่า มีการนำเงินบริจาคไปใช้ส่วนตัว หรือมีการหักหัวคิว โดยไม่มีใครตรวจสอบได้ จนนำไปสู่ช่องทางทำมาหากินกับการจัดม็อบขึ้นมา โดยอ้างประชาธิปไตยบังหน้า โดยล่าสุดมีการเปิดแผลให้พวกเดียวกันทราบ กรณีเซเลปหรือขอทาน เหตุเกิดที่ จ.เชียงราย เป็นต้น
ทั้งนี้ ผู้ที่ประกาศตัวหรือเจ้าของบัญชีที่เปิดรับเงินบริจาคมาเข้าบัญชีต่าง ๆ เหล่านั้น ทั้งนักธุรกิจ ดารานักแสดง ผู้กำกับภาพยนตร์ หรือบางคนแม้จะเป็นนิสิต นักศึกษา ก็ต้องถือว่าเป็นผู้ที่มีรายได้พึงประเมินตามที่กรมสรรพากรกำหนด ตาม ม.40 แห่งประมวลรัษฎากร และไม่ได้รับการยกเว้นตาม ม. 42 หรือการยกเว้นตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 หรือการยกเว้นตามพระราชกฤษฎีกาฉบับต่างๆ แต่อย่างใด ซึ่งจะต้องนำรายได้จากการรับบริจาคตามที่ปรากฏในบัญชีธนาคารดังกล่าวไปคำนวณเป็นฐานภาษีเพื่อชำระภาษีประจำปีของแต่ละคนที่เปิดบัญชีธนาคารดังกล่าวด้วย
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า มีกรณีตัวอย่างให้เห็นอยู่แล้ว อาทิ กรณีแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เคยโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า "ใครไม่โดนกับตัวเองจะไม่รู้ ว่าหนักแค่ไหนแบบเดียวกับผม ผมอยู่ นปช. มีแต่ใจเกินร้อยกับพี่น้อง แต่หารู้ไม่ว่า ตัวเองกำลังมีชะตากรรมที่ต้องแบกรับแทนคนอื่น สามเกลอใช้ผมไปเปิดบัญชี เพื่อรับเงินบริจาค และกิจกรรมอื่นๆ โดยที่พวกเขาไม่ยอมใช้ชื่อตัวเองไปเปิดบัญชีรองรับเงิน เพราะเขารู้ว่าจะถูกสรรพากร ประเมินเสียภาษี ทั้งหมดนี้ผมโดนสรรพากรเรียกเก็บภาษีจากเงินเหล่านี้ เป็นเงิน 572 ล้าน ผมจะเอาที่ไหนไปจ่ายก็เลยโดนฟ้องล้มละลาย และตอนนี้โดนอายัดทรัพย์ และอายัดบัญชีทั้งหมด เหลือแต่ตัวแล้วครับ แถมเป็นบุคคลล้มละลายด้วย ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ผมมันโง่เอง รักพวกจนไม่คิดถึงชีวิตและอนาคตตัวเอง บทเรียนที่แสนแพงในชีวิต ฉิบหายทั้งตระกูล เพียงเพราะคำว่าเพื่อน"
“ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมฯจึงจะนำรายชื่อผู้ที่เปิดบัญชีธนาคารรับเงินบริจาคเพื่อเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับกลุ่มม็อบต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะม็อบที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ เพื่อให้กรมสรรพากร ได้ใช้เป็นข้อมูลในการประเมินภาษีของผู้ถือบัญชีต่าง ๆ เหล่านั้นต่อไป โดยสมาคมฯจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันศุกร์ที่ 18 ก.ย.63 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานใหญ่กรมสรรพากร ซ.พหลโยธิน 7 พญาไท กทม.” นายศรีสุวรรณ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี