เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 907 ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำสั่งในคดีหมายเลขดำ 339-340/2563 ที่กระทรวงดิจิทัลฯ ยื่นคำร้องขอ ให้ศาลมีคำสั่งระงับการแพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยมีบริษัท วอยซ์ทีวี จำกัด ผู้คัดค้านเรื่อง
คดีนี้ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าได้ตรวจสอบพบว่ามีการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นการเสนอข่าวจำหน่ายหรือทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลอิเลคทรอนิกส์บรรดาที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนหวาดกลัวหรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉินจนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนขอให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูล 12 URL (เป็นของวอยซ์เเละเพจ Free YOUTH) และศาลได้มีคำสั่งลงวันที่ 19 ต.ค.63 ให้ระงับการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวตามที่ขอ
บัดนี้ได้มีการเสนอข่าวการปิดสถานีโทรทัศน์ตามคำสั่งดังกล่าวปรากฏตามสื่อมวลชนศาลอาญาพิจารณาแล้วเห็นสมควรให้มีการไต่สวนเพิ่มเติมผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านขอให้เพิกถอนคำสั่งข้อเท็จจริงตามทางไต่สวนได้ความว่าการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้รับเรื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าการออกอากาศทางโทรทัศน์ของวอยซ์ทีวี (Voice TV) และสื่อสังคมออนไลน์ ได้แก่ Voice TV,ประชา In Prachatai.com ,The Reporters ,THE STANDARD, และ เยาวชนปลดแอก Free YOUTH มีเนื้อหาสาระที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พิจารณาแล้วเห็นว่าเนื้อหาบางส่วนของสื่อดังกล่าวมีลักษณะชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมการชุมนุมอันเป็นการฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครลงวันที่ 15 ต.ค.63 แต่เนื่องจากไม่สามารถไม่สามารถให้ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตปิดกั้นการเข้าถึงเป็นการเฉพาะข้อมูลได้จึงขอให้ปิดช่องทางการสื่อสารทั้งหมดของสื่อดังกล่าวข้างต้น
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 35 วรรคสอง บัญญัติห้ามรัฐปิดสื่อมวลชนเพื่อลิดรอนเสรีภาพในการเสนอข่าวสาร มาตรา 36 วรรคหนึ่ง บัญญัติรับรองเสรีภาพของบุคคลในการสื่อสารถึงกัน การตีความ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 2550 มาตรา 20 ก็ดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 2548 มาตรา 9 (3) ก็ดี จึงต้องเป็นไปโดยสอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญดังกล่าว
ทั้งนี้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 20 ให้อำนาจศาลระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลออกจากระบบคอมพิวเตอร์ และมาตรา 3 ของ พ.ร.บ.นี้ ระบุว่า ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หมายถึงข้อมูล ข้อความ ในระบบคอมพิวเตอร์ ดังนั้น เจตนารมณ์ของกฎหมายย่อมมุ่งหมายที่จะให้ศาล ห้ามโดยเฉพาะเจาะจงซึ่งข้อมูลที่เป็นความผิดตามมาตรา 20 (1)-(3) โดยเฉพาะเจาะจงเป็นรายข้อความ ส่วน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรา 9 (3) ห้ามการเสนอข่าวที่มีข้อความทำให้ประชาชนหวาดกลัวนั้น กฎหมายประสงค์ให้ห้ามเป็นการเฉพาะข่าวหรือข้อความเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นการห้ามเข้าถึงข้อมูลหรือข้อความที่มีการนำเสนอปรากฏต่อศาลในปัจจุบันแล้วว่าขัดต่อกฎหมาย กฎหมายหาได้มีเจตนารมณ์ที่จะให้ศาลมีคำสั่งปิดช่องทางการสื่อสารของบุคคลหรือสื่อสารมวลชนทั้งช่องทาง ซึ่งมีผลการนำเสนอข้อความในอนาคตที่ยังไม่มีการพิสูจน์ความผิดด้วย ส่วนความขัดข้องในเรื่องการปิดกั้นการเข้าถึงทางเทคนิคนั้นเป็นเรื่องในชั้นบังคับคดี ไม่มีผลให้เปลี่ยนแปลงหลักกฎหมาย
ดังนั้น การที่ศาลมีคำสั่งระงับการแพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม URL ทั้ง 12 รายการ ซึ่งเป็นการปิดช่องทางการสื่อสารของสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี, สำนักพิมพ์ประชาไท, The Reporters, The STANDARD หรือของกลุ่มเยาวชนปลดแอก Free YOUTH โดยเหตุที่ผู้ร้องไม่ได้แสดงให้ชัดเจนว่าเป็นการขอให้ปิดสื่อทั้งช่องทาง ทำให้ศาลมิได้รู้ข้อเท็จจริงอันถูกต้อง เข้าใจว่าเป็นการปิดกั้นเฉพาะเนื้อหาบางส่วนที่คัดนำเสนอต่อศาล คำสั่งศาลดังกล่าวจึงไม่ถูกต้อง จึงมีคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งศาลที่ให้ระงับการแพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ในคดีนี้ ยกคำร้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ส่งข้อมูลให้ กอร.ฉ.พิจารณาและดำเนินการกับสื่อออนไลน์ที่อาจกระทำผิดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ก่อนศาลมีคำสั่งปิดสื่อออนไลน์ของวอยซ์ทีวี และเพจเยาวชนปลดแอก ส่วนประชาไท The Reporters และ The Standard ได้ยกคำร้องไปแล้วก่อนหน้านี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี