“ก้าวหน้า” มีเสียว! “ศรีสุวรรณ” จ่อร้อง กกต.สอบ “ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์” และผู้สมัครนายก-ส.อบจ.คณะก้าวหน้าทั่วประเทศ เลียบแบบพรรคการเมืองหรือไม่ ถ้าผิดจริงต้องเพิกถอนสิทธิการสมัคร อบจ.
8 พฤศจิกายน 2563 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ , นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ที่ร่วมกันตั้งคณะก้าวหน้าขึ้นมา โดยมีการกำหนดตำแหน่งประธาน กรรมการ และเลขาธิการ มีภาพเครื่องหมายของคณะเช่นเดียวกันกับพรรคการเมือง และดำเนินกิจกรรมต่างๆ เฉกเช่นเดียวกับพรรคการเมือง เช่น การจัดประชุมเปิดตัวผู้สมัคร และส่งคนสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(ส.อบจ.) กว่า 40 จังหวัด ซึ่งเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปแล้วนั้น
“พฤติการณ์หรือการกระทำดังกล่าวของนายธนาธร นายปิยบุตร และน.ส.พรรณิการ์ กับพวก จึงเป็นการสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปดำเนินกิจการเช่นเดียวกับพรรคการเมือง จึงอาจเข้าข่ายมีความผิดตาม พรป.พรรคการเมือง 2560 ม.111 ที่บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปดําเนินกิจการเช่นเดียวกับพรรคการเมือง หรือผู้ใดดําเนินการไม่ว่าด้วยวิธีใดให้เข้าใจว่าเป็นพรรคการเมืองโดยมิได้จดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอน สิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดห้าปี” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า นอกจากนายธนาธร นายปิยบุตร และน.ส.พรรณิการ์ ที่ดําเนินกิจการในลักษณะเช่นเดียวกับพรรคการเมือง แต่ทว่าผู้สมัคร นายก อบจ. และ ส.อบจ. ทั่วประเทศในนามกลุ่มก้าวหน้า โดยใช้สัญลักษณ์หรือโลโก้กลุ่มในสื่อหาเสียงต่างๆ และให้นายธนาธร นายปิยบุตร และน.ส.พรรณิการ์ ไปร่วมปราศรัย เดินรณรงค์หาเสียง ก็อาจเข้าข่ายสบคบกันกับบุคคลทั้ง 3 ด้วยเช่นกัน
นายศรีสุวรรณ ระบุว่า การที่พรป.พรรคการเมือง ถูกกำหนดขึ้นมาก็เพื่อให้พรรคการเมืองต่างๆไปจดแจ้งต่อ กกต. เพื่อที่จะได้มีกลไกทางกฎหมายในการควบคุม ดูแล โดยเฉพาะเพื่อให้มีความรับผิดชอบต่อประชาชนหากพรรคการเมืองไปดำเนินกิจกรรมใดๆที่อาจผิดกฎหมาย แต่การเลี่ยงบาลีโดยการไปจัดตั้งกลุ่มการเมืองขึ้นมา เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งอาจต้องใช้เงินใช้ทองมหาศาลในการขับเคลื่อนกิจกรรมทางการเมือง แต่ไม่มีการจดแจ้งก่อตั้งต่อ กกต.ตามที่กฎหมายกำหนด เช่นนี้ สังคมหรือ กกต.จะไปตรวจสอบการทำงาน ตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน หรือความโปร่งใสได้อย่างไร
“ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความพร้องพยานหลักฐานไปร้องเรียนต่อ กกต. เพื่อให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวนคณะผู้ก่อตั้งคณะก้าวหน้าทั้งหมด รวมทั้งผู้สมัคร นายก อบจ. และ ส.อบจ. ทั่วประเทศในนามคณะก้าวหน้า ว่าเข้าข่ายสมคบกันในการดำเนินกิจการเช่นเดียวกันกับพรรคการเมืองหรือไม่ อย่างไร หากพบว่าผิด กกต.จะต้องดำเนินการเอาโทษทางกฎหมายและเพิกถอนสิทธิในการสมัคร อบจ.ต่อไป โดยจะไปยื่นในวันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2563 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน กกต.ศูนย์ราชการ อาคาร B หลักสี่ กทม.” นายศรีสุวรรณ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี