สภาฯเลื่อนถก2สัปดาห์
ผวาเชื้อไวรัสแพร่ระบาดหนัก
ม็อบราษฎรรายงานตัวตร.
ข้อหาจัดม็อบ14ตุลาคม
ลั่นปี’64ยกระดับป่วนเมือง
“ชวน” ถกวิป 3 ฝ่าย-หน.พรรคการเมือง มีมติเลื่อนประชุมสภาฯ 2 สัปดาห์ แล้วค่อยดูสถานการณ์โควิดอีกครั้งหนึ่ง ด้าน 7 แกนนำม็อบราษฎร “มายด์-ไผ่-ไมค์-อั๋ว-ลูกเกด-ฟอร์ด-สมยศ” รายงานตัวพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ รับทราบข้อหาจัดม็อบ14 ตุลาคมไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า ลั่นปีนี้ชุมนุมเดือดยิ่งขึ้น ย้ำจุดยืน3ข้อเรียกร้องเดิม แต่ต้องรอดูสถานการณ์โควิดก่อน ’แรมโบ้’แนะ’หญิงหน่อย’หยุดวาทะกรรมตีกินทางการเมือง ยันนายกฯ-รบ.ทำงานเชิงรุกแก้ปัญหาโควิด ควร ให้กำลังใจ มากกว่ามาซ้ำเติมกัน
เมื่อวันที่ 4มกราคม นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความเข้มงวดในมาตรการป้องกันโควิดในสภาผู้แทนราษฎร หลังมีหลายคนแสดงความเป็นห่วงว่า ที่ผ่านมารัฐสภาพยายามวางมาตรการให้เข้มงวดอยู่แล้ว และรัฐสภาก็ยังไม่เคยเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อแต่อย่างใด แม้จะเคยเกิดเหตุมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้าร่วมประชุมกรรมาธิการก็ตาม เพราะหลังส่งเจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ในห้องประชุมกรรมาธิการดังกล่าว 29คน ไปตรวจเชื้อปรากฏว่า ไม่มีใครติดเชื้อ หากทุกคนสามารถปฏิบัติตามมาตรการเดิมที่มีมาอยู่แล้วได้ ขอความร่วมมือ สส.ให้เชิญบุคคลภายนอกมาร่วมประชุมกรรมาธิการน้อยที่สุด ในฐานะเป็นหมอมองว่า จะลดโอกาสการติดเชื้อได้มาก
สภานัดถกต้องเลื่อนประชุมหรือไม่
นพ.สุกิจ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ตั้งข้อสังเกตหากยังคงให้มีการประชุมสภาฯอยู่ แล้วมีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19ขึ้นมาในสภา ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบนั้น เรื่องนี้ทุกคนที่อยู่ในอาคารรัฐสภาต้องมีความรับผิดชอบร่วมกัน อย่างไรก็ตาม วันที่ 4มกราคม เวลา15.00น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญประธานวิปฝ่ายค้าน รัฐบาล และหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค รวมทั้งประธานวิปวุฒิสภา ร่วมหารือในทางการปฏิบัติ หลังมีการขอให้เลื่อนการประชุมออกไปก่อน ว่าจะมีแนวทางการปฏิบัติอย่างไร หรือจะประชุมชดเชยอย่างไรเพื่อให้มีความชัดเจน
สภาเลื่อนประชุม2สัปดาห์จับตาโควิด
เวลา 17.25 น.นายชวน แถลงหลังการประชุมหารือร่วมกับวิป 3ฝ่ายและตัวแทนหัวหน้าพรรคการเมืองว่า ที่ประชุมมีความเห็นให้งดประชุมสภาฯออกไปก่อน เนื่องด้วยการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่กำลังขยายความรุนแรงมากขึ้น รวมทั้งรัฐบาลได้ออกข้อปฏิบัติห้ามการประชุมต่างๆ จึงเห็นควรระมัดระวังไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อเชื้อโรค ดังนั้นการประชุมสภาฯในวันที่ 6-8ม.ค.จึงมีมติไม่เอกฉันท์สมควรให้งดการประชุม แต่ก็มีข้อเสนอว่าจะงดประชุมได้แก่ 1.งดการประชุม4สัปดาห์และ2.งดการประชุม2สัปดาห์ โดยที่ประชุมมีการเชิญอธิบดีกรมควบคุมโรคเข้ามาให้ข้อมูลว่า ขณะนี้สถานการณ์ภายใน 2สัปดาห์น่าจะยังมีปัญหาอยู่ จึงคิดว่าเงื่อนไขความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และสมาชิกรัฐสภาหากเปิดการประชุมจะทำให้รัฐสภากลายเป็นชุมชนที่หนาแน่นและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ จึงมีความเห็นให้หยุดการประชุมไปก่อน 2สัปดาห์ เพื่อรอดูสถานการณ์ แต่ถ้าหนึ่งสัปดาห์สถานการณ์ดีขึ้นอาจเปลี่ยนแปลง แต่หาก 2สัปดาห์ไม่ดีขึ้นก็ต้องขอความร่วมมือการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.) และการประชุมย่อยต่างๆสามารถทำได้ แต่ห้ามไม่ให้นำคนนอกเข้ามา ทั้งนี้ เป็นการตัดสินใจของวิป 3ฝ่ายและตัวแทนหัวหน้าพรรคการเมืองทั้งหมด อย่างไรก็ตามในส่วนของตนนั้นจะมาทำงานตามปกติที่รัฐสภาทุกวัน แต่ไม่ประชุมที่มีคนมาก
‘แรมโบ้’วอน’เจ๊หน่อย’หยุดโจมตีรบ.
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ผู้ก่อตั้งสถาบันสร้างไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ประชาชนไม่ได้เป็นคนทำการ์ดตกแต่รัฐบาลที่การ์ดตก รัฐบาลต้องเลิกทำผิดพลาดซ้ำซาก โดยระบุว่าต้องขอขอบคุณคุณหญิงสุดารัตน์ที่มีคำแนะนำให้นายกฯและรัฐบาล แต่ขอให้คุณหญิงสุดารัตน์ อย่ากล่าวหานายกฯ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่านายกฯและรัฐบาลได้ทำงานอย่างหนักแค่ไหนในการแก้ไขปัญหา และตั้งแต่เกิดการระบาดอีกครั้ง นายกฯได้มีนโยบายทันทีที่ต้องทำงานเชิงรุก ตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงโดยไม่มีค่าใช้จ่ายและนำไปรักษาทันที นอกจากนี้ รัฐบาลยังคำนึงถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศ จึงยังไม่ประกาศล็อกดาวน์ ทั้งนี้ขอให้เข้าใจว่าการที่ประเทศต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เพราะเกิดจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งทั้งโลกก็เจอกับปัญหาเดียวกัน ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ทำผิดอะไร และไม่ได้การ์ดตก และที่มีการปล่อยให้แรงงานลักลอบเข้าประเทศไทย เป็นการกระทำของคนที่ทำผิดกฎหมายเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งนายกฯย้ำให้สอบสวนและนำคนกระทำความผิดมาลงโทษแล้ว ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะชีวิตคนและความเป็นอยู่ของประชานเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้
ควรให้กำลังใจนายกฯเหมาะสมกว่า
“เวลาเช่นนี้แทนที่คุณหญิงสุดารัตน์จะต้องให้กำลังใจนายกฯ รัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และประชาชน แต่กลับมาซ้ำเติมกัน ในเวลานี้เป็นช่วงที่ทุกคนต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาให้สถานการณ์คลี่คลาย พร้อมกันนี้ยังอยากให้คุณหญิงเห็นใจนายกฯและรัฐบาลที่ได้ทำงานอย่างหนัก เลิกกล่าวหา ต่อว่านายกฯ และหันหน้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาจะดีกว่า การพูดจากล่าวหาเพื่อหวังดูดีท่าทีสวย หมดยุคสมัยที่จะใช้วาทะกรรมเช่นนั้น และคุณหญิงเป็นนักการเมืองที่มีชื่อเสียงอยู่ในสายตาประชาชนจับตามองตลอด พึงควรระวังการ กล่าวหาใส่ความต่อนายกฯและรัฐบาลอันเป็นเท็จ และควรหยุดการใช้วาทะตีกินทางการเมืองได้แล้วครับ”
7แกนนำม็อบราษฎรเข้ารายงานตัว
ที่ สน.สำราญราษฎร์ แกนนำกลุ่มราษฎร 7ราย ประกอบด้วย น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ หรืออั๋ว นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือฟอร์ดและนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกฐานร่วมกันจัดชุมนุมสาธารณะไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมงฯ จากกรณีจัดกิจกรรมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมาFf
พ.ต.อ.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผกก.สน.สำราญราษฎร์ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้ทั้ง 7คนมารับทราบข้อหา กรณีจัดกิจกรรมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พื้นที่ สน.สำราญราญราษฎร์ ความผิดร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24ชั่วโมง บางส่วนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในส่วนของพรบ.ควบคุมโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง และพรบ.จราจรทางบก ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้นัดให้ทั้ง 7คน ส่งคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร ในวันที่ 19ม.ค.นี้
ย้ำปีใหม่นี้เคลื่อนไหวรุนแรงยิ่งขึ้น
เมื่อถามถึงการเคลื่อนไหวในปีนี้ นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ กล่าวว่า ประเด็นการเคลื่อนไหวจะเดือดขึ้นอย่างแน่นอน แต่เรายังคงไว้ซึ่งสันติวิธี ยังขับเคลื่อนประเด็น 3 ข้อ ทั้งการไล่พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี, การแก้ไขรัฐธรรมนูญ, และการปฏิรูปสถาบัน ทั้งนี้จะต้องดูสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19ก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี