ปชป. จี้กกต.ยุติสอบคดี 9 ส.ส.ปชปถือหุ้นสื่อเหตุ ข้อเท็จจริงเดียวกับที่ศาลรธน.มีคำวินิจฉัยว่าไม่ผิด
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหัวหน้าทีมทนายความต่อสู้คดีหุ้นสื่อ ส.ส. ปชป. เขายื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ยุติการสอบสวนคำร้องที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นขอให้ กกต. วินิจฉัยว่าส.ส. 9 คนของพรรคประชาธิปัตย์ ถือครองหุ้นหรือเป็นเจ้าของธุรกิจสื่อ ที่เป็นเหตุให้สมาชิกสภาพความเป็น ส.ส. สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า ส.ส.ปชป. ไม่มีความผิดในเรื่องดังกล่าว
นายราเมศ กล่าวว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญกรณีมีการกล่าวหาส.ส.ถือหุ้นหรือเป็นเจ้าของในกิจการสื่อสารมวลชนขณะนี้ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ซึ่งเหตุผลในคำวินิจฉัยระบุไว้ชัดเจนว่า เหตุใดบ้างที่ไม่ถือว่า สิ้นสุดสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. และคำวินิจฉัยดังกล่าวผูกพันทุกองค์กร รวมถึง กกต. ที่หากนำคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมาเทียบเคียง เพื่อประกอบการสอบสวน การยุติการสอบสวนก็จะเป็นผลดีทำให้ไม่ซ้ำซ้อนกัน
“คำร้องที่กกต.สอบสวนอยู่มีข้อเท็จจริงเดียวกับที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า3ส.ส.ปชป.ไม่ผิด ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ไม่เป็นการสร้างภาระในการถูกดำเนินคดีซ้ำซ้อน จึงมายื่นขอให้มีมติยุติการสอบสวนเรื่องดังกล่าว” นายราเมศ กล่าว
สำหรับ 9 ส.ส.ปชป.ที่ถูกนายเรืองไกรร้อง กกต. ประกอบด้วย นายประกอบ จิรกิติ น.ส. จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช นายประมวล พงศ์ถาวราเดช นายวีระชัย วีระเมธีกุล นายชัยชนะ เดชเดโช นายเกียรติ สิทธิอมร นายสมชาติ ประดิษฐพร และน.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ซึ่ง 3 คนที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ผิดก็คือ นายสมชาติ น.ส.จิตภัสร์ น.ส.วชิราภรณ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี