“กสม.”ออกแถลงการณ์ห่วงใยสถานการณ์การชุมนุม 19 กันยายน เรียกร้องรัฐ-แกนนำชุมนุม-สื่อ ยึดหลักปฏิบัติ รธน.มาตรา 34 และมาตรา 44
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2563 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)ออกแถลงการณ์เรื่อง ข้อห่วงใยต่อสถานการณ์การชุมนุม ในวันที่ 19 กันยายน 2563 มีเนื้อหาระบุว่า
ตามที่ปรากฏสถานการณ์การชุมนุมและเรียกร้องทางการเมืองของนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นมา และกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมได้เผยแพร่ข่าวว่าจะจัดกิจกรรมชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 19 กันยายน 2563 ทีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นั้น
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และมีความห่วงใยเป็นอย่างยิ่งว่า การใช้เสรีภาพในการชุมนุม การแสดงความคิดเห็น และการเคลื่อนไหวทางการเมืองในมุมมองที่แตกต่างกัน สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์การละเมิดกฎหมายที่มีความรุนแรงและส่งผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน กสม. จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงหลักสิทธิมนุษยชนและแนวทางปฏิบัติสากลที่เกี่ยวข้องกับการใช้เสรีภาพในการชุมนุมและการแสดงความคิดเห็น รวมถึงการจัดการการชุมนุมให้เป็นไปด้วยความสงบและสันติวิธี ดังนี้
1. การชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ และการแสดงออกซึ่งความคิดเห็น เป็นสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานอันได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่ประเทศไทยเป็นภาคี การจำกัดเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธจะกระทำมิได้ รัฐพึงงดเว้นการเข้าแทรกแซงด้วยประการใด ๆ และดูแลอำนวยความสะดวกตามสมควรแก่ประชาชน อย่างไรก็ตาม การใช้เสรีภาพในการชุมนุมและการแสดงความคิดเห็นจะต้องเป็นไปโดยสงบเรียบร้อย และคำนึงถึงการเคารพสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น เนื่องจากเสรีภาพ
ในเรื่องดังกล่าว มิใช่เป็นเสรีภาพที่ได้รับการรับรองและคุ้มครองไว้อย่างบริบูรณ์ แต่อาจถูกจำกัดได้ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ตราขึ้นเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยสาธารณะ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อคุ้มครองสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือป้องกันสุขภาพของประชาชน ตามนัยมาตรา 34 และมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
ซึ่งมีสาระสำคัญที่สอดคล้องกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ข้อ 19 และข้อ 21
2. เพื่อให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนดังกล่าวข้างต้น กสม.จึงมีข้อเสนอแนะ ดังนี้
2.1 รัฐบาล หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง
(1) ควรวางนโยบายและมาตรการที่ชัดเจนในการรักษาความสงบเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ อาทิ การจัดสถานที่และบริการขั้นพื้นฐาน การจัดจราจร และการดูแลความปลอดภัยของผู้ชุมนุม การจำกัดการใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นอันเป็นเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตย ควรถือเป็นข้อยกเว้นที่พึงกระทำเฉพาะในกรณีจำเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ภายในกรอบของกฎหมายเท่านั้น และไม่ควรมีการสร้างเงื่อนไขอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความรุนแรง
(2) ควรหลีกเลี่ยงการใช้กำลังในการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุม หากมีความจำเป็นที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่จะต้องใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อยุติเหตุการณ์การละเมิดกฎหมายและมีความรุนแรงอันอาจเกิดขึ้นในการชุมนุม ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับความจำเป็นและความได้สัดส่วน โดยจะต้องกำหนดให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวประกาศเตือนให้ผู้ชุมนุมได้ทราบล่วงหน้าอย่างชัดแจ้ง รวมถึงชี้แจงถึงเหตุผลความจำเป็นที่ต้องมีการนำมาตรการนั้น ๆ มาใช้
(3) ควรนำหลักการสำคัญ 10 ประการสำหรับการจัดการการชุมนุมอย่างเหมาะสม (10 Principles for the proper management of assemblies) ที่จัดทำโดยผู้เสนอรายงานพิเศษแห่งองค์การสหประชาชาติมาปรับใช้ตามสมควรแก่กรณี อาทิ รัฐต้องเคารพและดูแลสิทธิทุกประการของผู้ที่เข้าร่วมในการชุมนุม การจำกัดการชุมนุมโดยสันติใด ๆ ต้องเป็นไปตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมจะต้องไม่แทรกแซงสิทธิในความเป็นส่วนตัวหรือสิทธิอื่น ๆ ที่กฎหมายไม่อนุญาตให้ทำได้ เป็นต้น
2.2 ผู้จัดการชุมนุมและผู้ใช้เสรีภาพในการชุมนุม
(1) ผู้จัดการชุมนุมและผู้ใช้เสรีภาพในการชุมนุมควรตระหนักว่า เสรีภาพในการชุมนุมมิใช่เป็นเสรีภาพที่ได้รับการรับรองและคุ้มครองไว้อย่างบริบูรณ์ และพึงใช้เสรีภาพดังกล่าวด้วยความระมัดระระวังให้อยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ มีการจัดระบบการควบคุมดูแลการชุมนุมให้เป็นไปโดยสงบเรียบร้อย ป้องกันมิให้เกิดความรุนแรงหรือสร้างเงื่อนไขที่อาจทำให้เกิดความรุนแรง รวมทั้งคำนึงถึงการเคารพสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
(2) ผู้จัดการชุมนุมและกลุ่มผู้ชุมนุมควรมีหน้าที่ร่วมกัน ทำให้การชุมนุมเป็นไปโดยสงบและปราศจากอาวุธ โดยยึดถือหลักสิทธิมนุษยชนและแนวทางสันติวิธี หลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำที่มีลักษณะยั่วยุให้มีการใช้ความรุนแรง สร้างความเกลียดชังหรือคุกคามต่อผู้มีความเห็นต่าง
2.3 สื่อมวลชนและประชาชนทุกภาคส่วน
(1) สื่อมวลชนควรนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริง ครบถ้วนรอบด้าน เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ อย่างเป็นอิสระ เที่ยงตรง ระมัดระวังไม่ให้มีการเสนอข่าว หรือการแสดงความเห็น หรือเนื้อหาใด ๆ ที่จะทำให้เกิดความเกลียดชังหรือยั่วยุให้เกิดความรุนแรง
(2) ประชาชนทุกภาคส่วนควรติดตามสถานการณ์อย่างรอบด้าน โดยรับฟังข้อมูลข่าวสารจากกลุ่มต่าง ๆ ที่แสดงความคิดเห็นและการแสดงออกซึ่งความเชื่อและความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกันอย่างระมัดระวัง และเคารพในสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกที่แตกต่างกันของทุกฝ่าย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะพึงตระหนักและเคารพสิทธิมนุษยชนซึ่งกันและกัน
อย่างเคร่งครัด ตลอดจนแสวงหาแนวทางหรือจัดให้มีกระบวนการเพื่อหาข้อสรุปอันเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายตามแนวทางสันติวิธี อันสอดคล้องกับวิถีทางในระบอบประชาธิปไตย โดยคำนึงถึงประโยชน์และความสงบสุขของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ
กสม.แนะรัฐให้ข้อมูล-คุมคุณภาพวัคซีนโควิด ฉีด-ไม่ฉีดยี่ห้อไหน สิทธิปชช.ตัดสินใจ
กสม.วอนคำนึงถึงสวัสดิภาพ แนะผู้ปกครองไม่ควรพาเด็กเล็กร่วมชุมนุม
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย หรือ FCCT ร้องขอให้ผู้สื่อข่าว มีแล
3 พฤศจิกายน 2563 นางประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ทำหน้าที่แทนประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการบังคับใช้กฎหมาย
‘กสม.’ขอบคุณนายกฯเลิกพรก.ฉุกเฉินร้ายแรง วอนรัฐ-ม็อบเคารพความเห็นต่าง
วันที่ 21 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักโฆษกสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งต่อสื่อมวลชนพร้อมขอความร่วมมือสถานีโทรทัศน์ทุกสถานีออกอากาศแถลงกา
“ดอน” เผย หลังกต.แจงทูต ไม่มีประเทศใดกังวล ยัน ไม่มีคุยเรื่องต่างประเทศหนุนม็อบ ย้ำ สามารถแจงได้ทุกประเทศ ปัด หน่วยงานไม่มีข้อมูล ไม่เป็นความจริง
17 ตุลาคม 2563 สำนักงานคณะกรรมสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ เรื่อง "เหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563" ระบุว่า ตามที่รัฐบ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี