บิ๊กตู่ย้ำกฎหมายมีอยู่แล้ว
ต้องใช้ม.112
ถ้าไม่ทำตร.โดนมาตรา157
‘วิษณุ’ยันจนท.ละเว้นไม่ได้
ตำรวจชี้การ์ดยิงกันเองเจ็บ2
ขัดแย้งส่วนตัว-ไร้มือที่3เอี่ยว
เล็งออกหมายจับดำเนินคดี
นายกฯ โต้“ส.ศิวรักษ์”บอกการบังคับใช้ ม.112 เป็นหน้าที่ของตำรวจ ถ้าไม่ดำเนินคดีถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ผิดม.157ระบุทุกอย่างไปจบที่ศาล ไม่สามารถก้าวล่วงได้ ด้าน ผบ.ตร. การันตีซ้ำ ต้องดำเนินคดีพวกจาบจ้วงห่วงชุมนุมนานกระทบแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ในขณะที่ตร.จ่อออกหมายจับอาชีวะยิงกันเองในม็อบ ยันเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่มีมือที่สามเข้ามาเกี่ยว
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ สน.พหลโยธิน พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เรียกประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีมีเหตุยิงการ์ดผู้ชุมนุมคณะราษฎรที่แยกรัชโยธินจนมีผู้บาดเจ็บ 2ราย ได้แก่ นายวันชัย อารีย์ อายุ 25 ปี อดีตนักศึกษาอาชีวะสถาบันเทคนิคปทุมธานี และนายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ อายุ 25 ปี อดีตนักศึกษาอาชีวะสถาบันมีนบุรีโปลีเทคนิค หลังประกาศยุติการชุมนุมหน้าธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ช่วงค่ำ วันที่ 25 พ.ย.
หลังแล้วเสร็จการประชุมพล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวว่า จากการสืบสวนและสอบสวนพยาน 3-4 ปาก ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ มีความชัดเจนว่าตำรวจจะขอศาลออกหมายจับผู้ยิงที่ถูกรุมทำร้ายร่างกายหลังก่อเหตุ เบื้องต้นเป็นความผิดฐานครอบครองอาวุธปืน เนื่องจากมีหลักฐานตั้งแต่ก่อนและขณะเกิดเหตุทั้งภาพกล้องวงจรปิด และพยานบุคคลชัดเจน ส่วนอาวุธปืนที่พบนั้นเป็นปืนลูกโม่ขนาด .38 เบื้องต้นพบว่ามีทะเบียน แต่กำลังตรวจสอบเรื่องการครอบครองและลายพิมพ์นิ้วมือ รวมถึงคราบเขม่าปืน
การ์ดยิงกันเองไม่มีมือที่ 3
พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวอีกว่า ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างคนยิงกับคนเจ็บนั้น จากการสอบปากคำทราบว่าทั้งคู่เป็นการ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎรจริง แต่ทั้งคู่ก็พ้นสภาพนักศึกษาแล้ว สำหรับต้นตอของปัญหามาจากเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับเรื่องการชุมนุม เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังยุติการชุมนุม แล้วมีฝ่ายหนึ่งเริ่มขว้างระเบิดปิงปองก่อน แล้วพากันวิ่งหลบหนี จนมีกลุ่มหนึ่งไล่ตาม และคว้าอาวุธปืนมายิง
ยืนยันว่าตำรวจไม่มีความกังวลเพราะยึดตามพยานหลักฐานที่ปรากฎ และยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีมือที่สาม แม้การ์ดจะบอกว่าไม่ได้ทะเลาะกันเอง แต่ก็ต้องสอบปากคำพยานเหตุการณ์อย่างละเอียดถึงเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้ง เพราะหลังเกิดเหตุต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันหลบหนี ตอนนี้ยังไม่ได้สอบคนเจ็บทั้ง 2 ราย เพราะแพทย์ไม่อนุญาต
เก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว
ด้าน พ.ต.ท.วิโรจน์ ผลบุญ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.พหลโยธิน กล่าวว่า เมื่อคืนกองพิสูจน์หลักฐาน และพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังมีเหตุยิงกันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ คือนายวันชัย กำลังรักษาตัวที่ รพ.พระราม 9 ถูกยิงเข้าที่ท้อง ส่วนนายภาสพงศ์ ถูกรุมทำร้ายร่างกายเนื่องจากเข้าใจว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ รพ.เซนต์หลุยส์
พ.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นของบุคคลใดเนื่องจากการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ เพราะหนึ่งในผู้บาดเจ็บมีอาการสมองกระทบกระเทือน ตำรวจจะเข้าไปสอบปากคำอีกครั้ง ตอนนี้ยังไม่ได้อายัดตัว ต้องตรวจสอบคลิปปรากฎในสื่อโซเชียลว่าเห็นผู้ก่อเหตุด้วยว่ามีความสอดคล้องกันหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีรายงานแจ้งว่า หลังมีการแจกคูปองเป็ดหรือธนบัตรคณะราษฎรให้กับผู้ชุมนุมนำไปใช้แลกซื้อสินค้าจากผู้ค้าภายในม็อบแล้ว ได้มีผู้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้แจกคูปองเป็ดในความผิดตาม พ.ร.บ.เงินตรา จริง แต่กำลังพิจารณาว่าจะเข้าข่ายความผิดหรือไม่
อย่ามาโยนความผิดให้รัฐบาล
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมกลุ่มราษฏรที่หน้าเอสซีบี ว่า ตนเคยพูดหลายครั้งแล้วว่า หากชุมนุมถูกกฎหมายก็ห้ามอะไรไม่ได้ แต่ต้องเป็นการชุมนุมที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตามต้องเคารพกฎหมาย อย่าทำผิดกฎหมาย กฎหมายเขียนว่าอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตามนั้น รัฐบาลก็มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนไม่ว่าจะกี่พวกก็ตาม แต่ไม่ว่าจะพวกไหนก็ต้องไม่ทำผิดกฎหมาย ใครทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีเหมือนกัน สำหรับเหตุการณ์ยิงกันหลังการชุมนุมที่เอสซีบี ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่น่าเสียใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ตนกำลังให้เจ้าหน้าที่สอบสวนติดตามอยู่ เห็นว่ามีภาพถ่ายมีอะไรตลอด สื่อก็ได้บันทึกไว้ ก็จะได้พิสูจน์ได้ว่าใครทำกันแน่ ไม่อย่างนั้นก็โยนกันไปโยนกันมาว่าอีกพวกหนึ่งทำ ว่ารัฐบาลทำ ทั้งที่รัฐบาลมีแต่ทำหน้าที่ดูแลให้ทุกคนปลอดภัย มันเป็นหน้าที่ของรัฐบาล เข้าใจหรือไม่ การชุมนุมจะต้องช่วยกัน อย่าให้เกิดขึ้นอีก จะต้องเป็นการชุมนุมที่ปลอดภัย ถ้าคนไปร่วมชุมนุมถ้าไปแล้วไม่ปลอดภัยเขาก็ไม่ไป
ห่วงชุมนุมนานกระทบเศรษฐกิจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯได้ประเมินหรือไม่ว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อจะส่งผลกระทบมากแค่ไหน นายกฯกล่าวว่า ตนอยากฝากคนทั้งประเทศให้กังวลด้วยแล้วกัน เพราะตนกังวลอยู่แล้ว ยิ่งชุมนุมนานไปก็ยิ่งเสียหายมากขึ้น ยิ่งนานไปเศรษฐกิจก็ขับเคลื่อนไม่ได้ ยิ่งนานไปการจราจรก็ติดขัดมากขึ้น ขอถามหน่อยว่า ได้ประโยชน์กับใคร เขาอาจจะได้ประโยชน์ของเขา แต่หาวิธีการอื่นไม่ได้หรือ ที่ดีกว่า ที่มันสงบ ไม่ให้เกิดอันตราย หรือไปล่วงละเมิด ตนว่ามันควรตรงนั้นมากกว่า สื่อช่วยกันพูดหน่อย
‘ฟันเฟืองธนบุรี’ร่อนแถลงการณ์
ต่อประเด็นดังกล่าวกลุ่ม ฟันเฟืองธนบุรีได้ออกแถลงการณ์ ว่าขอเรียกร้องขอให้ผู้ที่สร้างสถานการณ์หรือมีส่วนรู้เห็นออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมิได้ลดทอนความเป็นเพื่อนร่วมเส้นทางประชาธิปไตยหากแต่ยังสร้างให้เรามีความเหนียวแน่นกันมากยิ่งขึ้น และเราจะดำเนินการไปด้วยกันเพื่อให้ผู้ได้รับบาดเจ็บได้รับความเป็นธรรม ทั้งทางกฎหมายและภาคสังคม เราจะไม่ยินยอมให้ความรุนแรงทำร้ายเรา เราจะสู้กับความรุนแรงด้วยสันติวิธี
‘อานนท์’โดนอีก2หมายเรียกม.112
นายอานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร โพสต์เอกสารหมายเรียก 2 ข้อกล่าวหาผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมระบุข้อความว่า ขณะที่ตื่นมากำลังคิดว่าจะเอาชุดเป็ดที่ใส่เมื่อวานลงเครื่องซักผ้าได้มั้ยหรือต้องซักมือ แม่ก็ส่งจดหมายมาให้ 2ฉบับ 1.ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมที่ สน.ชนะสงคราม กรณีชุมนุมเมื่อวันที่ 19 กันยายน ตำรวจเขาจะแจ้งมาตรา112 เพิ่ม 2.ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ ปอท.เขาจะแจ้งมาตรา 112 จากกรณีเขียนจดหมายถึงในหลวงเมื่อวันที่ 8พฤศจิกายน
ส่วนจากกรณี นายปิยรัฐ หรือโตโต้ จงเทพ อายุ 30 ปี อดีตผู้สมัคร ส.ส.อนาคตใหม่ แกนนำคนสำคัญและหัวหน้าการ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมคณะราษฎร 2563 ได้ถูกจับกุมตัวตามหมายจับความผิดมาตรา 116 ซึ่งเป็นคดีที่เกิดขึ้นที่จ.อุบลราชธานีตามที่ได้นำเสนอไปแล้ว มีข่าวว่า ศาลจังหวัดอุบลสั่งปล่อยตัวโตโต้แล้วครับ ไม่รับฝากขังจากตำรวจ”
อีกคดีศาลจังหวัดอุดรธานี ให้ประกันตัว นายอรรคพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ราษฎร ที่ ถูกจับตามหมายจับ ข้อหา ยุยงปลุกปั่น ม.116 จากการปราศรัยที่จ.อุดรธานีเมื่อวันที่ 22 ต.ค.63 ที่ผ่านมา ซึ่ง นายอรรคพล เปิดเผยว่า ไม่ได้หวั่นไหว เพราะเราสู้ตามวิถีประชาธิปไตย และจะสู้ต่อไปโดย ไม่กลับไปสู่วังวนรัฐประหารและเผด็จการอีก
ทำผิดม.112จนท.ละเว้นไม่ได้
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ กรณี นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ นักคิด นักเขียนชื่อดัง เจ้าของสมญานาม “ปัญญาชนสยาม” ตำหนิการใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ดำเนินการกับผู้ชุมนุม ของเจ้าหน้าที่รัฐ ว่า ตนไม่มีความเห็นในเรื่องดังกล่าว เมื่อถามว่า เรื่องนี้ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ คนทั่วไปสามารถแจ้งความดำเนินการได้ใช่หรือไม่ หากเห็นว่าเข้าข่าย นายวิษณุ กล่าวว่า การดำเนินคดีตามมาตรา 112 มันมีกระบวนการของมัน กระบวนการที่ใช้ในอดีตก็ยังเป็นกระบวนการที่ใช้ในปัจจุบัน
“ขอย้ำว่ากฎหมายมาตรา112 ยังมีอยู่ ส่วนจะใช้หรือไม่ก็แล้วแต่ความเหมาะสมของเหตุการณ์ วันนี้เมื่อมีการพูดจาไปถึงขั้นเข้าข่ายความผิดของมาตรานั้น จริงๆจะละเว้นเสียก็คงลำบาก แต่กระบวนการในการดำเนินการก็มีอยู่ เพื่อกลั่นกรองไม่ให้มีเรื่องเกิดขึ้นได้ง่ายๆ แต่ไม่ใช่จะตัดทิ้งไปเพราะยังมีอยู่ และไม่ใช่ว่าใครคิดจะทำก็ทำได้ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวเป็นกระบวนการพิเศษของกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่แตกต่างจากมาตราอื่นที่ไม่มีกระบวนการ ส่วนกระบวนการเป็นอย่างไรนั้นให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้อธิบาย”
“แรมโบ้”สวน”ส.ศิวรักษ์”
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ นักเขียนชื่อดังร่วมการชุมนุมกลุ่มผู้ชุมนุม และปราศรัยถึงการที่นายกฯนำมาตรา 112 มาใช้เป็นการขัดพระราชโองการว่า เป็นการกล่าวหาใส่ร้ายนายกฯที่บิดเบือนมาก ตนกำลังให้ฝ่ายกฎหมายถอดคำปราศรัยที่นายสุลักษณ์ฯโจมตีนายกฯเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายสุภรณ์ กล่าวว่า ขอย้ำว่าที่นายกฯ นำมาตรา 112 มาใช้ถือว่าได้ทำตามกฎหมายที่นำใช้กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบัน ซึ่งนาย ส.ศิรักษ์ ก็ย่อมรู้ดีแก่ใจอยู่แล้วว่า กลุ่มผู้ชุมนุม ก้าวร้าวจาบจ้วง บิดเบือนใส่ร้ายสถาบันฯ นายส.ศิวรักษ์ เปรียบเหมือนตะวันใกล้ตกดิน ไม่ควรออกมาสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมือง ควรเอาเวลาไปเลี้ยงหลาน
ใช้ม.112ตำรวจต้องทำตามหน้าที่
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ว่า การใช้มาตรา112 ดำเนินการกับกลุ่มม็อบเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เขาต้องทำไปตามข้อมูลและหลักฐาน แต่ทั้งหมดไม่ได้จบที่ตรงนี้ต้องอยู่ที่ศาล ซึ่งศาลเป็นองค์กรอิสระรัฐบาลไม่มีอำนาจไปก้าวล่วง นายกฯไม่มีอำนาจตรงนั้น แต่ตรงนี้อำนาจของตนเพียงให้เขาทำให้ถูกต้อง ตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้ถูกฟ้องร้องภายหลัง ก็ต้องระมัดระวังซึ่งกันและกันให้มากที่สุด ถ้าเคารพกฎหมายก็ไม่จำเป็นต้องใช้ตำรวจ
เมื่อถามย้ำว่า นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์เรียกร้องให้นายกฯทบทวนการใช้มาตรา 112 นั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นคนใช้ แต่เจ้าหน้าที่เป็นคนใช้และกฎหมายก็มีอยู่แล้ว ส่วนที่ระบุว่า นายกฯเป็นถึงประธานก.ตร.มีอำนาจที่จะสั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ให้ใช้มาตรานี้ได้นั้น ถ้าตนละเว้นมากๆก็โดนมาตรา 157 เมื่อถามอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หน้าสำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในเหตุการณ์ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แล้วอยู่ในพื้นที่ของใคร พื้นที่กลุ่มไหน ตำรวจเข้าไปได้หรือไม่ ที่ผ่านมาตำรวจเข้าไปยังไม่ได้เลย เป็นพื้นที่สงวนไว้เฉพาะ ถ้ามีเหตุการณ์จริงๆ ก็ไปเชิญตำรวจเขามาได้ ถ้าเข้าไปเองก็มีปัญหาอีก พอไม่ชัดเจนก็โยนให้เจ้าหน้าที่ ว่า เป็นผู้ทำอีก บทเรียนมีอยู่แล้วในหลายปีที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้
ผบ.ตร.ยันต้องทำตามกฎหมาย
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.กล่าวถึงผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา112 ว่า เรื่องจำนวนไม่สามารถไปกะเกณฑ์ได้ ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานจากชุดสืบสวนสอบสวนว่าคืบหน้าไปเท่าไหร่ ซึ่งอาจแถลงให้ทราบเป็นครั้งคราว ที่เหมือนกับทุกคดีต้องไม่เสียหายต่อการสอบสวน ก็พยายามจะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ทั้งนี้ยืนยันว่าตำรวจเป็นผู้รักษากฎหมาย คงกังวลทุกเรื่องอยู่แล้วที่ใครจะละเมิดกฎหมาย โดยเฉพาะการละเมิดเกี่ยวกับสถาบัน ที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต่อภาพรวมความรู้สึกคนไทย คงไม่มีใครอยากทำแบบนี้ ฝากเตือนใครที่คิดทำเรื่องพวกนี้ทางเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี