เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 18 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศชุมนุมแยกราชประสงค์ว่า ผู้ชุมนุมลงถนนเต็มพื้นที่ ตั้งแต่แยกราชประสงค์ถึงประตูน้ำ จากนั้นเวลา 18.00 น. แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ประกาศเคลื่อนขบวนไปรวมกันที่บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระราม 1 โดยทันทีที่มาถึงได้ใช้สีสเปร์ฉีดพ่นเป็นข้อความต่างบนพื้นผิวถนน ด้านหน้าสตช.

ขณะที่เวลา 18.35 น.ผู้ชุมนุมตัดเหล็กเส้นขึงเกาะกลางถนน หน้า สตช.ถนนพระรามที่ 1  และห้ามสื่อมวลชนถ่ายภาพ จากนั้นได้มีการสาดสาดสีไปยังป้าย สตช. อย่างไรก็ตามเนื่องจากหน้าสตช.มีการใช้รถบรรทุกดินมาจอดขวางยกดั้มตั้งเป็นกำแพงสูงทำให้ไม่สามารถมองเห็นเจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านใน  ผู้ขุมมนุมจึงมายืนรายรอบรั้ว ด้านข้างสำนักงานเลขานุการ  ส่งเสียงตะโกนด่าทอการทำหน้าที่ของทางตำรวจ และโจมตีนายกรัฐมนตรี สถานการณ์เริ่มตึงเครียดแล้ว

ด้านฝั่งตำรวจเตรียมกำลังพลไว้ 14 กองร้อย 2,000 นาย ส่วนใหญ่ประจำอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยใช้รถบรรทุกยกดัมพ์ขวางประตู เตรียมรถฉีดน้ำแรงดันสูง 3 คัน รถเติมน้ำอีก 2 คัน โดยพล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์  โฆษก ตร.ประกาศห้ามกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาทำกิจกรรม​ภายในสำนักงาน ตร.โดยเด็ดขาด ไม่ว่าห้วงเวลาใดก็ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย​ เว้นแต่จะมีการส่งตัวแทนเข้ามาเจรจา​อย่างสันติ​

มีรายงานว่า ตำรวจควบคุมฝูงชนได้นำเครื่อง Long Range Acoustic Device หรือ แอลแรด(LRAD) มาติดตั้งบนรถฉีดน้ำแรงดันสูง(จีโน่) ที่จอดอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

เครื่องดังกล่าวเป็นอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนชนิดหนึ่งในมาตรฐานสากล ใช้สำหรับป้องปรามไม่ให้มีการบุกรุกเข้ามา เป็นการส่งสัญญาณเตือนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเป็นเครื่องมือที่ใช้ช่วยสลายการชุมนุม โดยคุณสมบัติของแอลแรด ไม่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บถาวร หรือส่งผลต่อแก้วหูในระยะยาว สามารถส่งคลื่นเสียงรบกวนพิเศษ ที่มีความดังถึง 151 เดซิเบลเพื่อใช่ผลักดันกลุ่มคน หวังผลได้ไกลกว่าแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง และเป็นเครื่องมือที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนน้อยที่สุด และส่งคลื่นเสียงได้ระยะไกลถึง 3,000 เมตร ด้วยเสียงที่ชัดเจนในทุกระยะ และสามารถกำหนดทิศทางเสียงให้เจาะจงไปยังเป้าหมายได้