เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2564 สถาบันทิศทางไทย-Thai Move Institute ได้เผยแพร่การแถลงข่าวอย่างเป็นทางการของ นายสนธิญาณ ชื่นหฤทัยในธรรม ได้ออกมาเปิดใจถึงเบื้องลึกและเบื้องหลังของทีมงาน"ท็อปนิวส์"ที่ได้ฤกษ์จะออกอากาศผ่านทุกแพลตฟอร์มในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้
โดยนายสนธิญาณ กล่าวยืนยันว่า ตามที่คนไทยผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้รอคอยและสอบถามมาทุกช่องทางคือเรื่องอนาคตของทีมงานท็อปนิวส์ ตนขอยืนยันว่าวันนี้พวกเรายังเกาะเกี่ยวร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยอุดมการณ์เดียวกันอย่างเหนียวแน่น และวันที่รอคอยก็มาถึงแล้วคือวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ พี่น้องทุกคนจะสามารถรับข่าวสารของท็อปนิวส์ได้อย่างแน่นอนในทุกแพลตฟอร์มทุกช่องทางตามรายละเอียด ซึ่งจะได้แจ้งให้ทราบหลังจากที่ตนได้พูดคุยกับประชาชนจบลงแล้ว
นายสนธิญาณ ยังได้เล่าเบื้องหลัง และความในใจของการทีมงานท็อปนิวส์ว่า ในช่วงระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมาพวกเราต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ทุ่มเททำงานอย่างหนัก พยายามทุกวิถีทางที่จะสามารถนำพาข่าวสารที่ถูกต้องไปถึงท่านผู้ชมทุกคนได้ โดยผู้รายงานในทีมในทีมท็อปนิวส์ ยังอยู่กันครบถ้วนทุกคน และผังรายการวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้จะได้พบอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น นายสันติสุข มะโรงศรี น.ส.ตะวันรุ่ง เตี๋ยประดิษฐ์ น.ส.อัญชลี ไพรีรัก นายกนก รัตน์วงศ์สกุล นายธีระ ธัญไพบูลย์ นายสถาพร เกื้อสกุล นายวรเทพ สุวัฒนพิมพ์ น.ส.อุบลรัตน์ เถาว์น้อย น.ส.อมร แต้อุดมกุล นายวุฒินันท์ นาฮิม และนายศิรวิฑย์ ชัยเกษม พร้อมทีมงานคุณภาพยังอยู่กันครบถ้วน
นายสนธิญาณ กล่าวอีกว่า เหตุผลที่ตนอยากอธิบายให้ประชาชนทราบว่า การที่เรายังอยู่กันครบทุกคนก็เพราะเรามีหัวใจ และอุดมการณ์ร่วมกัน ไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ ทุกคนเอาความเสี่ยงของชีวิตตัวเอง เข้ามาแบกรับไว้บนบ่าร่วมกัน ไม่กลัวความยากลำบาก ไม่กลัวว่าอนาคตข้างหน้าเราจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง อย่างไร เพราะที่เดิมทุกคนมีรายได้ที่เลี้ยงตัวเองได้ มีความมั่นคง แต่ทุกคนกล้าเดินออกมาโดยไม่รู้ว่าชะตากรรมข้างหน้าจะเป็นอย่างไรด้วยเหตุผลเดียวกันเพราะอุดมการณ์ในความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่ง ณ เวลานี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความจริงให้ปรากฏ เพราะมีกลุ่มบุคคลบางพวกบางกลุ่มเอาข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไปบิดเบือนมาโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์
พวกที่อยากทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ก่นด่าว่า พวกเราว่าโหนเจ้า ก็ด่ากันเข้าไปครับ แต่ข้อเท็จจริงที่ผมอยากจะชี้แจง ซึ่งอยู่ในความรู้ความเข้าใจและอยู่ในหัวใจของทุกคนอยู่แล้วก็คือ 770 ปีนับตั้งแต่ราชวงศ์พระร่วงได้ก่อตั้งราชวงศ์สุโขทัย จนมาถึงปัจจุบันนี้ผ่านมา 8 ราชวงศ์ มีองค์พระมหากษัตริย์ 53 พระองค์ที่เป็นผู้นำร่วมกับประชาชนคนไทยไม่ว่าเชื้อชาติ ศาสนาใดรักษาแผ่นดินของเราเอาไว้ให้ลูกหลานได้อยู่กันได้อยู่อย่างปกติสุขมาจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งมีความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย
นายสนธิญาณ กล่าวด้วยว่า 238 ปีที่พระราชวงศ์จักรี รักษาประเทศไทยมา ผู้คนหลายเผ่าพันธุ์ได้สูญเสียสถานะอันต่อเนื่องในความเป็นชาติในความเป็นประเทศ แต่ประเทศไทยไม่ว่าเชื้อชาติศาสนาใด ยังสามารถยืนอยู่อย่างภาคภูมิใจว่าเราเป็นคนไทย ไม่ว่าเราจะเดินทางไปที่ไหน เราภาคภูมิใจในความเป็นไทย แม้แต่ในสถานการณ์ของโรควิกฤตโควิด-19 ทำให้โลกเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และสุขภาพ โลกต้องหมุนรอบกันใหม่ในการที่จะรักษาให้อยู่รอด ทุกประเทศได้พยายามที่จะรักษาประชาชนของตัวเองให้รอดพ้นจากวิกฤต
ทั้งนี้ จะเห็นว่า ในขณะที่ประเทศจากสหรัฐอเมริกา ในยุโรป ซึ่งมีคาถาของคำว่า ประชาธิปไตยกำกับ มีคาถาของคำว่าเสรีนิยมกำกับอยู่พบกับความเสียหายผู้คนติดเชื้อโรคโควิด-19 ไม่สามารถยับยั้งดูแลได้ ล้มตายร่วงผล๋อยเหมือนใบไม้ แต่ประเทศไทยของเรา ด้วยพระวิสัยทัศน์ของบูรพมหากษัตริย์ไทยที่ได้วางโครงสร้างทางสาธารณสุขเอาไว้ โดยเฉพาะในพระราชวงศ์จักรี ทำให้ระบบโครงสร้างทางสาธารณสุขของเราเข้มแข็งและถูกต่อเติมเสริมยอดมาจนทำให้วันนี้ ประชาชนคนไทยได้รับความเดือดร้อนน้อยกว่านานาประเทศเหล่านั้น และโอกาสที่จะฟื้นตัวย่อมจะมีโอกาสสูงกว่าประเทศอื่นๆที่กำลังเผชิญปัญหาอยู่
"ประเทศนี้อยู่กันมาได้ด้วยสถาบันกษัตริย์กับประชาชนเชื่อมโยงกันผูกพันกันด้วยหัวใจอย่างเข้มแข็ งแต่วันนี้อย่างที่ตนได้กล่าวไว้ว่ามีคนจำนวนหนึ่งของข้อมูลไปบิดเบือนไปยัดใส่ในความคิดของเด็กของคนรุ่นใหม่จำนวนหนึ่ง แล้วก็ก่อความวุ่นวายก่อความเดือดร้อนให้กับประชาชนและประเทศชาติโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดทั้งสิ้น ขอให้ได้เคลื่อนไหวความคิดของตัวเองออกไปเพราะเขาต้องการอำนาจใช้คาถาประชาธิปไตยไต่เต้าไปสู่อำนาจและผลประโยชน์ที่จะติดตามมา"นายสนธิญาณ กล่าว
พร้อมระบุว่า เราเคยเห็นผู้นำที่ไต่เต้าไปสู่อำนาจอย่างนี้มาแล้ว ชื่อนายทักษิณ ชินวัตร เห็นได้ชัดว่าในอดีตที่ผ่านมาประเทศชาติ ต้องประสบกับความเสียหายอย่างไรบ้าง นี่จึงเป็นหน้าที่ของทีมท็อปนิวส์ที่จะต้องทำความจริงนี้ให้ปรากฏ ตนทำข่าวมาถึง 38 ปี อุดมการณ์ที่ทำงานทางด้านข่าวสารก็คือความจริง ซึ่งความจริงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่ความสงบสุขอย่างยั่งยืนที่จะสร้างให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข มายาคติประชาธิปไตย มายาคติเศรษฐกิจเสรี แท้จริงแล้วเป็นการกล่าวอ้างเพื่อให้อำนาจมาอยู่ในมือของคนเพียงหยิบมือเดียว ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีอำนาจอยู่ในทางเศรษฐกิจขณะนี้ พอทหารยึดอำนาจก็เข้าไปสนับสนุน ถึงหน้าเลือกตั้งก็สนับสนุนทุกพรรค
ทั้งนี้ แม้แต่คนที่ประกาศตัวว่า เป็นพรรคเป็นคนรุ่นใหม่ บ้าคลั่งประชาธิปไตย แต่สิ่งที่ได้เห็นในการกระทำคือการเอารัดเอาเปรียบสังคม เอารัดเอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน โกงภาษี ติดสินบน รุกที่ป่า ความจริงเหล่านี้จะต้องถูกหยิบยกนำมาเสนอ ข่าวสารที่เป็นความจริงเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ ความจริงที่ว่านั้นไม่ใช่แค่ปรากฏการณ์ที่เห็นด้วยตาเฉพาะหน้า แต่ต้องเป็นความจริงทุกมิติ ในอดีตที่ผ่านมา คน วันเวลา สถานที่ องค์ประกอบ องค์รวมของข่าวสารในทุกมิติ จะต้องถูกนำเสนออย่างรอบด้านเพื่อผู้ชมสามารถเอาข่าวสารไปตัดสินใจ และวิเคราะห์ได้อย่างถูกต้องว่าจะมีท่าทีต่อการดำรงชีวิตอย่างไร มีท่าทีต่อเศรษฐกิจต่อการเมืองที่เป็นอยู่อย่างไร
นายสนธิญาณ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องสุดท้ายที่ท่านอยากรู้ว่า ทำไมต้องให้รอถึง 3 เดือนนั้น ตนขอชี้แจงว่า แน่นอนการทำงานของพวกเรามีอุดมการณ์ที่ชัดเจน มีกลุ่มบุคคลแม้จะไม่จำนวนมากแต่มีอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจ รวมทั้งอำนาจในการข่มขู่คนที่จิตใจไม่มั่นคงจึงทำให้การทำงานของเราในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และการเตรียมการที่จะนำเสนอข่าวสารถูกขัดขวาง ตัดแข้งขัดขาตลอดเวลาทั้ง 3 เดือนที่ผ่านมาพี่น้องประชาชนคงจะได้เห็นข่าวสารที่หลุดออกมาตลอดเวลา ล้วนแต่ทำให้เกิดความเสียหายกับทีมท็อปนิวส์ทั้งสิ้นตนไม่เคยพูดไม่เคยนำเสนอก้มหน้าก้มตาทำงานพี่น้องประชาชนบด้วยความอดทนด้วยการเตรียมงานของทีมงานที่ทำงานกันอย่างเข้มแข็ง
จนมาถึงวันนี้เรามีความพร้อมอย่างสมบูรณ์ถึงที่สุด ทั้งทีมงานที่มีอุดมการณ์ความรู้และทีมเทคโนโลยีที่จะนำพาข่าวสารของเรานำเสนอสู่พี่น้องประชาชนในทุกแพลตฟอร์มภายใต้ความพร้อมนี้อยากจะเรียนว่าทีมงานท็อปนิวส์มีนับร้อยชีวิต การเดินทางไปข้างหน้าจะต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงทางด้านธุรกิจ มันจึงเป็นภาระอันยิ่งใหญ่ที่อยู่บนบ่าของพวกเรา และยิ่งถ้าต้องพิจารณาการลงทุนที่จะต้องใช้เงินอย่างมากมายมหาศาล
เป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเราต้องคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบและต้องใช้เวลา การจะทำทีวีดิจิตอลนั้น ข้อเท็จจริงทุกคนรู้ว่า ในวันนี้ทีวีดิจิตอลที่มีอยู่ทั้งสิ้น 18 ช่องมีอยู่แค่ 3-4 ช่องเท่านั้นที่มีกำไร ส่วนช่องอื่นๆ ขาดทุนหมด ไม่เป็นไร พวกเขาเงินถุงเงินถังเงินหนา ก็สู้กันไป แต่สำหรับตนและทีมงานคิดว่าการที่จะต้องไปลงทุนในทีวีดิจิตอล 1,200 ล้านบาทในระยะเวลาสัมปทานที่เหลืออยู่ 8 ปีนั้น หมายความว่าเราจะทำให้ธุรกิจนี้คุ้มทุนเราจะต้องหาเงินให้ได้ในระยะเวลา 8 ปีนี้เป็นจำนวนถึง 3,600 ล้านบาท ต้องลงทุน 1,200 ล้านบาท ต้องมีค่าใช้จ่ายทุกเดือนปีละประมาณ 300 ล้านบาท เป็นเวลา 8 ปี ถือเป็นภาระที่หนักมาก ผมพยายามพูดคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ นักธุรกิจที่มาร่วมลงทุนเพราะมีอุดมการณ์ร่วมกันหลายท่านพร้อมที่จะเสียสละเงิน 1,200 ล้านบาทก็พร้อมจะสู้เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองและเชื่อมั่นว่าเราจะได้รับการดูแลจากพี่น้องประชาชนคนไทยด้วยการติดตามดูเราจะพยายามหาค่าโฆษณามาเลี้ยงตัวเองให้ได้
"แต่การเจรจากับทีวีดิจิตอลบางช่องไม่สามารถสำเร็จลงได้ ซึ่งยอมนับว่าเหนื่อยเหลือเกิน ในที่สุดเราก็ปรึกษากันว่าเรารอต่อไปไม่ได้เพราะผู้ชมรอนานถึง 3 เดือนแล้ว วันนี้โลกเทคโนโลยีไปไกลแล้ว ทุกแพลตฟอร์มเราจะสื่อสารออกไปพร้อมกันท่านผู้ชมมีโอกาสที่จะเลือกรับชมเราได้ทุกทิศทางทุกช่องทางเพราะถ้าผู้ชมติดตามเราให้กำลังใจเราเพื่อที่จะได้รับรู้ข่าวสารที่เป็นเช่นความจริง ยังไงเราก็จะเข้มแข็งและเดินต่อไปได้อย่างแน่นอน ผมขอกราบขอบพระคุณทุกแรงใจทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องประชาชนคนไทยหรือผู้หลักผู้ใหญ่ที่ผมเคารพเป็นจำนวนมาก 1 กุมภาพันธ์นี้ ท่านจะได้พบกับทีมงานคุณภาพที่เพียบพร้อมด้วยความรู้และมีอุดมการณ์เต็มอยู่ในหัวใจในการที่จะรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์สืบไปด้วยการนำพาความจริงที่ถูกบิดเบือนออกสู่พี่น้องประชาชนในทุกแง่มุมของข่าวสาร ขอให้พี่น้องประชาชนยืนหยัดอยู่กับเราเราก็จะยืนหยัดอยู่กับพี่น้องประชาชนด้วยความรักและเคารพศรัทธาซึ่งกันและกันในอุดมการณ์ที่ร่วมกันกับสวัสดีครับ"นายสนธิญาณ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยผังรายการที่จะออกอากาศในทุกแพลตฟอร์มพร้อมกันในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ด้วย โดยยังมีทีมงานผู้ประกาศข่าวชื่อดังอยู่ครบถ้วนหน้า โดยมีชื่อรายงาน อาทิ ข่าวมีคม เช้าข่าวเข้ม ผ่าประเด็นโลก ข่าวเที่ยงตรง ลึกจริงเศรษฐกิจ เปิดเนตร ผ่าประเด็นร้อน เล่าข่าวข้น และขอชัดๆ เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี