“จาตุรนต์” ลุ้นแก้รธน. ชี้ แก้หมวด1-2 หวังเปิดโอกาสแลกเปลี่ยนเห็นต่าง จับตา ม.272 ปิดสวิทต์ สว.เลือกนายกฯ ลั่น ปชช.หมดความเชื่อมั่นรัฐบาล ถามใจ “บิ๊กตู่” ทำเพื่อบ้านเมือง หรืออำนาจ
เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2563 นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ โพสเฟซบุ๊ก Chaturon Chaisang ระบุว่า ขณะนี้รัฐสภากำลังพิจารณาญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งที่แก้มาตรา 256 เพื่อให้มี สสร, ขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญกันใหม่ และอีก 4 ญัตติที่พรรคเพื่อไทยเสนอ
เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายด้านเห็นตรงกันในเรื่องให้มี สสร. ขึ้น การแก้มาตรา 256 ก็มีโอกาสผ่านวาระแรกไปได้ เว้นแต่มี ส.ว. ร่วมสนับสนุนไม่ถึง 84 คน
แต่ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับมาตรา 256 อีกข้อหนึ่งก็คือการห้ามแก้หมวด 1 และหมวด 2 ทั้งๆ ที่มีมาตรา 255 กำกับไว้อยู่แล้วว่าการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนระบบหรือรูปแบบการปกครองจะกระทำมิได้ หมวด 1 หมวด 2 นี้ ความจริงก็มีการแก้กันมาหลายครั้งหลายหน แม้แต่การแก้รัฐธรรมนูญ ปี 60 ครั้งหลังสุดก็มีการแก้ การไปเขียนห้ามแก้หมวด 1 หมวด 2 ไว้กลับจะเป็นการปิดโอกาสให้สังคมไทยได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความเห็นที่แตกต่างตามครรลองประชาธิปไตย ซึ่งจะช่วยลดความขัดแย้งเผชิญหน้าไปได้
เรื่องจะห้ามแก้หมวด 1 หมวด 2 หรือไม่นี้ คงต้องติดตามกันในขั้นตอนต่อไปจนกระทั่งกลับมาลงมติกันในวาระที่ 3 ส่วนการแก้อีก 4 ญัตตินั้น ยังไม่ทราบว่าจะผ่านวาระแรกได้บ้างหรือไม่
ผมคิดว่า ที่น่าสนใจติดตามเป็นพิเศษคือการเสนอแก้มาตรา 272 โดยเฉพาะในส่วนของการตัดอำนาจวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรี หากมีการยกร่างรัฐธรรมนูญกันใหม่และ สสร.ไปรับฟังความเห็นประชาชนในเรื่องนี้ ก็คงจะไม่มีทางที่จะปล่อยให้ สว.มีอำนาจเช่นนี้อีกต่อไป แต่ปัญหาก็คือการร่างรัฐธรรมนูญใหม่นี้จะใช้เวลาอีกนาน อาจไม่น้อยกว่า 15 เดือน
แต่เวลานี้รัฐบาลสูญเสียความเชื่อถือจากประชาชนไปหมดแล้ว ไม่มีใครรู้ว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ได้อีกนานเท่าใด เมื่อถึงเวลาหนสิ่วหน้าขวานท่านนายกฯ อาจแก้ปัญหาด้วยการยุบสภาก็ได้
หากมีการเลือกตั้งขึ้นภายใต้กติกาเดิมจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย ประเทศก็จะยังวิกฤตต่อไป
ดังนั้นจึงจำเป็นที่อย่างน้อยจะต้องตัดอำนาจ สว. ในการเลือกนายกฯ ออกไปเสียก่อน ให้สภาผู้แทนราษฎรเท่านั้นเป็นผู้เลือกนายกรัฐมนตรี
ไม่มีใครรู้ว่า วิกฤตการเมืองครั้งนี้จะพัฒนาไปถึงขั้นไหนและประเทศจะจมปลักอยู่กับความเสียหายยับเยินในทุกด้านไปอีกนานเท่าใดแต่ที่แน่ๆ หากรัฐสภาต้องการเปิดช่องให้วิกฤตผ่อนคลายลงได้บ้าง รัฐสภาต้องไม่ปล่อยให้โอกาสนี้ หลุดลอยไป ทั้งหมดนี้ขึ้นกับพรรคร่วมรัฐบาลและ สว. ซึ่งคนที่จะพูดกับทั้งสองส่วนนี้ได้ก็คือ พลเอกประยุทธ์ นั่นเอง ขึ้นกับว่า พลเอกประยุทธ์ จะเห็นแก่ชาติบ้านเมืองหรือจะคำนึงถึงแต่อำนาจและผลประโยชน์ของตนเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี