สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

‘เสื้อเหลือง’พรึ่บ

แสดงจุดยืนปกป้องสถาบัน

ชุมนุมผนึกพลังทั่วประเทศ

ม็อบบุกปิดอนุสาวรีย์ชัยฯ

เคลื่อนขบวนไปทำเนียบเดินหน้าขับไล่‘ประยุทธ์’

ประชาชนสวมเสื้อเหลือง ประกาศปกป้องสถาบันพร้อมร่วมร้องเพลงชาติ-สรรเสริญพระบารมี กึกก้องทั่วประเทศ ส่วนประธาน“พรเพชร” นัดสว.แถลงปกป้องสถาบันฯ พฤหัสบดีนี้ ด้านม็อบป่วนซ้ำอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ย้ำอุดมการณ์“แก้รธน.-ไล่ลุงตู่”ส่วน “เพนกวิน-รุ้ง” นอนคุกยาวหลังศาลไม่ให้ประกันตัวคดีหมุดคณะราษฎร 63

เมื่อเช้าวันที่ 21 ตุลาคม บนถนนสายเอเชีย 18 บริเวณหน้าธนาคารเพื่อการเกษตรฯ (ธ.ก.ส) สาขาสุไหงโก-ลกอ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ประชาชนจาก 13 อำเภอของจ.นราธิวาส

ประกอบด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าประชาชนกว่า 20,000 คน ร่วมใจกันใส่เสื้อเหลือง พร้อมชูพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่และสมเด็จพระราชินี ร่วมกันแสดงพลังรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ก่อนเดินไปยังด่านพรพรมแดนสุไหงโกลก ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ทั้งนี้ ทั้งหมดได้มีการรวมกลุ่มกันกล่าวปฏิญาณตนแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของประเทศ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย เพลงสรรเสริญพระบารมี แสดงเจตนารมณ์ในการช่วยกันปกป้องสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนคนไทยทั้งชาติ แม้สังคมไทยจะคิดต่างได้แต่ต้องไม่ก้าวล่วงสถาบัน

นางรุ่งทิวา เนียมซาห์และนายสุชาติ สุคนธ์กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ รายอกีตอ (ในหลวงของเรา) พวกตนขอออกมาเพื่อปักป้องสถาบันหลักของชาติและแสดงจุดยืน ไม่ให้ใครเข้ามาจาบจ้วงล่วงละเมิด และจะปกป้องด้วยเลือดเนื้อและชีวิต ให้สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่ประเทศไทยไปตลอดกาล มาแสดงพลังเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้อยู่คู่กับประเทศไทยตลอดไป อยากให้ประเทศไทยเหมือนเดิม ไม่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลง บ้านเมืองกำลังเดินหน้าไปด้วยดี อยากให้ทุกคนหันหน้ามาคุยเจรจากันอย่างสันติ ไม่ทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย สุดท้ายนี้ อยากให้พระบารมีของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ช่วยคุ้มครองและดลบันดาลให้ประเทศสงบสุข

กำนัน- ผญบ.ร่วมปกป้องสถาบัน

ที่ลานหน้าศาลากลางจังหวัดลำพูน นายสมชาย แจ่มทวีกุล นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดลำพูน นำคณะกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจังหวัดลำพูน และประชาชน จำนวนกว่า 200 คน อ่านแถลงการณ์แสดงจุดยืนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อนายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน โดยมีนายชัชวาลย์ ฉายะบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมรับฟังการอ่านคำแถลงการณ์

โดยสนับสนุนหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และจะปกป้องรักษา สถาบัน ชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ ซึ่งทรงเป็นจอมทัพไทย ได้ประกอบคุณูปการต่อประเทศ และได้ทรงงานเพื่อความสงบสุขของชาวไทย ตลอดจนส่งเสริมให้ชาวไทยรู้รักสามัคคี ซึ่งสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ จะปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้อยู่คู่กับประเทศไทยตลอดไป หลังจากเสร็จสิ้นการอ่านคำแถลงการณ์ นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดลำพูน พร้อมกับมวลชน ได้ยื่นหนังสือแสดงจุดยืนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เพื่อรายงานต่อ รมว.มหาดไทย และรัฐบาลต่อไป

ภูเก็ตร่วมใจสวมเสื้อเหลือง

ที่บริเวณลานหน้าหน้าที่ว่าการอำเภอถลาง จ.ภูเก็ต ได้มีกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และพี่น้องประชาชนอำเภอถลาง จำนวนประมาณ 300 คน ซึ่งต่างใส่เสื้อสีเหลืองมารวมตัวกัน พร้อมแผ่นป้ายข้อความว่า “ประชาชนชาวอำเภอถลาง ขอร่วมปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” โดยได้มีการกล่าวคำปฎิญาณ 3 ครั้งว่า “เราจะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์” และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นการแสดงออกรวมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์

ลั่นห้ามก้าวล่วงสถาบัน

ทั้งนี้ ก่อนจะมีการกล่าวคำปฎิญาณและร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ได้มีการกล่าวถึงการรวมตัวกันว่า ในฐานะที่เป็นคนไทยจะไม่ยอมให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมาก้าวล่วง ละเมิด ให้ร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด และจะไม่ให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมาล้มล้างสถาบันกษัตริย์ที่มีมากว่า 700 ปีเป็นอันขาด จึงได้มารวมตัวกันดังกล่าว

ทั้งนี้กลุ่มรักสถาบันภูเก็ตได้มีการประชาสัมพันธ์ตามช่องทางต่างๆ นัดรวมตัวกัน เพื่อร่วมแสดงพลังปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่บริเวณวงเวียนสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต โดยขอความร่วมมือให้ผู้มาเข้าร่วมใส่เสื้อเหลือง ในเย็นวันที่ 23 ตุลาคมอีกด้วย

กลุ่มคนลำปางรักในหลวง

ที่บริเวณสวนสาธารณะ ห้าแหกหอนาฬิกา ข่วงนคร เทศบาลนครลำปาง กลุ่มประชาชนชาวลำปางรักในหลวง ประมาณ 200 คน ร่วมกันใส่เสื้อเหลือง พร้อมนำพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ออกมาถือชูขึ้นเหนือหัว แสดงพลังปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ร่วมกัน เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และปกป้องในชาติ ศาสนา องค์พระมหากษัตริย์

ทางกลุ่มประชาชนคนลำปางรักในหลวง ร่วมกันร้องเพลงชาติไทย และเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนที่จะเดินทางไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดลำปาง เพื่ออ่านแถลงการณ์ของประชาชนคนลำปางรักในหลวง 10 ข้อ

รามคำแหงปกป้องสถาบัน

ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง นายพานสุวรรณ ณแก้ว ผู้ประสานงานภาคีเครือข่ายปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มลูกพ่อขุนเทิดทูนสถาบัน กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ และประชาชนที่ใส่เสื้อเหลืองชาวรามคำแหง แถลงจุดยืนต่อความเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563 ที่มีกลุ่มบุคคลได้ล้อมรถพระที่นั่ง ใช้ถ้อยคำและแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประเทศไทย ซึ่งทางเครือข่ายขอประณามการกระทำเหล่านี้ รวมถึงขอเรียกร้องให้ผู้อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายในครั้งนี้ออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันการออกมาเคลื่อนไหวไม่ได้ขัดขวางการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร 63 เพราะเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ แต่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมที่ไม่เคารพกฎหมาย และสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น

จัดนิทรรศการศาตร์พระราชา

ทั้งนี้ขอเชิญชวนคนรุ่นใหม่ ประชาชนภาคส่วนต่างๆ ร่วมกิจกรรมวันที่ 31 ตุลาคมนี้เวลา 16.00 น. ที่ลานพ่อขุนมหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งจะมีการจัดแสดงนิทรรศการศาสตร์พระราชา งานเสวนาทางวิชาการ และร่วมขับร้อง รวมพลังแสดงออกแสดงออกถึงความจงรักภักดี

นายทศพล มนูญญรัตน์ ประธานกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ กล่าวว่า จากนี้กลุ่มจะเดินหน้าปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างจริงจัง วันที่ 23 ตุลาคมนี้ ขอเชิญชวนกลุ่มอาชีวะทั่วประเทศมาร่วมกันวางพวงมาลา ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า และ ในวันนี้ที่จะมีกลุ่มเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตยจะมาชุมนุมเวลา 17.30 น. ทางกลุ่มเครือข่ายอาชีวะช่วยชาติจะปักหลักติดตามการชุมนุมและการปราศรัยจนกว่ากลุ่มดังกล่าวจะยุติการชุมุนม หากมีใครจาบจ้วง ด่าทอ กลุ่มของตนยอมไม่ได้ที่จะให้มีการหมิ่นสถาบัน ยืนยันจะไม่ใช้ความรุนแรง การออกมาเคลื่อนไหวไม่ได้มีเรื่องทางการเมืองแต่เป็นเรื่องการปกป้องสถาบัน

พรเพชร นัดวุฒิสภาแถลง

มีรายงาน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา นำสมาชิกวุฒิสภา และข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา แถลงจุดยืนในการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ในวันที่22 ต.ค. 63เวลา 09.30 น. ณ บริเวณด้านหน้าอาคารสุขประพฤติ ถนนประชาชื่น กรุงเทพฯ

กอร.ฉ.พร้อมเผชิญเหตุ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พลตำรวจตรี ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงสถานการณ์การชุมนุมรายวันว่า ตำรวจได้เตรียมพร้อมในการเผชิญเหตุ ปรับแผนตามสถานการเพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนและผู้ชุมนุม

ด้าน พันตำรวจเอก ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พบมีความพยายามสร้างสถานการณ์ให้ผู้ชุมนุมเกิดความหวาดกลัว ด้วยการสร้างข้อมูลอันเป็นเท็จ ในลักษณะว่าเจ้าหน้าที่จะใช้กระสุนจริงกับผู้ชุมนุม หรือสังหารหมู่ประชาชน ยืนยันว่า ไม่มีคำสั่งให้ใช้กระสุนจริง และเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

“สุรนาท”มอบตัว”รุ้ง –กวิน”นอนคุก

วันเดียวกัน นายสุรนาถ แป้นประเสริฐ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง (Active youth) มอบตัวกับ พ.ต.ท.อภิศิษฎ์ โรจน์อนนท์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ดุสิต หลังศาลอาญาออกหมายจับในความผิดตามกฎหมายอาญา ม.110 “กระทำการใดอันเป็นการตระเตรียมเพื่อประทุษร้ายต่อพระองค์ หรือเสรีภาพของพระราชินีหรือรัชทายาท” หลังมีขบวนเสด็จฯ เคลื่อนผ่านการชุมนุมของคณะราษฎร เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพนักงานสอบสวนนำตัวไปสอบปากคำที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จังหวัดปทุมธานี

เย็นวันเดียวกัน ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ไม่อนุญาตให้ประกันตัว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง 2 ผู้ต้องหาคดีร่วมกันชุมนุมปักหมุดคณะราษฎรที่ท้องสนามหลวง ตามที่พนักงานสอบสวนนำฝากขังร้องขอ

ศาลพิเคราะห์ว่า พฤติการณ์แห่งคดีนี้หากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยชั่วคราว น่าเชื่อว่าจะไปกระทำการหรือก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองขึ้นอีก ในชั้นนี้จึงไม่ อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวยกคำร้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะควบคุมตัวนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วน น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง ไปคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ต่อไป

ร้องปอท.เอาผิด3เพจม็อบ

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องและแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อเอาผิดติดตามตัวเจ้าของเพจกลุ่มเครือข่ายคณะราษฎร 63 ประกอบด้วย เพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม , เพจเยาวชนปลดแอก และเพจประชาชนปลดแอก โดยนายศรีสุวรรณอ้างว่าจากการตรวจสอบทั้ง 3 เพจ มีเจตนาเป็นแกนหลักในการปลุกระดมให้คนออกมาร่วมชุมนุม อีกทั้งยังเข้าข่ายความผิดกฎหมายอาญา ม.112

นายศรีสุวรรณ ยังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ในวันที่ 22 ตุลาคมา ในวันที่ 22 ตุลาคม จะไปยื่นหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ เนื่องจากเห็นว่า เครือข่ายนักวิชาการฯ ที่ได้รวบรวมรายชื่อนักวิชาการ-ประชาชน จำนวน 1,118 รายชื่อ และได้เดินทางไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล ขู่จะเลิกสอนหากรัฐบาลไม่ทำตามข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม เห็นว่า อาจจะขัด ต่อ ในหลายมาตราจึงอยากให้มีการตั้งกรรมการสอบสวน

ม็อบนัดประชุมอนุสรีย์ชัย

เย็นวันเดียวกันม็อบคณะราษฎร63 ได้ชุมนุมกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแสดงจุดยืนเดิมคือ เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และองคาพยพต้องออกไป 2.เปิดทางให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชน และ 3.ปฏิรูปสถาบัน ในขณะที่ทำเนียบรัฐบาลได้ระดมกำลังตำรวจเต็มที่เพราะได้เบาะแสว่าม็อบจะเคลื่อนจากอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปยังทำเนียบรัฐบาล