“ชวน” ขีดเส้น “ฝ่ายค้าน” ต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนปิดสมัยประชุม 28 กุมภาพันธ์นี้ แง้มช่องเปิดกรณีพิเศษ ยันตรวจเข้มก่อนเข้าในสภา ในซีกรัฐบาล รุมถล่ม “ก้าวไกล” ผิดหวัง สภางดประชุม 2 สัปดาห์ “ธนกร” ซัด“พิธา”เล่นการเมืองไม่เลิก ‘แรมโบ้’ซัด ก้าวถอยหลังลงคลอง เมินสุขภาพเพื่อนส.ส. “สิระ”อัดสิ้นคิด เห็นรธน.สำคัญกว่าความเดือดร้อน ปชช.แนะกลับไปดูแลพื้นที่บ้าง ด้าน‘ฝ่ายค้าน’ยันยื่นซักฟอก รบ.ปลายม.ค.ล็อคเป้า‘บิ๊กตู่’ล้มเหลว แก้ปัญหาโควิด ปูดรมต.หลายกระทรวงโดนด้วย
เมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากไม่ทันสมัยสามัญ สามารถยื่นอภิปรายสมัยวิสามัญได้หรือไม่ว่า ไม่สามารถทำได้ คือสมัยการอภิปราย เป็นไปตามกฎหมาย ปีละครั้ง แต่ตอนนี้ ยังอยู่ในวาระอีก2 เดือน จะปิดประชุมซึ่งจะเสนอเมื่อไรก็ได้ จะเสนอพรุ่งนี้ก็ได้ ถ้าพร้อม ถ้าเสนอพรุ่งนี้ สภาจะนำมาเข้าระเบียบวาระเอาไว้ ไม่ได้มีปัญหา รวมทั้งเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ตนได้สั่งเอาไว้แล้ว ให้เสนอเข้ามา เพียงแค่สมาชิก จะไม่ได้พูด ไม่ได้แสดงเท่านั้น หากมีการส่งเรื่องเข้ามา รัฐสภา จะส่งต่อไปให้ฝ่ายบริหารไปดูแลเรื่องต่อไป
ถึงบอกว่า อย่าพยายามให้ปัญหาโควิดมา เป็นอุปสรรคในการดูแลปัญหาของประชาชน ซึ่งในช่วงที่ไม่มีประชุม คนที่อยากจะพูดและถ่ายทอดตนเองออกไป ถ้ามีปัญหาชาวบ้านจริงๆก็สามารถส่งมาได้ตลอด ขณะนี้ก็มีมาตลอด เมื่อส่งเรื่องมา เราก็ส่งเรื่องให้ฝ่ายบริหารทันที
ถ้า2เดือนไม่ดี เล็งเปิดกรณีพิเศษ
เมื่อถามว่าหากสถานการณ์โควิด-19ไม่คลี่คลายภายใน 2 เดือนนี้และจะหมดสมัยการประชุม หากฝ่ายค้านยื่นเรื่องมา โอกาสที่จะเปิดเป็นกรณีพิเศษเพื่อจะให้มีการอภิปรายเป็นไปได้หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า เป็นไปได้ เพราะโรคนี้มีความเสี่ยง แต่ก็ต้องระมัดระวังเช่นขอให้มีการสวมหน้ากาก นั่งห่างกัน เพราะโดยปกติ หากสังเกตเวลามีคนอภิปรายเพื่อน ก็จะไปจับกลุ่มนั่งข้างๆ คนอภิปราย แต่หากสวมหน้ากาก ก็จะเป็นการป้องกันโดยปริยาย ไม่ได้หมายความว่าแจะทำอะไรไม่ได้เลย
“การประชุมทุกอย่างเป็นปกติหมด วันนี้การประชุม ก็เป็นปกติ เพียงแค่ต้องระมัดระวังมากขึ้น นั่งห่างกัน และขอร้องอย่านำผู้ติดตามมา หากนำมา ก็อย่าเกินที่กำหนดและขอให้มีการตรวจสอบ กลั่นกรองโดยละเอียด ถ้าหากอุณหภูมิผิดปกติเล็กน้อย ก็ไม่อนุญาตให้เข้า หากใครที่ไม่สวมหน้ากาก ลืมหน้ากาก ก็ให้กลับไปเอาที่บ้าน ไม่ให้สภาแจก ต้องรับผิดชอบ”ประธานสภาผู้แทนฯกล่าว และว่าเป็นเรื่องความระมัดระวังเรื่องโรคภัยไข้เจ็บเท่านั้น ต้องยอมรับมาตรการที่ออกกำหนดมาบ้าง จะปล่อยไม่สนใจเลยก็ไม่ได้
ย้ำฝ่ายค้านยื่นซักฟอกก่อน28ก.พ.
เมื่อถามว่าพรรคฝ่ายค้านจะต้องยื่นอภิปรายครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ถึงจะบรรจุได้ทัน นายชวนกล่าวว่า ทัน เสนอมาก็ทัน สมัยประชุมปิดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ มีเวลาอีก 2 เดือน จะยื่นเมื่อไหร่ขึ้นอยู่ที่ความพร้อม ไม่ได้อยู่ที่สภา อาจจะขลุกขลักบ้าง แต่ไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของแต่ละฝ่ายซึ่งควรยื่นในขณะนั้นต้องมีระยะเวลาที่พอ ถ้าพร้อม ยื่นพรุ่งนี้ก็ได้ ส่วนระเบียบจะบรรจุเมื่อไหร่ ก็ต้องหารืออีกครั้งระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายที่ยื่นว่าจะเอาวันไหน
ถ้าล็อคดาวน์ค่อยถามซักฟอก
ส่วนกมธ.ที่แก้ระเบียบข้อบังคับว่าให้ประชุมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ น่าจะเสร็จระเบียบเพื่อให้ กมธ.สามารถประชุมต่อได้ จากการที่ตนเคยเข้าไปร่วมด้วย ก็พบปัญหาในเรื่องความไม่พร้อมทางด้านเครื่องมือ จึงสั่งให้สภาให้มีการดำเนินการให้พร้อม จึงมีการแก้ข้อบังคับไปแต่ข้อบังคับบอกว่ารายละเอียด ต้องเป็นไปตามที่ระเบียบออกมา ตอนนี้ก็มีการร่างระเบียบ คาดว่าจะเสร็จแล้ว
เมื่อถามว่าหากรัฐบาลออกประกาศล็อกดาวน์ทั่วไป จะเป็นการปิดประตูตายของการอภิปราย นายชวน กล่าวว่า“อันนี้ต้องถามรัฐบาล”เมื่อถามต่อว่าจะทำให้การอภิปราย ไม่เกิดขึ้นทันทีเลยหรือไม่ นายชวนย้อนถามว่า“เขาประกาศเมื่อไหร่ เอาไว้ประกาศแล้วค่อยถาม”
กมธ.แก้ไขรธน..งดประชุม7-8มค.
ด้านนายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ฉบับที่...)พ.ศ...รัฐสภากล่าวว่านายวิรัช รัตนเศรษฐ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานกมธ.ได้สั่งให้งดประชุมวันที่7-8 ม.ค.นี้ ภายหลังมีมติที่ประชุมกลุ่มต่างๆของรัฐสภากับพรรคการเมืองให้งดประชุมสภา2 สัปดาห์ ส่วนในสัปดาห์หน้าจะนัดประชุมได้หรือไม่ เบื้องต้นจะต้องมีการหารือกับกมธ.อีกครั้ง โดยใช้ช่องทางหารือผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์
จ่อชดเชยให้ทันตามกรอบเวลา
ส่วนการประชุม กมธ.นั้น ยังสามารถทำได้ แต่ให้พิจารณางดเชิญบุคคลภายนอกนั้นประเด็นสำคัญคือการประชุม กมธ.ที่มีคนจำนวนไม่มากสามารถทำได้ เพราะห้องประชุม กมธ.สามารถรองรับได้ แต่กมธ.แก้รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นคณะใหญ่ มีกรรมาธิการ มาก 45 คน และเมื่อรวมกับเจ้าหน้าที่ ทำให้มีคนร่วมประชุมไม่ต่ำกว่า 60 คน ดังนั้นอาจมีปัญหาที่ไม่สามารถหาห้องประชุมเพื่อรองรับได้ ส่วนหากงดประชุม จะกระทบต่อกรอบเวลาทำงานที่กำหนดไว้หรือไม่นั้น นายนิกรกล่าวว่าต้องจัดวันประชุม เพื่อชดเชยวันที่หายไปเพื่อให้การพิจารณาเป็นไปตามกรอบเวลา โดยไม่ใช่การรวบรัด
ซัด‘ก้าวไกล’ผิดหวังงดประชุมสภา
นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล ได้แสดงความรู้สึกผิดหวังกับมติงดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นเวลา2 สัปดาห์อาจทำให้การทำงานเกิดความล่าช้าว่า การตัดสินใจงดประชุม เป็นความเห็นร่วมกันของเสียงส่วนใหญ่ ที่มีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ต้องยอมรับว่าสภาอยู่ด้วยมติและสีเยงข้างมาก ทุกฝ่ายจึงต้องคารพ ยืนยันว่าสภามีมาตรการป้องกัน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะมีคนพยายามฝ่าฝืน จะเห็นได้จากกรณีที่อนุกรรมาธิการคณะหนึ่ง ปล่อยให้มีผู้ติดเชื่อจาก จ.ระยองเข้าร่วมประชุม โดยประธานอนุกรรมการชุดนั้นก็เป็นคนพรรคก้าวไกล ในสถานการณ์เช่นนี้ อยากให้คำนึงถึงความปลอดภัยและเสียงส่วนใหญ่ ไม่ใช่เรื่องของการเมือง หากดึงดันให้มีการประชุมจนทำให้ส.ส.หรือใครในสภาติดเชื้อ ใครต้องรับผิดชอบ เพราะกรณีของอนุกรรมาธิการก็สร้างความวุ่นวายที่ต้องส่งคนจำนวนมาก รวมทั้งตนไปตรวจหาเชื้อและยอมรับว่าการงดประชุม อาจส่งผลต่อการทำงานหลายอย่าง แต่สภาฯก็จะให้มีการประชุมชดเชย ซึ่งต้องรอดูสถานการณ์ อาจจะขยายสมัยประชุม หรือเปิดสมัยประชุมวิสามัญก็ได้
‘ธนกร’จวก‘พิธา’ยับโจมตีไม่เลิก
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล คัดค้านการงดประชุมสภาช่วงโควิดและกล่าวหารัฐบาลว่าอยากมีอำนาจ แต่ไม่อยากรับผิดชอบไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชนว่า ตนผิดหวังกับนายพิธามากเล่นการเมืองไม่เลิก ขนาดประชาชนเดือดร้อน จากวิกฤติโควิด-19 ยังโจมตีรัฐบาลด้วยข้อมูลเท็จ สร้างความสับสนให้กับประชาชน การงดประชุมสภาก็เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19ไม่เกี่ยวกับว่ารัฐบาลเป็นคนสั่ง หากนายพิธาไม่ห่วงตัวเองก็ควรจะห่วงเจ้าหน้าที่ ส.ส. ส.ว.หรือประชาชนบ้าง ถ้าหากติดโควิดจะทำให้เดือดร้อนวุ่นวายกันทั้งสภา ซึ่งทุกฝ่ายควรจะปฏิบัติตาม ศบค.หรือ กทม. หากเปิดประชุมแล้วเกิดแพร่ระบาดขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ
“สิ่งที่นายพิธาว่ารัฐบาลอยากมีอำนาจ แต่ไม่รับผิดชอบ ถามจริงๆว่าใครอยากมีอำนาจกันแน่ รัฐบาลนี้รับผิดชอบต่อประชาชนและประเทศชาติตลอดมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไม่เคยทิ้งประชาชน อย่าใช้วาทกรรมชุ่ยๆว่า รัฐบาลไม่สนใจความเดือดร้อนประชาชน ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ บริหารจัดการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ คำนึงถึงสุขภาพประชาชนเป็นหลัก ควบคู่ไปกับเศรษฐกิจและสังคม ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ทำสำเร็จมาแล้ว ในการระบาดครั้งแรก ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นรัฐบาล เชื่อมั่นระบบสาธารณสุขของไทย ซึ่งนายพิธาเป็นคนรุ่นใหม่ ขอให้ปรับกระบวนทัศน์ใหม่ด้วย ควรเป็นตัวของตัวเองได้แล้ว อย่าเป็นร่างทรงของใครเลย”นายธนกร ย้ำ
แรมโบ้อัด‘พิธา’เมินสุขภาพเพื่อนส.ส.
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่เห็นด้วยกับการปิดประชุมสภาฯว่า การปิดสภา ไม่เกี่ยวข้องกับนายกฯเป็นเรื่องของสภา นายกฯ ไม่ได้ไปสั่งการอะไร นายพิธาคงยังไม่เข้าใจสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในขณะนี้ สถานการณ์เช่นนี้ทุกฝ่าย จะต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคให้มากที่สุด อยากให้นายพิธามองเห็นถึงสุขภาพของเพื่อนสมาชิกสภาฯด้วย มากกว่าจะมาคิดเรื่องของการเมือง
“ความเป็นฝ่ายค้าน ต้องค้านอย่างมีเหตุผล บนพื้นฐานตรรกะความเป็นจริง มิใช่นั่งเทียนแล้วพูดเดาอย่างไร้เหตุผล เพียงหวังการตีกินทางการเมืองโดยเอาความเดือดร้อนของประชาชนมาหากินทางการเมือง นักการเมืองสไตล์นี้ จบเส้นทางการเมืองมาหลายรายแล้ว จึงอยากเห็นนายพิธาเป็นตัวอย่างที่ดีในสายตาประชาชน ถ้าเล่นการเมืองแบบเดิมโจมตีกล่าวหา ใส่ร้ายป้ายสี ในที่สุดความเสื่อมศรัทธาจะตามมา พรรคก้าวไกลจะกลายเป็นพรรคก้าวถอยหลังลงคลองในสายตาประชาชนอย่างแน่นอน”นายสุภรณ์ กล่าว
ซัดก้าวไกลเมินความเดือดร้อนปชช.
นายสิระ เจนจาคะ สส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวถึงที่นายพิจารณ์ เชาวพัฒนพงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุว่าพรรคก้าวไกล รู้สึกผิดหวัง ที่ให้งดประชุมสภา2 สัปดาห์ จะทำให้การผ่านกฎหมายล่าช้าทั้งการพิจารณาคณะกมธ.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมว่าส.ส.พรรคก้าวไกล ต้องตระหนัก ถึงความสำคัญก่อนหลังการประชุมสภา แบบที่เสนอ ไม่ใช่จำนวนคนเพียงแค่ 245คนเท่านั้น แต่หมายรวมถึงข้าราชการสื่อมวลชนและคนงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาจำนวนมากที่ต้องมาอยู่รวมกันในสถานที่ๆเดียว ถ้าเกิดแพร่ระบาดก็ไม่ได้หมายถึง ส.ส.ที่มาประชุมจะได้รับเชื้อแต่จะเกิดความเสี่ยงไปถึงคนรอบข้างและประชาชนในพื้นที่ ที่ส.ส.ต้องกลับไปพบเจอจะปล่อยให้ประเทศไทยติดเชื้อครึ่งค่อนประเทศแบบประเทศแถบยุโรปหรือสถานการณ์เช่นนี้โควิดกระจายไปทั้งโลก ไม่เพียงเฉพาะประเทศไทย
“ผมจึงอยากถามว่าเรื่องอะไรสำคัญที่สุด ใช่เรื่องความปลอดภัย ความเป็นอยู่ ปากท้องของประชาชนใช่หรือไม่ กฎหมายรัฐธรรมนูญ ทุกฝ่ายก็ยืนยันแล้วว่าจะต้องแก้ให้เสร็จในสมัยรัฐบาลชุดนี้ ที่สำคัญการประชุมสภา ยังมีเวลาเหลือเฟือ เพิ่มวันประชุมทีหลัง ก็สามารถทำได้ ผมไม่เข้าใจว่าส.ส.พรรคก้าวไกล ที่เข้ามาเป็นตัวแทนประชาชน ทำไมถึงให้ความสำคัญกับรัฐธรรมนูญมากกว่าความเดือดร้อนของประชาชนที่เขาเลือกพวกคุณเข้ามาหรือ พวกคุณส่วนใหญ่เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่รวบรวมคะแนนมาจากบรรดา ส.ส.สอบตก จึงไม่เข้าใจหน้าที่ส.ส.ว่าต้องทำอะไร”นายสิระ กล่าว
แนะลงพื้นที่/อย่ามุ่งประกันม็อบ
อย่างไรก็ดี นายสิระเรียกร้องให้พรรคก้าวไกลและพรรคฝ่ายค้านบางคน หยุดเล่นแต่เกมการเมือง ยุยง ปลุกปั่น ประชาชนในพื้นที่ของพวกคุณเขารอให้กลับไปดูแลอยู่ อย่าเอาแต่เวลาไปประกันตัวบรรดาแกนนำม็อบทั้งหลายเพราะตนได้รับเสียงสะท้อนจากประชาชนว่าไม่เคยเห็นหน้าพวกคุณไปดูแลเขาเลย ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อให้แก้รัฐธรรมนูญอีกกี่ฉบับ ก็คงยากที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนอีก วันนี้ตนคิดว่าพรรคก้าวไกล ไม่เหมาะสมที่จะใช้ชื่อนี้แล้ว น่าจะเป็นก้าวลงเหวมากกว่า
ฝ่ายค้านลั่นยื่นซักฟอกปลายม.ค.
บ่ายวันเดียวกัน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19รอบใหม่ส่งผลกระทบต่อการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล อาจไม่ทันก่อนปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 28 ก.พ.นี้ว่า ฝ่ายค้านกังวลเรื่องดังกล่าวอยู่ แต่ยืนยัน จะยี่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในช่วงก่อนสิ้นเดือนม.ค.นี้แน่นอน เมื่อยื่นไปแล้วจะบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระเมื่อใด จะเปิดอภิปรายได้เมื่อใด ทันก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯในวันที่ 28ก.พ.หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19
“หากไม่สามารถเปิดอภิปรายได้ทันก่อนปิดสมัยประชุมก็ต้องมีวิธีการชดเชยด้านเวลาให้ เช่น การขยายเวลาประชุมสภา ออกไปจากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 28 ก.พ. หรือการให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังไม่รู้ว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรจะใช้วิธีใด แต่ถ้าจะขยายเวลาประชุมสภา คงต้องขยายกันยาวๆเพื่อชดเชยเวลาที่งดประชุมไป 2สัปดาห์”ประธานวิปฝ่ายค้าน ย้ำ
และว่า ทั้งนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้าน จะหารือกันวงเล็กในสัปดาห์นี้เพื่อกำหนดกรอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจะมีเนื้อหาอย่างไร มีข้อมูลเรื่องใดบ้าง โดยจะพิจารณานำเรื่องความล้มเหลวของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19รอบใหม่ทั้งเรื่องความบกพร่องในการควบคุมสถานการณ์และการใช้งบประมาณแก้ปัญหาโควิด มาเป็นเนื้อหาการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย
เน้นซักฟอกความล้มเหลวแก้โควิด
ด้าน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคามอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะทำงานเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า พรรคร่วมฝ่ายค้าน มีความพร้อมในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตั้งแต่ก่อนปีใหม่ และนัดหมายกันว่าจะประชุมสรุปเนื้อหาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อไม่เกิดความซับซ้อนหลังปีใหม่นี้ คาดน่าจะพูดคุยกันสัปดาห์หน้า จากนั้นคาดว่าจะสามารถยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต่อประธานสภาผู้แทนฯอย่างช้าที่สุดปลายเดือนม.ค. จะไม่รอยื่นในช่วงใกล้ปิดสมัยประชุมเนื่องจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน มีความพร้อมในการอภิปรายอย่างเต็มที่อยู่แล้ว
ส่วนประเด็นการอภิปราย จะเน้นหนักไปที่ความล้มเหลวของรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ที่รัฐบาลไม่ได้มีมาตรการอะไรที่ชัดเจน และเป็นการแก้ปัญหา โดยจะมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในหลายกระทรวง โดนอภิปรายด้วยเนื่องจากบริหารประเทศทำให้เกิดความเสียหาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี