“นายกฯ” ยันไทยไม่ระบาดโควิดระลอกสอง ไม่ใช่ซูเปอร์สเปรดเดอร์ แจงเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ขอปชช.อย่าตื่นตระหนก ประสานเพื่อนบ้านสกัดคนเข้าช่องทางธรรมชาติ ขู่โทษหนักขบวนการลักลอบ-จนท.เอี่ยว
เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.เวลา 12.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ออกรายการรูปแบบเล่าเรื่อง ในหัวข้อ “การรับมือกับโควิด-19” ผ่านแอพพลิเคชั่น พอดแคสต์ไทยคู่ฟ้า ว่า วันนี้ต้องติดตามการชี้แจงทั้งในส่วนของรัฐบาล ศบค.และกระทรวงสาธารณสุข และเราก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีการลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ โดยผ่านด่านตรวจ ซึ่งส่วนที่ผ่านมาทางด่านตรวจเราได้นำเข้าสถานที่กักตัวของรัฐเรียบร้อยแล้ว แต่ปัญหาสำคัญคือ ไม่เข้ามาทางช่องทางที่ถูกต้อง แต่เข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ จึงมีการวางแนวทาง คือ แนวทางที่หนึ่ง ตามแนวชายแดน ตนได้สั่งการให้ ทหาร ตำรวจ และกองกำลังต่างๆ มีมาตราในการสร้างเครื่องกีดขวางในระยะที่หนึ่ง เพิ่มการลาดตระเวน 24 ชั่วโมง แต่ก็อาจจะมีการเล็ดลอดเข้ามาได้ แนวทางที่สอง คือ พื้นที่กระทรวงมหาดไทย พื้นที่ตอนในเข้ามา ที่จะต้องมีการสกัดกั้น ตั้งจุดสกัดต่างๆให้มีความพร้อมในการตรวจบุคคลเหล่านี้ที่จะเข้ามา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า และแนวทางที่สาม คือ ประชาชนในพื้นที่ต้องสังเกตคนที่เข้ามาในหมู่บ้าน แม้จะเป็นคนที่เคยอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน แต่อย่าลืมว่าเขาไปทำงานที่ต่างประเทศ จึงขอให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ ทั้งนี้ ผู้ที่ละเมิดเข้ามาหากมีความจำเป็นเราต้องบังคับใช้กฎหมายในการลงโทษ เพราะถือว่าไม่รับผิดชอบต่อคนอื่น และสังคมโดยรวม ส่วนสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศนั้น สถานการณ์ในประเทศไม่ได้อยู่ในขั้นเลวร้าย ถึงแม้ว่าจะมีการลักลอบเข้ามา แต่เราสามารถควบคุม ติดตาม และดูแลรักษาได้อยู่ที่เราทุกคนต้องช่วยกัน และไม่ได้เรียกว่าการแพร่ระบาดระลอกที่สอง หรือไม่ใช่ซูเปอร์สเปรดเดอร์ เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ซึ่งส่วนใหญ่ที่ตรวจพบในตอนนี้มีการลักลอบเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเรามีการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านไปแล้วในการตรวจสอบคัดกรอง ช่วยกันสกัดกั้นช่องทางธรรมชาติทั้งฝั่งประเทศเราและประเทศเพื่อนบ้าน
“วันนี้ผมได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงพิจารณาใช้ภาพถ่ายทางอากาศ หรือจากโดรนดูว่าช่องทางใหม่ที่ใช้เข้ามามีช่องทางไหนอีกหรือไม่ เพื่อวางเครื่องกีดขวางและวางกำลังเพิ่มเติม นอกจากนี้ ผมขอเตือนผู้ที่อยู่ในขบวนการลักลอบไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม คนเหล่านี้จะต้องถูกลงโทษตามกฎหมายอย่างหนัก เพราะถือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายลักลอบพาคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายทางช่องทางธรรมชาติ ส่วนเจ้าหน้าที่หากใครมีส่วนร่วมผมถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย เป็นการผิดวินัยอย่างร้ายแรงจำเป็นจะต้องโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ขออย่าตื่นตระหนก ถ้าตื่นตระหนกมากไปปัญหาของเราจะเกิดขึ้นทางด้านเศรษฐกิจ เช่น การท่องเที่ยว การจองโรงแรม หรือมาตรการเราเที่ยวด้วยกัน เกิดปัญหาทั้งหมดทำให้เศรษฐกิจระดับล่างมีปัญหา มาตรการต่างๆที่ออกมาแล้วกำลังได้ผล มีคนจำนวนหนึ่งทำให้เกิดปัญหา เราต้องหาต้นตอปัญหานี้ให้เจอ และหาวิธีการแก้ปัญหาอย่างไม่นิ่งนอนใจ และสถานการณ์โควิดปีหน้าจะดีขึ้น จากการติดตามเรื่องวัคซีน เรามีความหวังและคาดหวัง เราทำทุกอย่างอย่างดีที่สุด ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดนที่ทำหน้าที่อย่างหนัก ถ้าช่วยกันแบบนี้แก้ปัญหากันได้หมดทุกเรื่อง”นายกฯกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี