30วันไม่นานเกินไป! "อัครเดช"แจงเหตุผล เห็นด้วยตั้งกมธ.ยืดศึกษาแก้รธน. ดึง"ส.ว."มีส่วนร่วม ชี้กฎหมายสูงสุดของประเทศต้องรอบคอบ
เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2563 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุผลที่ลงมติเห็นชอบให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ก่อนที่จะมีการลงมติในวาระรับหลักการ ว่า ตนต้องการให้ ส.ว.ได้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการ เพราะการเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ส.ว.ไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วม รวมถึงก่อนหน้านี้ที่มีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่มี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ส.ว.ก็ไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วม ดังนั้น การเปิดโอกาสให้ ส.ว.เข้ามาร่วมในคณะกรรมาธิการศึกษาก่อนรับหลักการ เนื่องจากเสียงของ ส.ว.มีส่วนสำคัญในการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องได้รับเสียงสนับสนุน 1 ใน 3 หรือ 84 เสียง ระยะเวลา 30 วันไม่มากเกินไป ในข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 121 วรรค3 ก็ยังมีการกำหนดกลไกให้มีการตั้งกรรมาธิการร่วมเพื่อศึกษาได้
"กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสำคัญ เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ที่จะต้องใช้ความรอบครอบในการกลั่นกรอง ต้องรับฟังเสียงของทุกฝ่าย ดังนั้น ระยะเวลา 30 วัน ที่ให้กรรมาธิการไปศึกษา ถือว่าไม่นานเกินไป และการให้ ส.ว.เข้ามามีส่วนร่วมในส่วนของการตั้งกรรมาธิการขึ้นพิจารณาตามข้อบังคับรัฐสภาข้อ 121 ถือว่าเป็นกลไกของรัฐสภาในการหาทางออกร่วมกัน และในเมื่อต้องการให้ ส.ว.เขาเข้ามาสนับสนุนเราก็ต้องให้เขาได้เข้ามามีส่วนร่วมด้วย เพราะหากไม่ให้มีส่วนร่วม แล้วให้เขามาโหวตว่ารับหรือไม่รับ จะเป็นการไม่แฟร์ กับเขา" นายอัครเดช กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี