“ฝ่ายค้าน” รุดเยี่ยมแกนนำม็อบ 14 ตุลา ประสานทนายเร่งช่วยเหลือ ข้องใจรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงชอบธรรมหรือไม่ หรือ‘รัฐประหารเงียบ’
15 ตุลาคม 2563 เมื่อเวลา 11.30 น. ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญ หัวหน้าพรรคก้าวไกล , นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล , พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ และนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาคที่ 1 เพื่อติดตามสถานการณ์และดำเนินการช่วยเหลือแกนนำ และกลุ่มผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวจากการสลายการชุมนุมเมื่อคืนที่ผ่านมา
นายพิธา กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจำนวนหนึ่งจะดำเนินการนำหลักทรัพย์เพื่อช่วยประกันตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ข้างใน ทั้งนี้ ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ขอตั้งคำถามถึงความชอบธรรมในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งๆที่เมื่อคืน แกนนำได้พยายามลดความตึงเครียดลงและประกาศพร้อมที่จะยุติการชุมนุมลงชั่วครา แต่ก็ยังเกิดเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อเช้ามืด
“ตอนนี้ได้ประสานทางทนายความเพื่อเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือผู้ที่ถูกคุมตัวในกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 เข้าใจว่ามีผู้ถูกควบคุมตัวมีทั้งสิ้น 23 คน เป็นนักศึกษา 7 คน ซึ่งอยู่ที่นี่ 21 คน โดยจะถูกส่งไปจังหวัดเชียงใหม่ 2 คน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนถึงจำนวนผู้ถูกจับกุมที่แน่ชัดและยังไม่ทราบว่าผู้มีอำนาจได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง “ นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ภายในกองบังคับการฯ เวลานี้มีทนาย 4 คน ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อจำนวนบุคคลที่ถูกควบคุมตัว ในฐานะ ส.ส.คงต้องดูต่อไปว่าจะสามารถใช้กระบวนการทางรัฐสภาในการช่วยเหลือได้อย่างไรได้บ้าง เวลานี้ทุกประเทศต่างจับจ้องมาที่ประเทศไทย ไม่ใช่แค่นักสิทธิมนุษยชน แต่รวมถึงนักลงทุนและภาคธุรกิจ จึงขอฝากไปยังผู้มีอำนาจว่าหากจะตัดสินใจอะไร ต้องคำนึงถึงปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ด้าน นายชัยธวัช กล่าวว่า พรรคก้าวไกล ขอตั้งคำถามถึงความชอบธรรมและเหตุผลในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงว่ามีเหตุผลชอบธรรมเพียงใด การอ้างว่าเกิดจากการชุมนุมที่ไม่สงบของนักศึกษา ไม่น่าจะสอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะจะเห็นได้ว่าตลอดทั้งวันในการชุมนุม มีความอดทนอดกลั้นจากการถูกยั่วยุและใช้แนวทางที่สันติมาโดยตลอด รวมถึงมีการหลีกเลี่ยงเส้นทางไม่ให้กระทบต่อขบวนเสด็จ แต่เรื่องนี้ก็ถูกหยิบยกมาเป็นข้อกล่าวอ้างที่สำคัญเพื่อประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งที่แกนนำได้มีการประสานกับทางตำรวจมาตลอดเพื่อหลีกเลี่ยง และเมื่อถึงเวลาทุกคนก็ไม่ได้เข้าไปขัดขวางขบวน ดังนั้นเจ้าหน้าที่ควรจะมีความชัดเจนในการจับกุมรวมถึงข้อกล่าวหาด้วย
นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า เมื่อสักครู่ที่ผ่านมาได้ติดต่อกับ ทนายอานนท์ นำภา หนึ่งในผู้นำที่ถูกควบคุมตัว โดยนายอานนท์ ระบุว่า ขณะนี้กำลังจะถูกควบคุมตัวไปยังจังหวัดเชียงใหม่โดยการนั่ง ฮ. ทำให้มีความกังวล เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้พาผู้ติดตามและทนายความไปด้วย ทั้งนี้ นายชัยธวัชยังตั้งคำถามด้วยว่า การใช้อำนาจที่ไม่มีความชัดเจนของรัฐแบบนี้ก็คือการทำรัฐประหารเงียบใช่หรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี