‘สมพงษ์’ไขก๊อกพ้นหน.พรรค
เพื่อไทยแตกยับ
‘โภคิน’ลาออกตาม‘เจ๊หน่อย’
ล้างขั้วใหม่/รอนายใหญ่สั่ง
นัดประชุมใหญ่ทันทีจันทร์นี้
โพลล์ชี้ม็อบปลดแอกตัวป่วน
ซ้ำเติมเศรษฐกิจวิกฤติชาติ
“สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ตัดใจลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดทางยกเครื่องใหม่ พร้อมนัดประชุมทันทีจันทร์นี้ คาดล้างขั้วอำนาจปรับโครงสร้างใหญ่ คัดสายตรงคนแดนไกล ขณะที่ “เจ๊หน่อย-โภคิน-กิตติรัตน์” ไขก๊อกพ้นกรรมการยุทธศาสตร์พรรคส่วนซูเปอร์โพลชี้ม็อบ19กันยาซ้ำเติมวิกฤติชาติ ทำประชาชนเดือดร้อน จี้เอาผิดลงโทษสูงสุด ขณะตร.จับตาแกนนำปลดแอกตีปี๊บชุมนุมค้างคืน 7 วัน 7 คืน
เมื่อวันที่ 26 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าความเคลื่อนไหวจากพรรคเพื่อไทย(พท.) ภายหลังคุณสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ลาออกจากประธานยุทธศาสตร์ ขณะที่แกนนำหลายคนได้ลาออกจากตำแหน่งสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็น นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา น ายโภคิน พลกุล นายวัฒนา เมืองสุข ลาออกจากกรรมการยุทธศาสตร์พรรค
มีรายงานว่านายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เตรียมประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคซึ่งจะส่งผลให้หลุดจากการเป็น ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรไปด้วยโดยมีการเดินสายอำลาผู้ใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรแล้วและคนอื่นๆคาดว่าจะมีการแถลงลาออกจากหัวหน้าพรรคอย่างเป็นทางการเร็วๆนี้ เมื่อนายสมพงษ์ ลาออก กรรมการบริหารพรรคชุดเดิม ก็จะต้องหลุดออกจากตำแหน่งไปทั้งหมดด้วย เพื่อจะมีการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ โดยกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ นายสมพงษ์ มีโอกาสกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้ง ดังนั้นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จึงจำเป็นต้องเป็น ส.ส.ซึ่งนายสมพงษ์ ถือเป็น ส.ส.ที่อาวุโสที่สุดของพรรคและได้รับการยอมรับ
รายงานว่าส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคนั้น ถ้าน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคซึ่งถือเป็นสาย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ต้องออกจากตำแหน่งไป ก็คาดว่าเลขาธิการพรรคคนใหม่ จะเป็นส.ส.ที่เป็นสายตรงของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตอนนี้กำลังพิจารณาผู้ที่มีความเหมาะสม
เจ้แดงเบรกสายอีสานดัน’สุทิน’
มีรายงานอีกว่าในกลุ่มไลน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย สายอีสาน มีการเคลื่อนไหว โดยเห็นว่าบุุคคลที่มีความเหมาะสม จะดันชิงหัวหน้าพรรคแทนนายสมพงษ์คือ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน เนื่องจากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์การเมืองทันเกมในสภาฯมีบุคลิกประณีประนอมประสานงานได้ทุกฝ่ายและได้รับการยอมรับจากคนอีสานและส.ส.อีสาน
ขณะเดียวกันกลุ่มทางภาคเหนือโดยเฉพาะนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือ เจ๊แดง ยังมองว่าในสถานการณ์เวลานี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนหัวหน้ารวมทั้งที่ผ่านมา นายสมพงษ์ยังทำหน้าที่ได้ดี ควรดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ต่อไป
‘สมพงษ์’ตกใจ‘เจ้หน่อย’ออก
วันเดียวกันที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยานายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพท.กล่าวถึงการทยอยลาออกของกรรมการบริหารพรรคและคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยว่า เท่าที่ทราบจากในข่าวยังไม่ได้พบและติดต่อใครไม่ได้ ในส่วนของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ข้อเท็จจริง
“รู้สึกตกใจเมื่อทราบข่าวช่วงค่ำ แต่ยังไม่มีโอกาสคุยกันก็ต้องยอมรับว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นผู้ที่มีความสำคัญกับทางพรรคเพื่อไทยมาก ในลักษณะการทำงานที่ไม่เหน็ดเหนื่อย สู้งานมาโดยตลอดจึงรู้สึกเสียดายที่ตัดสินใจลาออก และต้องเคารพการตัดสินใจ”
ลั่นไม่ถึงขั้นพรรคแตกหัก
ส่วนกรรมการบริหารพรรค บางส่วนที่ทยอยลาออก นายสมพงษ์ กล่าวว่าเมื่อผู้นำของเขาลาออกไป ก็คงแสดงสปิริต ไม่มีอะไร พวกเรากรรมการบริหารพรรค พูดจาพูดคุยกันได้ ยืนยันว่าไม่ถึงขั้นแตกแยก และเป็นไปไม่ได้ เพราะพรรคมีแนวทาง บุคลากรที่ทำงานในพรรคอยู่แล้ว และคงเป็นความรู้สึกติดพันกับบุคคลที่เป็นคนสำคัญก็ไม่ว่า และคงต้องพูดคุยกัน
เปรยจ่อลาออกพ้นหัวหน้าฯ
เมื่อถามถึงกระแสข่าวจะตัดสินใจลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสมพงษ์ ยอมรับว่า“ผมคิดอยู่ หมายความว่าถ้าหากว่าถ้าฟังก์ชั่นของพรรค มันอาจจะปรับในเรื่องของรูปแบบการบริหารใหม่ ถ้าจะต้องทำ ทางที่ดีที่สุด ก็คือ ถ้าหัวหน้าพรรคลาออกสักคน ตำแหน่งต่างๆก็ต้องออกไปหมด ก็มีการจัดสรรใหม่ ก็คิดอยู่” พร้อมระบุว่าตนพิจารณาอยู่ หลังสัมมนาเสร็จก็จะหาทางยื่นและให้มาสัมภาษณ์อีกที
เมื่อถามว่าจะกระทบกับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านฯหรือไม่ นายสมพงษ์ กล่าวว่า ไม่เป็นไรเพราะใครมาเป็นหัวหน้าพรรค ก็เป็นผู้แทนราษฎร ก็เป็นผู้นำฝ่ายค้านฯอยู่ดี ก็ให้ที่ประชุมใหญ่พรรคได้พิจารณากันว่าจะหาคนมาแทน หรืออย่างไรก็แล้วแต่
ชี้ต้องนัดประชุมใหญ่เลือกหน.
เมื่อถามว่าจะนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในสัปดาห์หน้าเลยหรือไม่ นายสมพงษ์ กล่าวว่าคงจะต้องมี เพราะการที่บุคคลสำคัญของพรรคมีการลาออกจากตำแหน่งไป พรรคจะต้องเรียกประชุมเพื่อจะพิจารณาว่าเป็นอย่างไร แต่เพิ่งรับทราบเมื่อคืนก็ยังไม่ได้มีการนัดหมาย แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ทางพรรค ก็ต้องเรียกประชุมอยู่ดี โดยมีรองหัวหน้าพรรค ที่จะทำหน้าที่รักษาการแทนหัวหน้าพรรคอยู่ ไม่มีปัญหาอะไร
แจงหญิงหน่อยจ่อลงผู้ว่ากทม.
ทั้งนี้ ภายหลังการให้สัมภาษณ์นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติได้สอบถามกับนายสมพงษ์ถึงการลาออกของ คุณหญิงสุดารัตน์โดยระบุว่า“ผมในฐานะคนนอก ผมเข้าใจว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เขาลาออก เพราะจะไปลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร”ทำให้ตัวแทน 6 พรรคฝ่ายค้านต่างยิ้มและหัวเราะกันถ้วน
ยื่นลาออกแล้ว/ประชุมใหญ่28กพ.
บ่ายวันเดียวกัน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการหัวหน้า พท. แถลงว่าโดยที่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้า พท.แล้ว เป็นเหตุให้คณะกรรมการบริหารพรรค ทั้งคณะพ้นจากตำแหน่ง และจะต้องมีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่
“ผมในฐานะผู้รักษาการหัวหน้าพรรค จึงขอเรียกประชุมรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อกำหนดให้มีการเรียกประชุมใหญ่วิสามัญในการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยจะมีการประชุมรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรค ในวันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563 เวลา 10.00น.ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่” นายชูศักดิ์ ย้ำ
สมพงษ์แจงลาออกเพื่อปรับทัพใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับหนังสือลาออกของนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ระบุว่าตามที่ที่ประชุมใหญ่วิสามัญ พรรคเพื่อไทย ครั้งที่ 1/2562 ได้เลือกให้ผมดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นมา โดยมีคณะกรรมการบริหาร รวมทั้งสิ้น 29 คน เต็มตามข้อบังคับพรรค ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมืองและข้อบังคับพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคเป็นองค์กรสูงสุดของพรรค มีอำนาจหน้าที่สำคัญในการดำเนินกิจการของพรรคให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และข้อบังคับพรรค กำหนดนโยบายการบริหารและพัฒนาพรรค กำกับดูแล และตรวจสอบให้องค์กรของพรรคส่วนต่างๆ ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปโดยมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามกฎหมายและนโยบายของพรรคและมีอำนาจและหน้าที่อย่างอื่นๆ อีกหลายประการ
“ที่ผ่านมา ผมเห็นว่าด้วยองค์ประกอบของคณะกรรมการบริหาร และการกำหนดภารกิจในส่วนต่างๆ ของพรรค ทำให้คณะกรรมการบริหารยังไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุผลตามนโยบายและข้อบังคับของพรรค ผมจึงเห็นว่าสมควรที่จะปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารเสียใหม่ เพื่อให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะนี้และเพื่อให้การบริหารงานของพรรคเพื่อไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุตามนโยบายของพรรคที่ได้ประกาศไว้ ด้วยเหตุนี้ ผมจึงขอลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2563 เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป เพื่อจะได้มีการเรียกประชุมใหญ่สมัยวิสามัญและเลือกคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ”
นักวิชาการฟันธงพท.แพแตก
ด้าน ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุข้อความว่า“หมากประกาศิตของคุณหญิงพจมาน การเมืองไทย แต่เดิมก็เป็นการเมืองเชิงสัญลักษณ์อยู่แล้ว อาการแพแตกของพรรคเพื่อไทยแพแตกในคืนนี้น่าจะเพราะได้รับสัญญาณบางอย่างเจ้าของพรรคตัวจริงนั่นเอง ถ้าอาการแพแตกของพรรคเพื่อไทยในคืนนี้ ทำให้ถอนฟืนออกจากกองเพลิงได้ เราคงต้องขอบคุณคุณหญิงพจมาน ชินวัตรที่ขยับหมาก”ประกาศิต” นี้เพื่อบ้านเมืองอย่างแท้จริง#คุณหญิงพจมานฉลาดและล้ำลึกจริงๆถ้าคนอ่านเกมขาด หมากนี้ของคุณหญิงพจมาน บอกได้คำเดียวว่า “มันจบแล้วท่าน”หลังจากนี้พวกเสื้อแดงคงต้องตัวใครตัวมันแล้วละส่วนม็อบวันที่14 ตุลาเดือนหน้าคงเกิดยากแล้ว”
ตร.จับตาแกนนำม็อบปลดแอก
ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะพัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)กล่าวถึงกรณีนายภานุพงศ์ จาดนอกหรือไมค์ ระยอง แกนนำกลุ่มประชาชนปลดแอกประกาศเชิญชวนประชาชนร่วมชุมนุมปักหลักค้างคืน เป็นเวลา7วัน7คืนหลังสมาชิกวุฒิสภาหรือ ส.ว.มีการลงมติตั้งกรรมาธิการร่วมศึกษาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จนทำให้การลงมติในวาระรับหลักการเลื่อนออกไป 1 เดือนว่า ตำรวจได้เฝ้าจับตามองทางการข่าวอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว หากมีการชุมนุมตามประกาศจริง ตำรวจก็มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยแก่ผู้ชุมนุมและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนทั่วไป ให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
รองโฆษก ตร.ส่วนจำนวนของผู้ชุมนุมนั้นไม่ใช่ประเด็นที่ต้องกังวลแต่สำคัญคือต้องเป็นการชุมนุมที่สงบ ปราศจากอาวุธและไม่ทำผิดกฎหมายซึ่งตำรวจ จะใช้แผนการชุมนุม63ซึ่งพัฒนามาจากแผนกรกฏ52ดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมให้สอดคล้องกับเนื้อหา พ.ร.บ.การชุมนุม และรูปแบบการชุมนุมที่เปลี่ยนแปลงจากแต่ก่อน พร้อมฝากไปถึงแกนนำให้ควบคุมดูแลทิศทางการชุมนุมให้อยู่ในขอบเขตของกฎหมายเพราะในอดีตที่ผ่านมา พอมีการกระทำผิดขึ้น จะทำให้ยากที่จะย้อนกลับไปแก้ไขและเกิดเป็นคดีความต่อเนื่องจนได้รับผลกระทบที่รุนแรงตามมา
โพลชี้ม็อบ19กย.เติมวิกฤติชาติ
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ม็อบ 19 กันยายน กับ การซ้ำเติม กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,119 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 21-25 กันยายน 2563 พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 89.9 ระบุ ม็อบ 19 กันยายนที่ผ่านมา ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ขณะที่ร้อยละ 10.1 ระบุไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง
ที่น่าเป็นห่วงคือส่วนใหญ่ร้อยละ 91.2ระบุ ม็อบ19กันยายน ซ้ำเติมวิกฤติชาติและซ้ำเติมวิกฤติความเดือดร้อนของประชาชน ขณะที่ร้อยละ 8.8ระบุไม่ซ้ำเติม ร้อยละ 92.0ระบุม็อบและกลุ่มผู้สนับสนุนกำลังสร้างความแตกแยกและทำลายรากฐานของประเทศตนเอง ขณะที่ร้อยละ 8.0ระบุไม่สร้างความแตกแยก
ที่สำคัญโพลเสียงข้างมากยังเรียกร้องให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมที่กระทำผิดกฎหมายให้ถึงที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี