"ประชาธิปัตย์"ย้ำตั้ง"สสร."ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เหตุล็อกห้ามแก้หมวด1และ2ไว้ ไม่ถือเป็นการร่างใหม่ทั้งฉบับ ชี้ควรนำร่างไปทำประชามติถามประชาชนก่อนทูลเกล้าฯเพียงครั้งเดียว พร้อมแนะไม่ควรขยายเวลาพิจารณาของกมธ.ออกไปอีก
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2563 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมก่อนรับหลักการ และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงหลักการข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการประกาศไว้เป็นพรรคการเมืองแรกในการผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น จนนำไปสู่การกำหนดไว้ในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งต้องยอมรับว่าหากการแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของประเทศ พรรคประชาธิปัตย์จึงได้ดำเนินการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญร่วมกับรัฐบาล โดยยืนยันว่าร่างดังกล่าวเป็นร่างที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันทุกประการ ซึ่งมีสาระสำคัญคือให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญกระทำได้ง่ายขึ้น และให้มีการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ โดยไม่มีการแก้ไขในหมวดที่ 1 และหมวดที่ 2 และ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนที่ชัดเจนในการสนับสนุนร่างดังกล่าว
นายอัครเดช กล่าวต่อว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ได้พิจารณาถึงประเด็นข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงแล้ว เห็นว่าร่างแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวไม่ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 18-22/2555 เกี่ยวกับล้มล้างรัฐธรรมนูญ เนื่องจากร่างดังกล่าวได้ห้ามการแก้ไขในหมวดที่ 1 และหมวดที่ 2 ไว้ จึงถือว่าไม่ได้เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ
ส่วนประเด็นของการจัดทำประชามตินั้น ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์มีความเห็นว่า หลังจากที่การแก้ไขในมาตรา 256 ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว ก่อนจะนำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย ให้นำร่างแก้ไขเพิ่มเติมไปจัดให้มีการออกเสียงประชามติ เพื่อสอบถามประชาชนว่ายินยอมให้มีการแก้ไขหรือไม่ โดยให้กระทำเพียงครั้งเดียว แต่ทั้งนี้การที่จะดำเนินการออกเสียงประชามตินั้นจำเป็นที่จะต้องมีกฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติเสียก่อน จึงเห็นว่าควรจัดทำกฎหมายออกเสียงประชามติให้แล้วเสร็จก่อนการจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม
นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ยังมีความคิดเห็นว่ากรอบเวลาในการพิจารณาของกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมก่อนรับหลักการ ระยะเวลา 30 วันมีความเหมาะสมแล้ว จึงไม่ควรขอยายเวลาการพิจารณาออกไปอีก เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญได้เข้าสู่การพิจารณาในวาระรับหลักการตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมรัฐสภาโดยเร็วที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี