ย้ำมาตรา112ยังบังคับใช้
ตร.เตือนม็อบ
เตรียมเช็คบิลคณะราษฎร
ใครคิดหลบหนีเจอหมายจับ
‘เพนกวิน-อานนท์’ยังห้าว
จัดชุมนุมถนนอักษะอาทิตย์นี้
โพลล์จี้สำนึกบุญคุณแผ่นดิน
ผบ.ตร.นำลูกน้องชุดควบคุมฝูงชน ทำความสะอาดหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังโดนคณะราษฎรละเลงสีจนเละ ขณะที่ รอง ผบช.น.แย้ม จ่อออกหมายเรียกผู้กระทำผิดระนาว เตือนถ้าคิดหนีจะโดนหมายจับ ย้ำชัดประมวลกฎหมาย ม.112 ยังบังคับใช้ ด้านกลุ่มนักเลวเลวหลบฝนชุมนุมใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม ฝ่ายเพนกวิ้นยังห้าว นัดชุมนุมถนนอักษะ อาทิตย์นี้ ทนายอานนท์ โวอีกมีบิ๊กเซอร์ไพรซ์
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 21พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้ตรวจตราความเรียบร้อยในการจัดกิจกรรม‘บิ๊กคลีนนิ่งเดย์’รอบบริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมให้กำลังใจกำลังตำรวจที่มาปฏิบัติหน้าที่กิจกรรมครั้งนี้ หลังจากเมื่อวันที่18พ.ย ที่ผ่านมา ถูกกลุ่มชุมนุมคณะราษฎรได้สาดสีพ่นสเปรย์จนเกิดความเสียหายต่อป้ายสำนักงาน กล้องวงจรปิด ประตูรั้วและอื่นๆ
สั่งฟื้นความเชื่อมั่นตำรวจ
พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร.พร้อมทีมโฆษก ตร.เผยว่ากิจกรรมทำความสะอาดวันนี้ใช้กำลังพล 827นาย มีบางส่วนมาจากชุดควบคุมฝูงชนที่มาประจำการอยู่ที่นี่ถือเป็นการทำความสะอาดบ้านตัวเอง ภายหลังมีคนมาจัดกิจกรรมที่หน้าบ้านจนเกิดความเสียหายโดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.จึงสั่งให้ช่วยกันดูแลบ้านหลังนี้ให้ฟื้นตัวกลับมาโดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจต่อองค์กรเราเองและประชาชน และเป็นกำลังใจต่อคนที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยโดยจะซ่อมแซมทุกส่วนที่เกิดความเสียหายและปรับปรุงภูมิทัศน์ส่วนอื่นให้ดีขึ้นไปพร้อมกันทีเดียว ถือเป็นการสร้างความสามัคคีในหน่วยงานซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นมาหลายส่วนโดยเฉพาะประตูรั้ว ป้ายซึ่งเมื่อวานนี้มีภาคประชาชนมาช่วยทำความสะอาดแล้ว เราก็จะมาเก็บตกต่อไป
สำหรับตำรวจ ที่ร่วมทำความสะอาด เป็นตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และบางส่วนจากชุดปราบจลาจลที่พักคอยภารกิจมาช่วยกันทำความสะอาดและปรับปรุงภูมิทัศน์ทั้งภายนอกและภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย ส่วนเรื่องคดีความ ขณะนี้สน.ปทุมวัน กำลังรวบรวมข้อมูลจากส่วนต่างๆ พร้อมพิสูจน์ด้วยระบบเทคโนโลยี เนื่องจากมีมวลชนจำนวนมาก ก่อนจะเร่งดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายกฯขอบคุณช่วยทำความสะอาด
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แสดงความชื่นชม อาสาสมัคร และประชาชนทั่วไป รวมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ได้ช่วยกันทำความสะอาดพื้นที่ ทาสีใหม่เพื่อทับข้อความไม่เหมาะสม ในส่วนต่างๆของสถานที่ราชการ พื้นที่สาธารณะ รวมถึงส่วนของเอกชนด้วย หลังจากที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมได้รวมตัวกันบริเวณสี่แยกราชประสงค์ และหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อวันที่18 พ.ย.และได้ทำความเสียหายแก่ทรัพย์สินของทางราชการ เอกชน และพื้นที่สาธารณะ
ยันรบ.จำเป็นต้องรักษาความสงบ
โฆษกประจำสำนักนายกฯกล่าวอีกว่านายกฯหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกอย่างมีขอบเขตภายใต้กฎหมาย และการแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์เนื่องด้วยที่ผ่านมากกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีพฤติกรรมต่างๆที่ไม่เหมาะสม เข้าข่ายผิดกฎหมาย และอาจนำไปสู่ความเสียหายต่อประเทศชาติ และสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งรวมทั้งความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยทั่วไปด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย บนพื้นฐานของการรักษาบรรยากาศของความรัก ความสามัคคีปรองดองของทุกคนในชาติ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมือง และประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เป็นสำคัญ
ตร.ลั่นม.112ยังบังคับใช้อยู่
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.กล่าวถึงการเตรียมดำเนินการต่อผู้ชุมนุมที่แยกเกียกกาย ว่าเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ไปสำรวจความเสียหายของรถยนต์ในราชการตำรวจที่ถูกทำลาย และแจ้งความต่อตำรวจท้องที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งกำลังสืบสอบและพิสูจน์ทราบตัวบุคคล ตอนนี้รู้ตัวแล้ว กำลังจะออกหมายเรียก รวมถึงหมายจับ
เมื่อถามถึงข่าวลือการออกหมายจับผู้ชุมนุมวันที่17-18พ.ย. ในข้อหาตาม ม.112 พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า หากมีการกระทำผิดเข้าข่ายข้อใด พนักงานสอบสวนก็จะออกหมายเรียก หากมีพฤติกรรมหลบหนี จะขอหมายจับ ยืนยัน ม.112 ยังคงบังคับใช้ได้อยู่ เพราะเป็นสถาบันที่ทุกคนเคารพรัก ตำรวจคงไม่หนักใจ แต่ยืนยันว่าเป็นการปฏิบัติตามกรอบกฎหมาย ยึดหลักนิติรัฐ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ควบคู่กันไป
“อะไรที่จะลุกลามบานปลาย เราจะถอย1ก้าว ใครทำผิดต้องถูกดำเนินคดีแม้ไม่จำเป็นต้องเข้าจับกุมในที่เกิดเหตุทันที่แต่จะออกหมายเรียก หรือหมายจับภายหลังได้ซึ่งพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.เน้นย้ำเสมอให้อดทนและยึดหลักกฎหมาย อะไรเกิดกับเราก็ต้องยอมรับ”รองผบช.น.กล่าว
เร่งสอบติดตามชายชุดชมพู
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวถึงกรณีการใช้เคมีฉีดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมด้วยว่า อุปกรณ์ที่ใช้ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีและยึดตามมาตรฐานสากล การผสมสารเคมีเป็นด้วยระบบเทคโนโลยี เจ้าหน้าที่เป็นผู้นำไปใส่ไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้ ต้องผสมตามสัดส่วน เปรียบเทียบเช่นแทงก์สีปริ้นเตอร์ ยืนยันว่าทั้งตำรวจซึ่งเป็นต้นทางและนักข่าว รวมถึงผู้ชุมนุมที่เป็นปลายทางก็ได้รับอันตรายเท่าๆ กัน
เมื่อถามว่าทำไมถึงยืนยันได้ว่าชายชุดชมพู เป็นสมาชิกกลุ่มการ์ดคณะราษฎร พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า ตอนนี้กำลังสืบสวนเพราะภาพปรากฏเช่นนั้นว่าชายคนดังกล่าวอยู่ในกลุ่มการ์ดคณะราษฎร ยืนยันว่าไม่ได้ชี้นำ ขณะนี้รวบรวมเข้าสำนวนการสอบสวนแล้ว ยืนยันว่าเรามีการตรวจพิสูจน์และหลักฐานตามขั้นตอน
รอถกประเมินม็อบนัด25พย.
สำหรับการชุมนุมวันที่25พ.ย.นี้กำลังรวบรวมข้อมูลและรอการประชุมอีกครั้ง ทั้งนี้ จากสถานการณ์การชุมนุมในปัจจุบัน มีการแจ้งจัดการชุมนุมมากขึ้น ประเมินว่าหากการชุมนุมในประเทศจะสามารถยกระดับให้เทียบเท่าอารยประเทศ โดยตั้งจุดคัดกรอง จุดพิสูจน์บุคคล จัดเจ้าหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยและทำความสะอาดเช่นยุโรปหรือเกาหลีได้ จะเป็นการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญโดยแท้จริงอาจจะใช้สนามราชมังคลากีฬาสถานที่จุคนได้เยอะหรือแม้แต่สนามกีฬาธูปะเตมีย์ไม่ต้องมานั่งที่อยู่ที่แยกราชประสงค์ก็ได้
โพลเอือมจี้ม็อบอ้างพิทักษ์ภาษี
วันเดียวกัน ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล(SUPER POLL)เปิดเผยผลสำรวจภาคสนามเรื่องภาษีของราษฎร กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ(Quantitative Research)และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)จำนวน 1,112 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 19-21พฤศจิกายน2563 ที่ผ่านมา
เมื่อถามถึงภาษีของราษฎรพบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ93.3ระบุ ม็อบราษฎร หยุดอ้างว่าจะรักษาเงินภาษีของราษฎรเพราะเห็นแล้วว่าได้ทำลายทรัพย์สินส่วนรวมจากเงินภาษีของราษฎร รองลงมาหรือ ร้อยละ 92.9 ระบุ ม็อบราษฎรแท้จริง ต้องช่วยรักษาเงินภาษีของราษฎร ไม่ใช่ทำลายแบบนี้ ร้อยละ 92.7 ระบุ ม็อบประชาธิปไตย ใจเผด็จการยิ่งกว่าผู้มีอำนาจตอนนี้ เพราะคุกคามผู้อื่น บังคับผู้อื่น ต้องทำตามข้อเรียกร้อง ทำลายผู้เห็นต่าง ถึงจะรุนแรงบานปลาย ไม่สนเงินภาษีประชาชนที่ต้องมาฟื้นฟูหลังการสูญเสียร้อยละ 92.3 ระบุ น่าเคลือบแคลงสงสัยว่า ม็อบทำเพื่อตนเองและพวกพ้อง คนหยิบมือเดียวได้ประโยชน์ด้วยทุนต่างชาติมาทำลายเงินภาษีของราษฎร
ชุมนุมต้องสงบ/เชื่อทุนตปท.หนุน
ดร.นพดล กล่าวว่า ที่น่าพิจารณาคือ ร้อยละ91.7ระบุม็อบประชาธิปไตยแท้จริง ต้องชุมนุมด้วยความสงบ ช่วยรักษาทรัพย์สิน สมบัติชาติ ไม่ทำลายเงินภาษีประชาชนเหมือนที่หน้ารัฐสภา ร้อยละ91.6 ระบุถ้าเห็นแก่อนาคตของน้องๆพี่ๆมาทำลายทรัพย์สินส่วนรวมจากเงินภาษีของราษฎรทำไม ร้อยละ90.6 ระบุ ขบวนการต่างชาติ ร่วม ทุนในไทยหนุนม็อบ ปลุกปั่นทำลายเงินภาษีของราษฎร และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 90.0 ระบุ เงินภาษีของราษฎร ถูกม็อบทำลายเช่นรถเมล์ รถตู้ตำรวจ รถน้ำแรงดันสูง กล้องวงจรปิดดูแลความปลอดภัยของราษฎร เป็นต้น
ชี้คนไทยยังจงรักภักดีสถาบัน
ส่วนใหญ่หรือร้อยละ94.8ระบุคนไทยส่วนใหญ่ยังจงรักภักดีและต้องการปกป้องรักษาสถาบันหลักของชาติ ในขณะที่ร้อยละ 93.4ระบุไม่รัก ก็อย่าทำลาย และร้อยละ 91.6 ระบุ เอือมระอา กับม็อบ หยุดได้แล้ว ประเทศไทยต้องเดินหน้าต่อ จัดการคนทำผิดกฎหมายไม่ต้องเว้น
ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.4 ต้องการให้ผู้มีอำนาจออกมาออกมาทำบ้านเมืองให้ สงบสุข ไม่วุ่นวายโดยเร็ว ในขณะที่ร้อยละ 7.6 ระบุปล่อยไปแบบนี้ และที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงจุดยืนทางการเมืองของประชาชน พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 59.6 สนับสนุนรัฐบาล ในขณะที่ ร้อยละ 20.4 ไม่สนับสนุนรัฐบาล และร้อยละ20.0 เป็นพลังเงียบ ขออยู่ตรงกลาง
รับไม่ได้ทุบทำลาย คุกคามเห็นต่าง
ดร.นพดลกล่าวอีกว่าหลังเกิดเหตุปะทะทำลายทรัพย์สินราชการจากเงินภาษีของราษฎรส่งผลทำให้กลุ่มพลังเงียบและผู้เคยไม่สนับสนุนรัฐบาลบางส่วนเทคะแนนมาสนับสนุนรัฐบาลมากขึ้น และผลโพลเรื่อง ภาษีของราษฎรนี้ ชี้ให้ประชาชนทั่วไปเห็นอย่างน้อย สามอย่างคือ1) แกนนำและม็อบผู้เคยประกาศตัวเรื่อง ปกป้องภาษีของประชาชนแต่กลับมาทำลายเงินภาษีของประชาชนด้วยวิธีที่รุนแรงแบบธรรมดาที่ใครๆก็ทำได้คือทุบทำลายให้เสียหายและประชาชนต้องมาจ่ายเพิ่มในการซ่อมแซมฟื้นฟูแทนที่จะเอาเงินภาษีของประชาชนไปช่วยเรื่องสุขภาพและการศึกษา2) แกนนำและม็อบเคยเรียกร้องให้หยุดคุกคามประชาชนแต่กลับทำร้ายผู้เห็นต่างจนบาดเจ็บ รวมถึงคุกคาม เบียดเบียนผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน จนทำมาหากินไม่ได้ 3) แกนนำและม็อบเรียกร้องประชาธิปไตยแท้จริง แต่กลับไปบังคับข่มขู่และใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย พรรคพวกทำผิดกฎหมายได้ต้องปล่อยตัว ถ้าบ้านเมืองไม่มีกฎหมายแล้วราษฎรจะอยู่กันอย่างไร เพราะถ้าไปศึกษาประวัติศาสตร์ของประชาธิปไตยในโลกตะวันตกจะพบว่าประเทศเหล่านั้นมีสงครามกลางเมือง มีจลาจลเพราะกลุ่มผลประโยชน์ขัดแย้งกันในหมู่ประชาชน พวกเขาจึงต้องมีระบบการส่งตัวแทนผ่านการเลือกตั้งเข้าสู่สภาและแก้ปัญหาความขัดแย้งกันในสภา
“ถ้าคิดว่าสภาแก้ไม่ได้ก็ต้องยุบสภา เลือกตั้งใหม่ แต่ถ้ายุบสภาเลือกตั้งใหม่ภายใต้รัฐธรรมนูญปัจจุบันบางกลุ่มเล็งเห็นว่าจะได้ผลลัพธ์ไม่ถูกใจก็ต้องลงประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ถ้าอ้างอีกว่าลงประชามติแก้รัฐธรรมนูญเปลืองงบประมาณ ก็ควรคิดต่อว่า ถ้าปมนี้แก้กันไม่ได้จนเกิดความรุนแรงบานปลายเกิดการสูญเสียจะทำให้ราษฎรทั้งประเทศเสียงบประมาณมากกว่าหรือไม่ ทั้งงบประมาณฟื้นฟูประเทศเยียวยาการสูญเสียและงบประมาณตามกระบวนการประชาธิปไตยใหม่”ดร.นพดล กล่าว
ม็อบนร.ย้ายชุมนุมหน้าสยามฯ
เย็นวันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณแยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ กลุ่ม “นักเรียนเลว” ร่วมกับกลุ่ม “ม็อบเฟสต์”และภาคีนักเรียนทั่วประเทศ จัดกิจกรรม #บ๊ายบายไดโนเสาร์ มีกลุ่มเยาวชน นักเรียน และประชาชน มาร่วมทำกิจกรรมจำนวนมาซึ่งนัดหมายรวมตัวตั้งแต่เวลา13.00น.ที่หน้าตึกเกษร
ต่อมา เวลา13.30น.ทางแกนนำได้ประกาศเปลี่ยนจุดนัดหมายใหม่ เป็นบริเวณใต้บีทีเอส สยามสแควร์โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ย้ายมารวมตัวกันในเวลา14.00น.ก่อนจะทำการปิดถนนพระรามที่1 ฝั่ง ฝั่งเซ็นเตอร์พ้อยท์ สยามสแควร์ หน้าร้านทรูช็อป ซึ่งเริ่มมีมวลชนทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุมต่อเนื่องหลังฝนได้หยุดตก ส่งผลทำให้ไม่รถยนต์สามารถสัญจรผ่านได้
โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้รถเครื่องขยายเสียง จอดชิดฟุตปาธ เป็นเวทีชั่วคราว พร้อมเรียกผู้ชุมนุมลงถนนปิดการจราจร เพื่อตั้งเวทีใหญ่กลางถนน เป็นที่น่าสังเกตได้มีกลุ่มแอมเนสตี้ยังได้แจกริบบิ้นสีส้มให้กับผู้ชุมนุมที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ส่วนสีชมพูอายุ 15-18 ปี เพื่อดูแล และเฝ้าระวังหากเกิดการสลายการชุมนุม ในขณะที่ตำรวจดูแลอย่างใกล้ชิด และม็อบดังกล่าวได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่แล้ว
‘เพนกวิน’เปิดเวที22พย.ถนนอักษะ
ทางด้าน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำกลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำกลุ่มราษฎร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak เชิญชวนมาร่วมชุมนุมที่ ถนนอักษะ โดยระบุข้อความว่า “รวมพลังประชาธิปไตย ณ ถนนอักษะ พรุ่งนี้(วันอาทิตย์22พย.)สี่โมงเป็นต้นไป”
นายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบคณะราษฎร 63 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่างานนี้มีเซอร์ไพซท์
ขณะที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “ฝากมวลชนคณะราษฏร 25 พ.ย.63 นี้ ถ้าจะไป สำนักงานทรัพย์สินฯ อย่าไปเลย เปลี่ยนเป้าได้นะ เป็นบ้านพักค่ายทหารบิ๊กตู่ ดีกว่า ถนนวิภาวดี กว้าง ผิดแค่ พรบ.ชุมนุม ไม่รุนแรง ไม่แตกแยก ชอบธรรม “คิดใหม่ได้””
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เริ่มแล้วครับการแจ้งดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112ที่แกนนำม็อบบ้าระห่ำทะลุฟ้าท้าทายมาตลอด
ข้อมูลเบื้องต้นแจ้งความที่เชียงใหม่กระบี่ สนบางโพ และกองปราบ
รอผลสรุปชัดๆจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติชัดๆ23พยนี้อีกทีครับ อย่าหนีออกช่องทางธรรมชาตินะเพราะปิดกั้นหมดแล้ว ช่องทางขอลี้ภัยก็ดูจะโดนเบี้ยวเช่นกัน #อนาคตใหม่ของแกนนำมีแต่โรงพักศาลและราชทัณฑ์
อย่าใช้ตำแหน่งสส.ประกันตัวม็อบ
นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชน และเยาวชน ระดมกำลังกันมาช่วยทำความสะอาดสีที่เลอะอยู่ตามพื้นและจุดต่างๆ บริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระราม 1 ว่า ตนขอชื่นชมในการทำหน้าที่ของคนไทยที่ร่วมกันปกป้องประเทศ ซึ่งเยาวชนเหล่านี้ต่อไปจากลายเป็นคนสร้างอนาคตที่ดีให้กับประเทศต่อไป ตนจึงอยากแนะนำให้เยาวชนกลุ่มคณะราษฏรดูเอาไว้เป็นตัวอย่าง เพราะเมื่อทำดี คนเขาก็จะชื่นชม แต่ถ้ารวมกลุ่มกันออกมาทำลายประเทศ จาบจ้วงสถาบันทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ก็จะถูกคนไทยส่วนมากเขารังเกียจ วันนี้คณะราษฎรคงได้เห็นแล้วว่า ยังมีคนไทยและเยาวชนจำนวนมากที่เขาไม่ได้เห็นด้วยกับพวกคุณ เพราะฉะนั้นต้องออกมาจากโลกโซเชียลและมาดูโลกความจริงบ้าง
นายสิระ ยังกล่าวถึง ภาพที่ปรากฏทางโซเชียลถึงสถานการณ์จราจลบริเวณแยกเกียกกาย ในวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีภาพของลูกน้อง ส.ส.คนหนึ่งที่มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายภรรยาของตนเอง ไปแฝงตังอยู่ฝั่งกลุ่มคนเสื้อเหลืองจนเกิดความวุ่นวายขึ้นนั้น ตนในฐานะประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางโพ ดำเนินการตรวจสอบ เพื่อจับคนผิดมาดำเนินคดีโดยด่วน รวมถึงอาจมีนักการเมืองบางคนอยู่เบื้องหลัง เพราะภาพจากกล้องวงจรปิดค่อนข้างเห็นชัดเจนว่าใครเป็นใคร ทั้งนี้หากเจ้าหน้าที่ตำรวจยังเพิกเฉย ตนจะเชิญเข้ามาชี้แจงที่ กมธ.ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตำรวจจงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
“ผมขอฝากไปถึง ส.ส.หลายคนที่ประกาศเตรียมใช้ตำแหน่งประกันตัวผู้กระทำผิดของม็อบราษฎรว่า คนที่จะไปประกันตัวขอให้ใช้ทรัพย์สินในการประกัน กรุณาอย่าใช้ตำแหน่ง ส.ส.เพราะเมื่อคิดจะปกป้องคนที่จาบจ้วงสถาบันและทำร้ายประเทศ คุณก็ควรปกป้องในนามส่วนตัว เพราะตำแหน่ง ส.ส.นั้นได้มาจากความไว้วางใจของประชาชน และตำแหน่งเสร็จสมบูรณ์ตั้งแต่การกล่าวคำปฏิญาณตนในรัฐสภา ในเมื่อวันนี้ตัดสินใจที่จะทรยศต่อคำปฏิญาณก็ไม่ควรใช้ตำแหน่ง ส.ส.ไปหาประโยชน์ส่วนตน”นายสิระ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี