‘ถวิล’ขู่ไม่คืนเก้าอี้ฟ้องแน่
ปปช.รับลูก
เปิดช่องยื่นฟัน‘ปู’ได้ทันที
ไม่ต้องรอคำสั่งศาลสูงสุด
พท.รับย้ายอดีตเลขาสมช.
นั่งในศอฉ.-ยืนอยู่ขั้วปชป.
ยืนกรานทำงานด้วยไม่ได้
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งให้สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) พิจารณายื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางในการคืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)ว่า ตนได้ติดตามเรื่องดังกล่าวอยู่ และนายกรัฐมนตรียังไม่ได้พูดเรื่องนี้ออกมาเลย
“รอให้การตัดสินใจของนายกฯ ชัดเจนก่อน และให้ท่านพูดออกมาเองดีกว่า เพราะว่า ขณะนี้เป็นแค่คนนั้นคนนี้ พูดยังไม่ได้ยินจากปากนายกฯ และคิดว่า นายกฯ มีดุลพินิจของท่านว่า จะพิจารณากรณีนี้อย่างไร เป็นเรื่องที่นายเอง เมื่อตัดสินใจอย่างไรแล้ว ท่านต้องรับผิดชอบการตัดสินใจของท่านเองคนอื่นไม่ได้มาร่วมรับผิดชอบด้วย”อดีตเลขาธิการ สมช. กล่าวย้ำ
เตือนปูคิดให้ดี-อย่าฟังรอบข้าง
และว่า ตนยังหวังว่านายกฯ จะตัดสินใจไปในทางที่ดีให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สำหรับตนได้ทุกอย่าง ถ้าอุทธรณ์ก็ไปต่อสู้ตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป ถ้าไม่อุทธรณ์ทุกอย่างก็จบ ตนก็กลับไปทำงานในตำแหน่งเลขาฯ สมช. ภายใต้การบังคับบัญชาของนายกฯ แค่อยากให้ท่านใช้ดุลพินิจของท่านเอง คนที่มาเสนออะไรท่านไม่แน่ใจว่าเสนอด้วยความบริสุทธิ์ใจ มากน้อยแค่ไหน หรือมีผลประโยชน์แอบแฝง
ขู่ยื้อจนเกษียณเจอกฎหมายแน่
เมื่อถามว่า หวั่นหรือไม่ว่า อายุราชการที่เหลืออีก 1 ปี จะกลายเป็นข้อได้เปรียบของรัฐบาล หรือไม่ ในการต่อสู้คดี นายถวิลกล่าวว่า ทางรัฐบาลจะคิดอย่างนั้น คือ ดึงเกมจนตนเกษียณ แต่ไม่รู้ว่า จะดึงไว้ทำไม ถ้ากลายเป็นการกลั่นแกล้งก็จะมีเรื่องของกฎหมาย
เข้ามาอีก นายกฯ ต้องตัดสินใจให้ดี คนแนะนำไม่ได้มาร่วมรับผิดชอบกับท่านแต่กระบวนการอุทธรณ์เป็นสิทธิ์ของนายกฯอยู่แล้ว
“แต่อย่าลืมว่า ท่านเป็นนายกฯ เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง วัยวุฒิอ่อนกว่าผมแน่นอน แต่วุฒิภาวะความรับผิดชอบท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ท่านก็ต้องตัดสินใจให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ไม่มีการเลือกที่รักมักที่ชัง เลือกปฏิบัติ ผมยังเชื่อในดุลพินิจของนายกฯ รอนายกฯตัดสินใจชัดเจนก่อน ผมก็มีแนวทางปฏิบัติของผมอยู่แล้ว ที่จะดำเนินการต่อไป” นายถวิล กล่าว
พร้อมฟ้องปปช.ฟันผิดม.157
นายถวิลกล่าวว่า หากเข้าลักษณะเป็นการกลั่นแกล้งจริง ตนก็ต้องปกป้องตัวเองอยู่แล้ว ที่ทำมาทั้งหมดเพื่อปกป้องตัวเอง ตนไม่ได้รุกรานท่านนายกฯ แต่ตนถูกรังแกไม่ได้รับความเป็นธรรม และศาลปกครองกลาง เพิ่งช่วยให้ตนไปอยู่กลางสนามเท่านั้นเอง ยังไม่ได้รุกเข้าไปพื้นที่อีกฝ่ายหนึ่ง ถ้าถูกยันกลับมาตนก็ต้องใช้สิทธิ์ เพื่อดูสิทธิ์ที่ตนควรจะได้ ไม่ว่าจะเป็นการยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
ย้ำเพื่อชาติพร้อมทำงานร่วมรบ.
เมื่อถามว่า ตำแหน่งเลขาฯ สมช.เป็นตำแหน่งที่อ่อนไหวมากที่สุดหรือไม่ ต่อการถูกโยกย้าย เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่รู้ข้อมูลความลับรัฐบาลมากที่สุดนายถวิลกล่าวว่า คิดอย่างนั้นไม่ได้ เรามาทำงานไม่ว่า นายกฯ หรือตน ต่างมาทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง เพื่อประโยชน์ประชาชน เมื่อเป้าหมายตรงกัน ไม่มีอะไรที่จะทำงานร่วมกันไม่ได้ ไม่มีอะไรที่จะไม่เชื่อใจตน เรื่องชาติบ้านเมือง ไม่อย่างนั้น ตนทำงานใน สมช.ไม่ได้
“ผมกล้ารับรองว่า รักษาผลประโยชน์ของชาติอย่างเต็มที่ และตำแหน่งเลขาฯสมช. เป็นตำแหน่งข้าราชการประจำ การโยกย้ายต้องเป็นไปตามระเบียบ ใช้วิธีปฏิบัติ อย่างฝ่ายการเมืองไม่ได้ ไม่เหมือนตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ” นายถวิล กล่าว
ปปช.ชี้‘ถวิล’ฟ้องนายกฯได้
ด้านนายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า หากนายถวิล จะฟ้องร้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯในข้อหาทุจริตต่อหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157ในกรณีที่นายกฯไม่ยอมคืนตำแหน่งเลขาธิการสมช. และยื่นคำอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดก็สามารถกระทำได้ โดยนายถวิลจะต้องแจ้งข้อกล่าวหามายังป.ป.ช.ตามขั้นตอนของกฎหมาย
“ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ได้รับเรื่องลักษณะนี้ไว้พิจารณาเป็นจำนวนมากซึ่งกรณีนี้นายถวิลสามารถดำเนินการฟ้องที่ป.ป.ช.ได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีคำวินิจฉัยจากศาลปกครองสูงสุด ส่วนกรณีที่ศาลปกครองสั่งให้นายกฯมีคำสั่งคืนตำแหน่งให้นายถวิลโดยเร็วนั้น กรอบระยะเวลาจะเป็นเท่าใดขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลปกครอง ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบสามารถร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอความชัดเจนได้” นายกล้านรงค์ กล่าว
รบ.ยันอุทธรณ์แน่เพื่อให้ชัดเจน
ในขณะที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงกรณีนายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เตรียมยื่นเรื่องต่อป.ป.ช. และผู้ตรวจการแผ่นดิน รวมถึงฟ้องทางแพ่งนายกรัฐมนตรี หากมีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางในการคืนตำแหน่งเลขาธิการสมช.ว่า
เรื่องนี้นายถวิลสามารถดำเนินการได้ เพราะคดียังไม่สิ้นสุด แต่รัฐบาลเตรียมที่จะยื่นอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาอีกครั้ง เพื่อให้เกิดชัดเจนซึ่งเป็นสิทธิทางกฎหมายที่ดำเนินได้เช่นกัน
ทำงานด้วยไม่ได้เพราะเคยอยู่ศอฉ.
“ถ้าดูรายละเอียดไม่พบประเด็นว่า นายกฯกลั่นแกล้งนายถวิล แต่เป็นเรื่องของความเหมาะสม เนื่องจากการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่พล.ท.ภราดร ได้ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ถ้านายถวิลเข้ามาทำหน้าที่ต้องตั้งคำถามว่าจะรับนโยบายได้ดีเหมือนพล.ท.ภราดรหรือไม่ เพราะนายถวิลเคยเป็นบุคคลในศอฉ.ซึ่งเคยให้ข่าวว่าเป็นคนวางแผนกระชับพื้นที่ทำให้ประชาชนที่มาชุมนุมเสียชีวิต อยากถามว่าจะเอานายถวิลมารักษาความสงบรวมทั้งดับไฟใต้ได้หรือไม่” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
ตอกปชป.ก็เคยย้าย‘พ.ท.สุรพล’
ส่วนกรณีนายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวหาว่า รัฐบาลลุแก่อำนาจในการย้ายนายถวิลว่า หากนายถาวรและพรรคปชป.ความจำไม่สั้น คงจะจำได้ว่าในยุคที่พรรคปชป.เป็นรัฐบาลก็มีการย้าย พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา อดีตเลขาธิการสมช. โดยอ้างว่าย้ายเพื่อความเหมาะสมไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
“ผมมองว่าสิ่งที่พรรคปชป.ทำนั้นเป็นเรื่องปกติ เพราะเลขาธิการสมช. เป็นตำแหน่งที่สำคัญต่อรัฐบาล คุมงานด้านการข่าว ต้องเลือกบุคคลที่สามารถทำงานกับรัฐบาลได้ ดังนั้นพรรคปชป.ไม่ควรนำเรื่องนี้มาเล่นเกมการเมือง และอย่าบิดเบือนประเด็น” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
พท.ลั่นรัฐบาลมีสิทธิ์เลือกใช้คน
ส่วนนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคพท. กล่าวย้ำว่า ถึงวันนี้คงชัดเจนแล้ว รัฐบาลจะยื่นอุทธรณ์แน่นอน โดยมอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีพิจารณารายละเอียดข้อกฎหมายทั้งหมด และคำวินิจฉัยของศาล ว่าจะสามารถอุทธรณ์ในประเด็นใด ดังนั้นถือว่าเรื่องนี้ยังไม่ถึงที่สุด ต้องรอดูว่าศาลจะชี้หลังการอุทธรณ์อย่างไร ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายบริหารด้วยในการตัดสินใจเลือกคนมาทำงาน ก็ต้องเลือกคนที่เขาไว้ใจได้
พูดชัดย้ายถวิลเพราะอยู่ข้างปชป.
“หลายฝ่ายออกมาพูดกันเยอะเฉพาะที่ไปของนายถวิล แต่ไม่พูดถึงวิธีมา ความจริงไม่มีเรื่องของความไม่เป็นธรรมอะไร ถ้าจำได้นายถวิลทำตัวเป็นคอหอย-ลูกกระเดือกแบบแยกกันไม่ได้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ประกาศเขตกระสุนจริง ใช้อาวุธสงครามยิงใส่ประชาชน จนเสียชีวิตเป็นร้อยบาดเจ็บกว่า 2,000 คน แทนที่จะกระเหี้ยนกระหือรือกลับมาทำงาน เอาเวลาไปสู้คดีสลายการชุมนุมปี’53 จะดีกว่า”นายอนุสรณ์ กล่าว
มาร์คจี้คืนเก้าอี้เพื่อความเป็นธรรม
ในขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคปชป. กล่าวในเรื่องนี้ว่า การโยกย้ายนายถวิลถือว่าไม่เป็นธรรม และอยากให้รัฐบาลคืนตำแหน่งเลขาธิการ สมช. ให้กับนายถวิล โดยนายกฯควรจะทบทวนการตัดสินใจที่จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลาง ส่วนกรณีที่พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช.คนปัจจุบัน ระบุว่า ในยุคที่พรรคปชป.เป็นรัฐบาลก็เคยถูกกระทำโดยไม่เป็นธรรมเช่นเดียวกัน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าในยุคนั้น พล.ท.ภราดรก็ไม่ได้มีการฟ้องร้องอะไรกัน แต่กรณีนี้มีผู้เสียหายฟ้องร้อง ซึ่งศาลก็ได้ชี้ออกมาแล้ว
เย้ย‘ไม่เปลี่ยนสี’เลยเปลี่ยนเก้าอี้
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุตโฆษกพรรคปชป. กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีเหตุผลที่จะยื่นอุทธรณ์เพราะการที่รัฐบาลโยกย้ายนายถวิลเป็นความจงใจเนื่องจากนายถวิลไม่เปลี่ยนสี และเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์การสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ซึ่งรับรู้ข้อเท็จจริงทุกอย่างเกี่ยวกับชายชุดดำและคนเสื้อแดง รวมถึงการโยกย้ายนายถวิลนั้น เพื่อเปิดทางให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์เข้ามารับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
“ดังนั้นจึงขอให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี ทำสิ่งที่ถูกต้องสักครั้งในชีวิต ในการไม่ยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวเพื่อคืนศักดิ์ศรีของข้าราชการน้ำดีให้แก่นายถวิลที่ไม่เคยเปลี่ยนสี เหมือนนายธาริตเพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)” นายชวนนท์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี