‘อดีตบิ๊กศรภ.’จี้รัฐจัดการม็อบด้วยกม.สัก10%ของ‘ทักษิณ’ ชำแหละ 3 ข้อจับตา‘อีแอบ’รอจุดติดต่อท่อน้ำเลี้ยงทันที

16 ตุลาคม 2563 พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อคืนวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีเนื้อหาดังนี้...

รัฐบาลจัดการม็อบด้วยกฎหมายได้สัก 10% ของทักษิณ ก็น่าจะดี

1.เหตุผลของการยุติการชุมนุมของพวกม็อบ ในเวลา 4 ทุ่มนั้น เป็นไปตามกำหนดการหยุดเดินของรถไฟฟ้า เพราะกองหน้าที่ล้วนเป็นเด็กๆนักเรียนประมาณ 5000 คน ได้เริ่มทยอยกลับบ้านก่อนนั้นแล้ว อีกส่วนที่เป็นพวกทำงานในย่านนั้นซึ่งก็จำเป็นต้องพึ่งรถไฟฟ้าเช่นกัน

ดังนั้นยังไงก็ต้องยุติการชุมนุมอยู่ดี

(การเปิดชุมนุมก็ต้องรอให้เด็กเลิกเรียนก่อนเช่นกัน)

แต่แกนนำม็อบก็ ได้ประกาศจะชุมนุมต่อในวันพรุ่งนี้อีก ตอน5โมงเย็น

นับได้ว่า ม็อบยังต้องให้คนเลิกงาน และนักเรียนเลิกเรียนก่อน

อีกทั้งยังคงต้องพึ่งรถไฟฟ้าอยู่เช่นเดิม ม็อบเด็กนักเรียนที่มากันด้วยความสนุกสนาน พรุ่งนี้ก็จะพาเพื่อนหรือแฟนที่อยากสนุกด้วยตามมาอีก เพราะเป็นวันศุกร์ ไม่ต้องกลับบ้านเร็วเพราะวันรุ่งขึ้นไม่ต้องไปโรงเรียน

ดังนั้นพรุ่งนี้ ม็อบน่าจะสนุกสนานมากกว่าวันนี้อีก

2.ม็อบ ยังพึ่งพาน้ำเลี้ยงจากพวก ไอ้แอบ และอีแอบทั้งหลาย  แต่การส่งท่อน้ำเลี้ยงนั้น ยังไม่ได้ทำเต็มที่รอจังหวะอยู่ พอจุดติดถ้าคนมากกว่านี้ ท่อน้ำเลี้ยงก็จะไหลมาเทมาเอง เช่น เครื่องเสียง เครื่องดนตรี ว.ติดต่อสื่อสาร

การ์ดเสื้อแดง ข้าวปลาอาหาร และ อาวุธต่างๆก็จะตามอีกโดยไม่ให้เด็กรู้

3.โอกาสที่เราจะเห็นม็อบ นปช.เมื่อเดือน เมษา-พฤษภา ปี53 ก็จะกลับมาอีก ถ้าม็อบเด็กๆเหล่านี้อยู่ต่อไปได้อีกสักอาทิตย์เดียวเท่านั้น เพราะรัฐบาลไม่ได้ให้รายละเอียด หลักฐาน หรือชี้แจงเหตุผลของการประกาศ พรก.ฉุกเฉินอย่างจริงจังเลยว่าทำไมต้องสลายการชุมนุม ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามให้รายละเอียดผิดๆมาตลอดทั้งวัน ทุก10นาทีมีคลิ๊ปโกหกไปถึงเด็ก

แต่ฝ่ายรัฐบาล พยานหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์จริง บางคนไปแจ้งความด้วยซ้ำ ทำไมไม่เอาคนพวกนี้มาเล่าเหตุการณ์ทั้งในสื่อต่างๆ  หรือแถลงออกเป็นคลิปออนไลน์ แต่ละช่วงๆให้มันชัดเจน

เวลาไม่เคยรอคอยใคร ในยุคที่เอาชนะกันด้วย ข้อมูลข่าวสาร ที่สื่อเกือบ70% อยู่ฝ่ายตรงข้ามหมด การเข้าถึงประชาชนความอย่างรวดเร็ว ความเข้มแข็งของการบังคับใช้กฎหมาย และความโปร่งใสของการปฏิบัติการ เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องทำ จะปล่อยให้พื้นที่เศรษฐกิจแถบนี้เสียหายอีกครั้งไม่ได้แล้วครับ โดยเฉพาะในขณะที่ทุกประเทศในโลกนี้ยังไม่สามารถเปิดการท่องเที่ยวได้

ลองบังคับใช้กฎหมายให้ได้สัก 10% แบบรัฐบาลกลุ่มทักษิณ ก็พอแล้ว

อย่าปล่อยให้เยาวชนของเราติดฝิ่นตั้งแต่ ม.3 เลยครับ